พีเค เปย์หนัก ทุ่มเงินให้ โยเกิร์ต จัดงานแต่ง น้ำตาซึม ฝ่าอาถรรพ์รัก 7 ปี

วันที่ 28 พ.ย. ที่ร้าน KT OPTIC ศูนย์การค้าเทอมินอล 21 พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร พิธีกรหนุ่มชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ในงาน ic!berlin launch party WORLD FIRST ASIAN FIT COLLECTION อัพเดตแพลนวิวาห์ หลังคุกเข่าสวมแหวนขอ โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ บุญประชม แฟนสาวแต่งงาน ที่มัลดีฟส์ เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

โดย พีเค เผยว่า “เลือกขอแต่งงานที่มัลดีฟส์เพราะเป็นสถานที่ที่สวยที่สุดแล้ว พอดีเขาเชิญเราไปเที่ยว ตอนแรกก็คิดว่าจะแอบขอที่กรุงเทพฯ ก็ไม่เวิร์ก ภูเก็ตก็ไม่เวิร์ก จะบินไปเมืองนอกก็ไม่เวิร์กอีก สุดท้ายคิดแล้วคิดอีกว่าไหนๆ ก็ต้องไปมัลดีฟส์อยู่แล้วเลยอีเมลไปจีเอ็มที่โน่น ขอความช่วยเหลือในการเลือกจุดที่สวยที่สุด เขาบอกว่าที่เดียวที่สวยที่สุดคือหน้าเรือตอนออกไปกลางมหาสมุทร แล้วเป็นเส้นที่ขอบฟ้ากับขอบน้ำสีเดียวกัน ตอนนั้นก็คิดว่าไม่มีอะไรเพอร์เฟ็กต์กว่านี้แล้ว เลยเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างให้พร้อมเพราะไปกันแค่สองคน พอขึ้นเรือไปปุ๊บก็มองตากับกัปตัน แล้วเขาก็บอกว่าเดี๋ยวพอถึงจุดที่ถ่ายรูปก็จะให้สัญญาณอีกที ระหว่างนั่งออกไปกลางทะเลใช้เวลา 1 ชั่วโมง ใจเต้นตึ้กตั้กตลอด จนถึงจุดที่สวยที่สุดเขาก็เอาข้อศอกมากระแซะ ผมก็เลยลากโยเกิร์ตไปถ่ายรูปข้างหน้า จากนั้นก็เอากล้องตั้งและกดไว้ กล้องที่ติดอยู่ตรงหน้าอกก็กดด้วย กล้องในมืออีกอันก็กดอีก แล้วก็บอกว่าเดี๋ยวขอไปเอาแชมเปญก่อน ตอนนั้นก็เรียกทีมงานทั้งหมดออกมาเพื่อให้ช่วยถือกล้องให้ ส่วนผมก็ถือแหวนเดินออกมาพร้อมกับคุกเข่าขอเขาแต่งงาน หลังจากนั้นก็เหมือนกับตัวลอยอยู่”

ตอนนั้นพูดอะไรกับโยเกิร์ตบ้าง ?
“หมูแต่งงานกันมั้ย ผมเสียงสั่นมาก น้ำตาก็ไหลด้วย เขาก็ยิ้ม ผมก็หยิบแหวนออกมาแล้วสวมให้ จากนั้นเขาก็พูดสองคำออกมาจากใจว่า แหวนหลวม(หัวเราะ) ก่อนหน้านั้นผมโทร.ไปให้พี่ผู้จัดการของเขาเช็กกับทีมกองถ่ายละครให้ไปวัดแหวน เขาก็เลยเอาเชือกไปวัดกับนิ้ว ปรากฏว่าทำวิธีนั้นมันจะใหญ่กว่าปกติ แต่ว่าสุดท้ายก็เอาไปเปลี่ยนได้ครับ”

เตรียมการขนาดนี้ไม่มีพิรุธเลยเหรอ ?
“ไม่มีเลยครับ ด้วยความที่เวลาไปเที่ยวไหนด้วยกัน ผมก็จะขนพวกกล้องอุปกรณ์อะไรแบบนี้ไปเยอะอยู่แล้ว ฉะนั้นเขาเลยไม่ได้สงสัยอะไร ครั้งนี้มันอาจจะดูโอเวอร์นิดนึงตรงที่เอามาติดที่หน้าอกด้วย แต่ผมก็บอกเขาว่าเพราะเรามากันสองคน แล้วอยากเห็นภาพเขากับภาพวิวพร้อมกัน”

มีน้ำตาซึมไหม ?
“ผมน้ำตาซึมครับ ความรู้สึกคือเหมือนเราได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้และทำคนเดียว ตอนนั้นก็รู้ในหัวว่าได้ภาพที่ต้องการแล้วด้วย ซึ่งจะเห็นมุมขอแต่งงานที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน คือเป็นมุมจากสายตา”

หลังจากนี้วางแผนยังไงต่อ ?
“หน้าที่ของผมหมดแล้วครับ ที่เหลือก็จ่ายให้เขาเป็นคนแพลนทุกอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็นฤกษ์ พรีเวดดิ้ง ธีมงาน ผมมีหน้าที่จ่ายเงินอย่างเดียว แต่ว่ายังไม่รีบ ฤกษ์ก็อาจจะเป็นปีหน้า ส่วนตัวเป็นคนชิลๆ คู่เราดูแลกันมา 7 ปีแล้ว ต่อให้แต่งหรือไม่แต่งผมก็ยังดูแลเขาไปตลอดครับ”

พอขอแต่งงานแบบนี้ก็เลยเหมือนเป็นการพิสูจน์อาถรรพ์ 7 ปี ?
“จริงๆ อาถรรพ์ของผมมันจะอยู่ช่วงปีครึ่ง คนที่คบทุกคนพอปีครึ่งแล้วเลิกทั้งนั้น รวมถึงอาถรรพ์นิวยอร์กด้วย คบกับใครไปนิวยอร์กปั๊บกลับมาเลิก แล้วตอนโน้นที่ไปด้วยกันกับโยเกิร์ตครั้งแรก ที่พาไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ กลับมาก็คิดแล้วว่าจะเลิกอีกมั้ย ปรากฏว่าไม่มีอะไรเลย ทุกอย่างยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ ผมเลยยิ่งคิดว่าหรืออาจจะเป็นคนนี้ที่เป็นคู่ของเราจริงๆ”

อะไรที่ทำให้มั่นใจว่าจะสละโสดแล้ว ?
“ชีวิตผมตอนนี้ถือว่าตกผลึกแล้ว บาลานซ์ทุกอย่างได้ดี มีงานมีทรัพย์สินมากที่สุดตั้งแต่ที่เคยมีมา รวมถึงมีความสุขกับความรักมากที่สุดตั้งแต่เคยมีมา ฉะนั้นถือว่าทุกอย่างอยู่ตัวแล้ว เลยรู้สึกว่าศีลเสมอกัน เห็นอะไรเหมือนกัน อยากได้อะไรเหมือนกัน ชอบอะไรเหมือนกัน และก็รู้ด้วยว่าอนาคตของเราจะฝากชีวิตไว้กับเขาได้”

เรียกว่าเป็นคนที่พอดีกับชีวิตเรามากที่สุด ?
“ใช่ครับ ที่สำคัญเลยคือเขาไม่ทำตัวเป็นแม่ ผมเป็นคนนอกกรอบ ถ้าเกิดมาแม่ใส่แบบนั้นผมไม่เอาเลย”

ถามข้ามช็อตไปว่าถ้าแต่งงานแล้วจะมีลูกเลยไหม?
“แล้วแต่เขาเลย ผมมีหรือไม่มีก็ได้ไม่มีปัญหา ส่วนตัวที่รู้จักกันเขาเป็นคนชอบเด็ก แล้วถ้ามีก็ขอเป็นลูกสาว แต่ถ้าไม่มีก็ทำงานและเที่ยวกันไปแบบนี้สองคน”

ภาพจากไอจี djpk

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน