หลังจากที่มีพริตตี้คนหนึ่งออกมาแฉว่าโดนเสี่ยติดต่อให้ไปทานข้าวด้วย โดยว่าจ้างเงินเป็นจำนวนสูงถึงหลักล้านบาท จนเป็นข่าวดัง
ล่าสุดได้เกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกันนี้กับ เบสท์-ภัทรารวีย์ เบ้าสุวรรณ รองอันดับ 2 มิสทีนไทยแลนด์ 2013 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย ‘เบสท์’ เล่าว่า “เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา จากที่ว่ามีคนติดต่อมาในไดเร็กแมสเสจของไอจี ซึ่งปกติเบสท์ก็จะรับงานผ่านทางนี้ รวมถึงผ่านทางเบอร์โทรศัพท์ของคุณแม่และของผู้จัดการด้วยค่ะ แต่ว่ากับคนนี้เขามีการไดอะเร็กมาหาเบสท์โดยตรงว่าจะติดต่อเรื่องงาน ตอนนั้นก็แอบตกใจว่าเอ๊ะ! เป็นงานอะไร แล้วเขาก็ได้มีการขอคอนแท็กต์ไลน์ เบสท์เข้าใจว่าเขาน่าจะคุยเรื่องงานจริงๆ เลยให้คอนแท็กต์ไป แต่ก่อนหน้านั้นเบสท์ได้มีการถามไปในไดอะเร็กแมสเสจของไอจีแล้วว่าเป็นงานเกี่ยวกับอะไรเพราะอยากจะเช็กให้ชัวร์ก่อนว่าสามารถที่จะทำได้หรือไม่ ตอนนั้นเขาก็ยังไม่บอกบอกแต่ว่าเดี๋ยวค่อยคุยรายละเอียดกันทางไลน์ได้ไหม นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เบสท์ให้คอนแท็กซ์ไลน์เขาไปค่ะ”

 

s__12140582
เบสท์เล่าต่อว่า “ไอจีของเขาจะเป็นไอจีที่ไม่ได้มีการอัพรูปประจำ แต่เป็นไอจีที่ตั้งขึ้นมาเพื่อทำอะไรแค่นี้ จริงๆ เบสท์ก็เอะใจตั้งแต่แรกแต่ก็แอบคิดว่าหรือเขาอาจจะติดต่อเรื่องงานจริงๆ ก็ได้ พอแอดไลน์ไปเสร็จก็ทักไปบอกว่านี่เบสท์นะคะ จากนั้นเขาก็ส่งข้อความมาตามที่เห็นเลยค่ะ ตอนนั้นตกใจมากว่าเอ๊ะ! ทำไมเขาถึงส่งข้อความมาแบบนี้ล่ะ ที่ผ่านมาไม่เคยมีประสบการณ์เจอเรื่องแบบนี้มาก่อน เลยบอกเขาไปว่าส่วนมากรับแต่งานทางด้านการแสดงและงานที่ไม่ใช่งานลักษณะนี้ เบสท์ไม่สะดวกค่ะ ซึ่งก็ได้ตอบกับเขาไปดีๆ แต่เขาก็ยังตอบกลับมาอีกว่า แต่ถ้าอยากได้อะไรก็จะพิจารณาให้เลยนะคะ ผู้ใหญ่ชอบน้องเบสท์มากจริงๆ จะไม่มีเปลี่ยนใจเลยเหรอคะ เบสท์เริ่มรู้สึกว่าเขาตื๊อจัง เลยรีบบอกไปอีกว่าเบสท์ไม่สะดวกค่ะ”

s__12140581
“หลังจากที่เบสท์ปฏิเสธไปเขาหายไปเลย คือก่อนหน้าที่เค้าติดต่อมามีการแนะนำตัวว่าเป็นเลขาฯ แล้วก็เอาหน้าตัวเองซึ่งเป็นรูปจากโปรไฟล์ในไลน์ รวมถึงมีชื่อด้วย ส่งให้เบสท์ดู แต่พอถูกปฏิเสธไปประมาณแค่ 1-2 วันเขาก็ลบแอคเคานต์ไลน์อันนั้นทิ้งเลย” เบสท์กล่าว

s__12140584
ตอนที่เห็นจำนวนเงินที่เขายื่นข้อเสนอมาให้รู้สึกอย่างไรบ้าง เบสท์กล่าวว่า “ตกใจมากว่าเฮ้ย! อะไรกันเนี่ยเงินตั้ง 3 แสนบาท ทำไมให้กันง่ายจัง ทำตัวไม่ถูกเพราะไม่เคยเจอ แต่เบสท์ก็เลือกที่จะปฏิเสธตั้งแต่แรกเลยเพราะว่าที่ผ่านมารับแต่งานการแสดง ไม่ใช่งานแบบนี้ค่ะ”
“ตอนแรกก็เอะใจว่าโดนคนเดียวหรือเปล่า แต่พอดีเห็นข่าวพี่พริตตี้คนหนึ่งที่ออกมาแฉ คือเป็นข้อความเดียวกันเลยกับที่เบสท์ได้รับ เหมือนว่าเขาก๊อปข้อความนั้นแล้วก็วางส่งให้กับเด็กแต่บะคนที่ติดต่อไป ตอนแรกเบสท์ก็ไม่ได้อยากจะเอาลงโซเชียลฯ เพราะคิดว่าโดนอยู่คนเดียว แต่พอเห็นว่ามีคนอื่นโดนกันเยอะจึงตัดสินใจเอาลงโซเชียลฯ ดีกว่า เพราะอยากจะให้ได้เห็นกันว่ามันมีพฤติกรรมแบบนี้ด้วย เบสท์ไม่อยากให้คนอื่นถูกหลอกและหลงเชื่อง่ายๆ อยากให้เป็นอุทาหรณ์กับคนอื่นค่ะ”เบสท์กล่าว
ถามต่อว่าได้มีการแจ้งความหรือลงบันทึกประจำวันไหม เบสท์ตอบว่า “ส่วนตัวไม่ได้มีการไปแจ้งความหรือลงบันทึกประจำวันอะไร เพราะหลังจากปฏิเสธไป เบสท์ก็บล็อกไลน์เขาไปแล้ว คิดว่าไม่น่าจะติดต่อกันได้อีก อีกอย่างเขาก็ยังไม่ได้ทำความเดือดร้อนอะไรให้เบสท์มาก ยังไม่ได้มาถึงเนื้อถึงตัว หรือว่าตามมาถึงที่บ้านมาก แค่ติดต่อมาแล้วสร้างความตกใจให้เท่านั้นเอง หลังจากครั้งนั้นเขาก็ไม่มีการติดต่ออะไรแบบนี้มาแล้ว เพราะเหมือนเขารู้ว่าเบสท์ไม่เล่นด้วยแน่ๆ”
ครอบครัวว่ายังไงบ้าง เบสท์ตอยว่า “ตอนแรกที่คุณแม่เห็นข้อความก็โกรธมาก ทำไมถึงมาใช้ข้อความติดต่อลูกสาวแบบนี้ แต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ คุณแม่ก็เลยบอกว่าต่อไปนี้จะทำอะไรให้สกรีนงานดีๆให้ทางผู้ใหญ่ที่มิสทีนหรือทางคุณแม่เป็นคนรับงานและดูให้ดีกว่า อย่าให้มาติดต่อโดยตรงทางเบสท์เลยเพราะเดี๋ยวเกิดกรณีแบบนี้อีก”

s__12140583
“จริงๆ เบสท์รู้สึกว่าพอโดนติดต่ออะไรมาแบบนี้มันก็เหมือนกับดูถูกศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิงเหมือนกัน เพราะแน่นอนถ้าคนที่ไม่เข้าใจก็จะคิดว่าเขาก็ติดต่อมาแบบนี้เพราะเบสท์มีอาชีพเสริมหรือเปล่า ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่เลย เบสท์เพิ่งจะอายุ 19 เอง กำลังเรียนอยู่ด้วย เหตุการณ์อะไรแบบนี้ไม่สมควรจะต้องมาเกิดขึ้น แล้วก็ไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นเหยื่อหรือโดนแบบเดียวกันด้วย เพราะกลัวว่าคนอื่นที่โดนอาจจะหลงเชื่อได้ เนื่องจากว่าจำนวนเงินที่เขาเสนอมามันสูงมาก ถ้าไม่ได้มีการไตร่ตรองหรือใช้วิจารณญาณที่ดีก็อาจจะยอมรับเงินนั้นไปโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองต้องเสียหรือว่าต้องแลกกับอะไรบ้างด้วยซ้ำ ข้อความอาจจะบอกแค่ว่าไปกินข้าวกัน แต่ความสมเหตุสมผลมันไม่น่าเชื่อถือเลย กินข้าวอะไรจะจ่ายเงินสูงขนาดนี้” เบสท์กล่าว
สุดท้าย ‘เบสท์’ ฝากเตือนว่า “สังคมสมัยนี้สื่อโซเชียลฯ ต่างๆ มันน่ากลัวมาก อยากให้คนที่ใช้สื่อพวกนี้มีสติและดูข้อมูลดีๆ ก่อน อาจจะมีคนที่เจอแบบนี้เหมือนกัน โดยเฉพาะกับคนที่เพิ่งเริ่มเข้าวงการแรกๆ แล้วหน้าตาดี ไม่อยากให้พลาดพลั้งอะไรไปแล้วต้องมาแก้ไขที่ปลายเหตุทีหลัง โซเชียลฯ มันมีทั้งดีและไม่ดี มีส่วนที่จะนำภัยมาถึงตัวเองได้ ที่สำคัญเลยเบสท์มองว่าคนเราทำงานในอาชีพที่สุจริตและหาเงินมาด้วยตัวเองเป็นสิ่งที่ดีและน่าภูมิใจที่สุดแล้วค่ะ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน