กระแสร้อน : ‘โต๋ปลดล็อกดนตรี เปิดกว้างรับเทรนด์ใหม่

กระแสร้อน : ‘โต๋ปลดล็อกดนตรี เปิดกว้างรับเทรนด์ใหม่สะดุดหูกันไม่น้อยกับเพลงยิ้มก็พอของศิลปินอารมณ์ดีโต๋ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร แม้เนื้อหายังคงคอนเซ็ปต์ที่เป็นความสดใส เป็นความรักในมุมบวก แต่ดนตรีฉีกแนวความเป็นโต๋ซึ่งส่วนใหญ่จะมีเปียโนเป็นพระเอก และเพลงนี้ยังฟีเจอริ่งกับศิลปินสาวสายแร็พ ‘WonderFrame’ เป็นความแปลกใหม่สำหรับงานเพลงของหนุ่มโต๋

วันนี้โต๋ศักดิ์สิทธิ์พูดคุยถึงการพลิกแนวการทำเพลง

ซิงเกิล ยิ้มก็พอ เกี่ยวกับอัลบั้ม Chapter1 ที่ปล่อยเมื่อต้นปีมั้ย?

โต๋ – “ไม่เกี่ยวเลยครับ เพลงนี้คือซิงเกิลแรกของอัลบั้มใหม่ Chapter1 เราทำตอนปี 2015 แต่วางจริงๆ คือปี 2018 สามปีนี้เรารู้สึกเราเปลี่ยนไปแล้ว เป็นการปลดล็อก ชุดนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่งไปตามเวลา ตามตัวเรา ณ เวลานี้จากที่คนเคยรู้จักเรา เพราะคนรู้จักเราจากเพลงอย่างเดียว จากตัวเราที่อยู่ในเอ็มวีเล่นเปียโน แต่เดี๋ยวนี้เขารู้จักจากละครเวที รายการ ละคร จากไลฟ์สไตล์ของตัวเรามากขึ้น

คอนเซ็ปต์ของอัลบั้มนี้?

โต๋ – “พอโตขึ้นเรารู้สึกว่าจากเมื่อก่อนเราเป็น นักดนตรีสุดๆ ทำด้วยความรู้สึกว่าเราเป็นนักดนตรี เราต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่าง ต้องการทำเพลงให้มันแนวให้มันดี โชว์สุดฝีมือ พอผ่านอะไรมาปุ๊บ เรารู้สึกว่าสุดท้ายแล้วมันอยู่ที่ความสุขล้วนๆ เลย ตอนทำชุดนี้เรียบง่าย และใครชิงมีความสุขก่อนคนนั้นชนะ นี่คือคอนเซ็ปต์ง่ายๆ เปียโนจากชุดที่แล้วน้อยแล้ว มาชุดนี้ก็ยิ่งน้อยไปอีก มีอยู่แต่มีในเพลงที่จำเป็นต้องมี เพลงที่ไม่มีก็ไม่มีเลย เอ็มวีก็จะเป็นเอ็มวีแรกที่ไม่มีเครื่องดนตรีเลย ปกติจะเห็นผมอยู่กับเปียโน แต่เพลงนี้ไม่มีเลย

แนวดนตรีล่ะ?

โต๋ชุดนี้พอเราสบายมันทำให้เราเปิดรับสิ่งรอบตัวมากขึ้น สมัยนี้ฮิตแร็พ ฮิตอีดีเอ็ม แต่ก่อนผมจะไม่เลย ทุกเพลงต้องเป็นสไตล์เรา ผมจะไม่ฟีเจอริ่งกับใคร เพราะมันเป็นแนวเรา ตอนนี้เรามีความสุขเลย เขาเปิดให้ทำงานเต็มที่เราเลือกเลย หนึ่งคือชุดนี้เราจะใช้ซาวด์ใหม่เป็นอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น สอง สมัยนี้แร็พฮิตใช่มั้ย เราน่าจะแต่งเพลงฟีเจอริ่งแร็พหน่อย นั่นคือพาร์ตดนตรีที่เราเปิดรับ ในล็อตใหม่เพลงนี้เป็นเพลงที่ช้าที่สุด เพลงอื่นเร็วกว่านี้หมดเลย มันทำให้เราเปิดกว้างขึ้น ทำแนวใหม่มากขึ้น ตั้งแต่ตอนอยู่ในรายการ คนจะมาทักว่าจริงๆ โต๋เป็นคนสนุกเหมือนกัน ผมก็มาคิดว่าแล้วเมื่อก่อนเห็นผมเป็นคนยังไง เขาก็บอกว่าเห็นเราเรียบร้อยเล่นเปียโน แล้วพอมาออกรายการ คนเห็นในมุมสนุกมากขึ้น ผมเลยรู้สึกว่าเรามาเป็นไลฟ์สไตล์ทางนี้ดีกว่า เพลงเริ่มสนุกขึ้น บวกกับตัวเราเองที่ปลดล็อกแล้ว มีเปียโนก็เล่น ไม่มีก็เดินร้องได้ เป็นอิสระมากขึ้น เลยออกมาเป็นชุดนี้ ที่เอ็นจอยมากได้ทำอะไรใหม่ๆ

วางแผนทิศทางการทำงานกับทีมในแนวที่แปลกไปจากเดิม?

โต๋ – “ปลดล็อกของผมมีหลายอย่าง ผมก็ปลดล็อกในการทำเพลง สมัยก่อนผมจะเริ่มต้นที่ตัวเองหมด ผมต้องจบงานเอง ผมเก็บเองทุกเม็ด พอ 10 ปีผ่านไป ผมรู้สึกว่าเหนื่อย ทำไมต้องทำเยอะขนาดนี้ ทำงาน กับคนอื่นก็มีความสุขมากกว่าอย่างที่บอกใครชิงมีความสุขก่อนคน นั้นชนะ

ไม่กลัวหลุดจากไลน์ของเรา?

โต๋ – “ไม่กลัวเลย ปลดล็อกตอนนี้กลายเป็นว่าไม่กลัวอะไรเลย ผมรู้สึกสนุกครับ

ทำไมถึงเลือกปล่อยเพลง ยิ้มก็พอ ออกมาเพลงแรก?

โต๋ – “เพลงนี้เป็นเพลงที่น่าจะฟังเฟรนด์ลี่ที่สุดแล้วในอัลบั้มนี้ มันเป็นเพลงกลางๆ เนื้อหาในเพลงนี้ก็เปลี่ยนไปและเป็นตัวเราอยู่ เมสเสจที่เราพูดอยู่ตลอดเวลาก็คือเรื่องในด้านบวก ยิ้มและกำลังใจ เราจะพูดในมุมบวกตลอด ถึงแม้เพลงอกหักจะเป็นสไตล์เพลงที่ฮิตในบ้านเรา แต่สำหรับผมนี่มันคือดินแดนที่เราปักธงไว้แล้วว่าเพลงเหล่านี้มันเป็นเพลงสไตล์เรา เพลงบวกเรายืนยันว่าเรามาทางนี้

ทำไมถึงต้องเป็น WonderFrame มาฟีเจอริ่งด้วย?

โต๋ – “นี่คือสาเหตุหนึ่งภายใต้คอนเซ็ปต์ ยิ้มก็พอ เฟรม มีสตอรี่มาก เขาเคยประกวด X Factor ที่ผมเป็นคอมเมนเตเตอร์อยู่ วันนั้นผมให้ผ่านอยู่คนเดียว เขาดูเป็นสไตล์ตัวเองดี ผมก็ให้กำลังใจเขาในรายการ เขาตกรอบสอง แล้วเขาส่งไดเร็กต์เมสเสจมาในไอจีผม บอกว่าขอบคุณพี่โต๋มากๆ นะคะ รู้ว่าพยายามเอาใจช่วยมากๆ ผมก็ตอบเขาไปแค่ สู้ๆ นะครับ สติ๊กเกอร์หน้ายิ้ม ผมมีความสุขได้เห็นเด็กเจเนอเรชั่นใหม่ที่เก่ง เราอยากซัพพอร์ตเขา ปีหนึ่งผ่านไป ผมก็นั่งฟังเพลงในสตรีมมิ่ง ไปเจอเพลงหนึ่งในเพลย์ลิสต์ WonderFrame เห็นหน้าเฟรม อ้าว เฟรมออกเพลงหรอ ชื่อเพลงอยู่ดีๆ ก็เลยกดไปฟัง โห เจ๋งดีนะ หลังจากนั้นอีก 2-3 เดือน เพลงนี้ก็ดัง ผมก็ดีใจกับเขา พอเราแต่งเพลงนี้ผมก็คิดว่าอยากชวนเฟรมมาฟีเจอริ่ง ดีใจที่ได้กลับมาฟีเจอริ่งกับเขา ก่อนหน้านี้ตลอดการทำงานสิบกว่าปี ผมไม่เคยร้องฟีเจอริ่งอะไรกับใครเลย นี่เป็นครั้งแรกครับ ปลดล็อกหลายอย่าง เราโตขึ้นมาแล้วเป็นรุ่นพี่ เราต้องเข้าใจว่ารุ่นน้องเขาทำอะไรกันอยู่ เราจะดึงเขาให้มาทำเหมือนเราไม่ได้หรอก เราจะทำยังไงให้เข้ากันได้โดยที่เราไม่ทิ้งตัวตนเรา ตามเทรนด์ว่าปีนี้เขาฮิตอะไรแล้วมาผสมกัน

คาดหวังกระแสตอบรับยังไงบ้าง?

โต๋ผมมีความสุขแล้วที่ได้ปล่อยเพลงนี้ ผมรู้สึกว่าทุกวันนี้คนก็ยังให้ความสนใจเราในมุมใหม่ๆ อยู่ มันเหมือนกับเป็นนิวอาร์ติส โต๋เวอร์ชั่นก่อนคนก็จะรู้จักอีกแบบหนึ่ง แล้วพอมา 2-3 ปีหลัง คนก็จะรู้จักว่าโต๋เป็นเวอร์ชั่นนี้เหรอ เหมือนกับเรารีแบรนด์เราสำเร็จ

โดย วีรนุช จันทำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน