คารีสา เปิดใจ สถานะ เป้ คืออะไร – สเป๊กหนุ่ม ขอคนที่มีภาวะความเป็นผู้นำ

อยู่ในวงการไม่เท่าไหร่ แต่นักแสดงสาว คารีสา สปริงเก็ตต์ ก็มีข่าวให้ติดตามตลอด ทั้งสถานะความสัมพันธ์กับพระเอกหนุ่มเป้ อารักษ์ แถมยังถูกเม้าท์เป็นเด็กใจแตก จนผู้ใหญ่ในวงการส่ายหน้า ไม่ดันเหมือนกับเพื่อนๆ เดอะเฟซฯ คนอื่นๆ
ล่าสุด เจ้าตัว มาเปิดใจผ่านทางรายการ “คุยแซ่บshow” ทางช่อง one31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ ธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกร

ข่าวพระเอกติสท์ทำสาวท้อง โดนคนสงสัยเรากับ “เป้ อารักษ์” คิดยังไงกับข่าวนี้?
: ไม่ใช่นะคะ เพิ่งเคยได้ยินข่าวนี้จากที่นี่ที่แรกเลย ความจริงหนูแค่อ้วนเฉยๆ ค่ะ ไม่ได้ท้อง ไม่ใช่หนู ข่าวนี้ก็อาจจะไม่ใช่เขาก็ได้ แล้วข่าวนี้มีจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะว่าตอนนี้ยังไม่มีคนมาถามหนูเลย

รู้จักกับ “เป้ อารักษ์” มานานหรือยัง?
: นานแล้วค่ะ ประมาณ 5 ปีกว่าค่ะ ตอนนั้นที่เจอกันพี่เป้เล่นหนังเรื่อง กาลครั้งหนึ่ง ค่ะ แล้วหนูก็ได้รับเชิญแบบนิดหน่อย ก็เลยมีโอกาสได้เจอกัน ตอนนั้นเจอกันในงานเลี้ยงปิดกล้องค่ะ ไม่ได้เจอในกอง แล้วตอนนั้นหนูก็ยังไม่มีเพื่อนในกองเพราะเราเล่นรับเชิญด้วย เขาก็เลยเข้ามาคุยอะไรประมาณนี้ เราก็แบบว่าเออพี่เขาใจดีจังเลย เราก็ความคิดแบบเด็กๆ นะ

ตอนนั้นคิดว่า “เป้-อารักษ์” เป็นผู้ชายในสเป๊กเราไหม?
: ตอนนั้นไม่ค่ะ ความรู้สึกแบบตอนประถมแล้วเราดูละครของเขาตลอดเลยอะไรแบบนี้ ก็รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เจอตัวจริง ก็เหมือนเด็กคนหนึ่งที่ได้เจอดารา เพราะเมื่อก่อนหนูอยู่พัทยา การจะเจอดารามันก็ยากกว่าเด็กกรุงเทพนิดหน่อย

เบื้องหลังกล้องตัวจริง “เป้ อารักษ์” เป็นคนยังไง?
: ก็น่ารักนะ หนูว่าเขาก็เป็นคนแบบปกติแหละ แต่ว่าเวลาที่อยู่ข้างนอก เขาอาจจะมีดีกรีความเก๊กขึ้นมาหน่อยๆ แต่พอหลังกล้องเขาก็เป็นคนตลกปกตินะคะ เป็นคนแบบบ้านๆ เลย หมายถึงว่าเขาก็เป็นคนมีมุข เล่นตลก พูดคุยเก่ง แต่เวลาในกล้องเขาก็จะมีความดุหรือพูดน้อย ตัวจริงเขาก็พูดเยอะอยู่นะคะ

เริ่มต้นจากพี่ชาย แล้วตอนนี้มีการพัฒนาขึ้นบ้างไหม?
: จริงๆพี่เขาก็เป็นพี่ที่ดีเลยค่ะ ณ วันนี้จากที่เขาโตแล้วแล้วโตขึ้นอีกระดับนึง แล้วหนูก็โตขึ้นในวัยของหนู มันเหมือนมีความคิดหรือความต้องการที่ต่างกัน เลยเหมือนมันคงที่กับคำว่าพี่กับน้องมากกว่าอะไรแบบนี้

ถ้าวันนึง “เป้ อารักษ์” มาจีบเราจะโอเคไหม?
: ก็เป็นเชิงที่แบบจีบในเวอร์ชั่นการปฏิบัติตัวที่แบบเป็นแฟนที่เราชอบ แต่ถ้าใน relationship การเป็นพี่ เขาผ่านหมดแล้ว เขาเป็นพี่ที่ดีมาก แต่ว่าถ้าเรื่องของการเป็นแฟน มันมีความเยอะของหนูที่มันยากไปกว่านั้นอีก คือหนูทำงานเองตั้งแต่เด็กมาก แล้วหนูก็ค่อนข้างดูแลตัวเองแบบครบทุกอย่างแล้ว แล้วคนที่จะมาแบบเท่ากับเรา มันก็ควรมากกว่านิดนึง คือหนูจะชอบผู้ชายที่อายุเยอะกว่า หนูไม่ต้องการผู้ชายที่มาเป็นลูกเรา นึกออกไหม หนูทำงานเอง หาเงินเอง ส่งตัวเองเรียน ไม่ได้ขอเงินพ่อแม่ คือทำทุกอย่างเองหมดแล้ว แล้วคนที่จะมาอยู่ข้างเรา เท่ากันก็ดี แต่ถ้ามาเป็นน้อง เป็นลูกเราก็ต้องมานั่งดูแลอีก คนที่จะมาอยู่ข้างเราเขาก็ควรที่จะมีภาวะความเป็นผู้นำ

แล้วตอนนี้มีคนมาจีบเราไหม?
: ก็คงมีคนมาชอบบ้างค่ะ ผู้ชายบางคนเขาก็จีบไม่เป็น ไม่มีทิศทางในการจีบ เพราะฉะนั้นก็ยังไม่ได้ไปต่ออะไรประมาณนี้ เพราะรู้สึกว่าถ้าเกิดเขาชอบเราจริง เขาจะต้องหาทางมาให้ได้แหละค่ะ

เคลียร์ข่าวมือที่สามระหว่าง “ขุน ชานนท์” กับ “แก้มบุ๋ม” หน่อย?
: จริงๆ ไม่ใช่มือที่สาม แล้วหนูก็เชื่อว่า หนูไม่เคยเป็นมือที่สามใคร หนูคิดว่าหนูค่อนข้างสวยแล้วการไปแทรกระหว่างกลางคู่อื่น มันเป็นเรื่องที่ไกลตัวหนูมาก(หัวเราะ) นอกจากแฟนคนอื่นอาจจะมากดไลก์ IG หนูแล้วหึง อันนี้อาจจะเป็นไปได้ แต่ว่าถ้าเกิดให้หนูไปอยู่ตรงนั้นหนูว่าไม่จำเป็นค่ะ คือหนูเล่นละครกับพี่ขุน เราก็เลยสนิทกัน แล้วเจอกันทุกเรื่อง ไม่ว่าจะอยู่ช่องไหนก็ตาม จนมาเล่นซีรีส์อันนึงแล้วก็มีพี่แก้มบุ๋มมาเล่นด้วย แต่ว่าอันที่เป็นข่าวก็เหมือนกับเขาโพสเรื่องที่แบบว่า นางเอกหน้าร้ายอะไรสักอย่าง แล้วหนูก็ดูหน้าร้ายอีก ก็เลยเป็นอักษรย่อหนูไปอะไรแบบนี้

ย้อนกลับไปตอนเข้าวงการแรกๆ เคยแคสต์งาน 40 กว่างานจริงหรือเปล่า?
: ใช่ค่ะ แคสต์ไปเรื่อยๆ เลยค่ะ ปีแรกที่หนูเข้ากรุงเทพฯมา ที่แคสต์แถวทาวน์อินทาวน์ จะเป็นที่เด็กปกติเขาไปแคสต์กัน แล้วก็ตามสตูฯต่างๆ หนูไม่ได้งานเลย หนูเป็นเด็กที่ไม่ได้งานจริงๆ ตอนนั้นหนูไม่รู้ อาจจะเด็กไปหรือเปล่าเพราะอายุ 14 อะไรแบบนี้ แล้วหนูก็ทำอะไรไม่เป็น แต่ว่ามันตลกมาก ทุกคนถามว่าเราท้อไหม เราก็ไม่ท้อนะ ตอนนั้นความเป็นเด็กมันไม่รู้เลย คิดแค่ว่าการได้มากรุงเทพฯมันสนุกนะแค่นั้น

หลังจากแจ้งเกิดจาก The Face Thailand ซีซั่น 1 ก็มีข่าวว่าเรานิสัยไม่ดี ใจแตก เป็นเด็กแรง จริงไหม?
: หนูว่าส่วนตัวแล้วบางอย่าง หนูอาจจะไม่รู้กาละเทศะจริงๆ หนูยอมรับนะคะ ด้วยความที่เราเด็ก เราโลกแคบ เราเจอคนน้อย เราเหมือนทำงานตั้งแต่เด็ก แล้วยิ่งเป็นรายการเรียลลิตี้ที่มันเป็นแข่งขัน ก็จะถูกบิวด์อารมณ์มานู่นนี่นั่น แต่รูปต่างๆ ที่ทำให้คนรู้สึกกับเราจริงๆ มันคือการตัดออกมา ซึ่งมันเป็นหน้าพักผ่อนของหนู แล้วตั้งใจฟัง เหมือนเด็กหน้าห้อง ซึ่งถ้าหนูเหวี่ยงจริงๆ หนูจะเงียบแล้วเดินออกไปเลย ผู้ช่วยในรายการหลายๆ คนก็จะรู้ ซึ่งคนก็จะรู้สึกว่าหนูทำหน้าแบบไม่มีสัมมาคารวะ

พอมีคำวิจารณ์ออกมาแบบนี้เรารู้สึกยังไงบ้าง?
: ตอนแรกหนูเสียใจมาก หนูขังตัวเองอยู่ในห้องแล้วก็ร้องไห้ แล้วก็แบบว่าไม่อยากทำแล้วงานนี้ แต่พ่อกับแม่กลับบอกว่าไม่เห็นเป็นอะไรเลย พ่อกับแม่ไม่เคยด่าลูกขนาดนี้ นี่เป็นแค่คนอื่น ทำไมเราต้องไปรู้สึกกับความรู้สึกของคนอื่นด้วยขนาดนั้น กลายเป็นว่า อยู่ๆความรู้สึกเสียใจมันก็หายไปเองเลย หลังจากนั้นก็กลายเป็นว่า แค่ใช้ชีวิตปกติแล้วก็อดทนกับการตอบคำถามจากนักข่าวในทุกๆวันแค่นั้นเอง

เห็นว่าเบื้องหลังมีการเอาพวงมาลัยไปขอโทษพี่ลูกเกด-เมทินี ด้วย?
: ใช่ค่ะ เพราะว่าตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าเราผิดจริง หรือไม่ผิดจริง แต่ว่าเราแค่รู้สึกว่าตอนนั้น มันก็คงผิด เพราะว่าเราก็คงคิดน้อยไป หนูก็ได้ซื้อพวงมาลัยเอาไปไหว้พี่ลูกเกด แล้วก็ทีมงานทุกๆ คน แค่รู้สึกว่าถ้าหนูผิดหนูขอโทษนะ สอนหนูได้เลยอะไรแบบนี้ แต่ว่าอันนี้จะไม่ได้เป็นภาพที่อยู่ในรายการ

เคยคิดน้อยใจไหมเล่นละครกี่เรื่องก็ไม่ดังสักที?
: บางทีหนูก็เห็นคอมเมนต์นะคะว่า มีบางคนที่รักหนู แล้วก็เชียร์ บอกว่าหนูเล่นดี ทำไมยังไม่ได้เป็นนางเอกอะไรแบบนี้ แต่มันก็ยังมีมุมนึงที่คนทำงานเท่านั้นจะรู้ว่า การรับตัว 2 หรือตัว 3อ่ะ วันหนึ่งๆ มันรับได้หลายเรื่องนะ การเป็นนางเอกมันสามารถรับได้เรื่องเดียว มันก็คือเงินก้อนเดียวอะไรแบบนี้ มันก็คือสิ่งที่บางคนยังไม่รู้ แล้วพอช่วงที่เราแบบ ยังมีภาระ ค่าเทอมนู่นนี่นั่น เราก็เลยแบบว่าต้องเอาตรงนี้ก่อน แล้วถ้าวันหนึ่ง อายุหนูมันพอที่จะเป็นนางเอก แล้วเรามีภูมิต้านทาน มีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ที่จะไปเป็นตัวเมน เราก็แค่รับโอกาสจากผู้ใหญ่ที่เขาใจดีกับเราแค่นั้นเองค่ะ ซึ่งตอนนี้บทที่เล่นอยู่หนูก็ไม่ได้น้อยใจอะไร ทุกครั้งที่หนูเล่นไปก็รู้สึกสนุก แล้วมันก็ยังมีฟีดแบ็กที่ดีอยู่

ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ คารีสา สปริงเก็ตต์

ขอบคุณไอจี carissa_spg

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน