ณัฐรัฐ ใจชื้น พ่อ กลับมาเดินได้เหมือนปาฏิหาริย์ – ผันตัวเป็นอิสระ จบช่อง 3 ด้วยดี

วันที่ 14 ก.พ. ที่สถานีโทรทัศน์ พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 นักแสดงหนุ่ม ณัฐ ณัฐรัฐ โมริส เลอกรอง มาร่วมบวงสรวงละคร “กั๊กนัก…รักซะเลย” หลังจบงานให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่ไม่ต่อสัญญากับช่อง 3 ผันตัวเป็นนักแสดงอิสระ พร้อมอัพเดตอาการป่วยโรคหัวใจของคุณพ่อที่ดีวันดีคืนราวกับมีปาฏิหาริย์

อัพเดตอาการป่วยคุณพ่อ?
“อาการคุณพ่อดีขึ้นแล้วครับ ยังไปเช็กตามระยะตลอด ระวังการกินให้มากๆ ซึ่งสำคัญจริงๆ จากที่ออกมาจากบ้านไม่ได้ก็กลายเป็นนั่งรถเข็น จากนั่งรถเข็นกลายเป็นเริ่มเดิน พาไปว่ายน้ำ ไปเที่ยวเดินห้างด้วยกันก็เดินช้าๆ หน่อย ถือเป็นการออกกำลังกาย คือท่านไม่ยอมออกกำลังกายเท่าไหร่ เลยพาไปเดินห้างบ่อยๆ ท่านก็จะเกาะรถเข็นเดินไปเรื่อยๆ เป็นการออกกำลังกาย”

แนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ ได้กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว?
“ใช่ครับ มันจะมีปัญหาว่าเราต้องหยุดยาหัวใจทั้งหมดหลังจากทำบอลลูน เพราะว่ามันดันไปทำให้เลือดไหลในสมอง จริงๆ ตอนนี้ท่านต้องกินยาหัวใจ แต่หยุดไป หมอก็เป็นห่วงกังวลเหมือนกันว่าท่านสามารถหัวใจวายได้ตลอด เราก็เลยพยายามไประวังการกินเอา ไม่กินพวกของมัน ระวังคอเลสเตอรอล กินผักเยอะๆ ก็จะยากนิดนึง ท่านก็จะเบื่อๆ หน่อยเรื่องอาหาร เวลาเดินคอยระวังไม่ให้ท่านล้ม ยังไม่เต็มร้อย แต่ดีขึ้นกว่าตอนที่อยู่โรงพยาบาลครับ”

รู้สึกโล่งเลยไหม เพราะตอนแรกอาการพ่อหนักมาก?
“ใช่ครับ ทุกครั้งก็ไม่รู้ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน แต่ก็ผ่านมาได้ จริงๆ มีเรื่องที่ไม่ได้บอกใครเท่าไหร่ ตอนนั้นเราก็เตรียมไปหาชุด ซื้อรูปติดอะไรเรียบร้อยแล้วด้วย ทางโรงพยาบาลให้เซ็นว่าจะให้ปั๊มหัวใจมั้ย ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ปรากฏว่ากลับมาปกติ พ่อมาเห็นรูปแล้วถามว่า เฮ้ย! รูปอะไรเนี่ย เราก็เล่าให้ฟัง พ่อก็บอกชอบ รูปนี้ดูหล่อดีนะ พ่อก็รับได้ กลายเป็นเรื่องขำๆ ไป ตอนแรกเราก็ซ่อนไว้ไม่อยากให้เห็น วันหนึ่งมาเจอจนได้(หัวเราะ)”

เรียกว่าเป็นปาฏิหาริย์ไหม?
“ใช่ครับ ตอนนี้ก็ค่อยๆ เป็นค่อยๆไป พยายามให้ออกกำลังกาย พาไปว่ายน้ำนิดหน่อย”

ระหว่างที่ดูแลคุณพ่อ เราดูแลสภาพจิตใจตัวเองยังไง?
“เราก็จะเฮฮาพูดอะไรตลกๆ อยู่กับพ่อแม่ก็พยายามไม่ให้ท่านเครียด บางทีท่านก็ทะเลาะกันอยู่นะ เราก็พยายามให้ทุกคนรักกันให้มาก”

ผ่านเหตุการณ์นี้มาสอนอะไรกับเราบ้าง?
“พ่อเป็นแบบนี้ เราก็จะเรียนรู้เรื่องโภชนาการที่ถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นอีก ยาโรงพยาบาลมันก็ดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดมันเริ่มจากตัวเรา พยายามป้องกันดีกว่าแก้ พ่อเป็นอะไรเราก็คงไม่มีวันเป็น เราเจอก็จะรู้แล้วว่าของอย่างนี้กินไม่ดี ทั้งผมและแม่จะคอยระวังการกินมากๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ”

ไม่พลาดข่าวฮอตแวดวงมายา
แค่กดเป็นเพื่อนไลน์ ข่าวสด@บันเทิง ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ถามถึงเรื่องที่ข้ามช่องมาร่วมงานกับพีพีทีวี ตอนนี้ยังมีสัญญากับช่อง 3 อยู่ไหม?
“ปกติตั้งแต่ตอนเด็กๆ แล้ว ทุก 3 ปีจะต่อสัญญา ซึ่งรอบนี้เราปรึกษาผู้ใหญ่ เนื่องจากช่วงที่คุณพ่อไม่สบาย ค่าใช้จ่ายมันเยอะจริงๆ เรารู้สึกว่าถ้าลองมาเป็นฟรีแลนซ์ เราสามารถรับงานได้หลายๆ ช่องหลายเรื่อง ออกรายการช่องโน้นช่องนี้ได้ มันจะมีรายได้ดูแลครอบครัวเรามากขึ้น พอเราปรึกษาผู้ใหญ่ก็บอกได้ แต่ว่าจะต้องไม่ต่อสัญญานะ ไม่งั้นทุกคนก็จะเอาแบบอย่าง แต่ผู้ใหญ่ก็เข้าใจ ยินดีร่วมงานเสมอในอนาคต ตอนนี้เราถ่ายละคร 3 เรื่อง อยู่ที่พีพีวีทีเรื่องหนึ่ง ช่อง 3 เรื่องหนึ่ง ช่อง3 ก็ยังเรียกไปเล่นอยู่”

ได้ทำงานหลากหลายมากขึ้น?
“ใช่ครับ พ่อมีแม่คอยดูแล เราก็ควรดูแลเรื่องการทำงานตรงนี้ เรื่องการเงิน ทำงานให้เยอะๆ เต็มที่ในช่วงที่เรายังทำงานได้อยู่”

ตัดสินใจยากไหม เพราะเราอยู่บ้านหลังใหญ่มาโดยตลอด แล้วต้องมาเป็นฟรีแลนซ์?
“เราก็ไม่ชิน เพราะเป็นบ้านหลังแรกที่อยู่มาตั้งแต่อายุ 17 รู้สึกใจหายนิดๆ แต่พอมาที่นี่ ได้รับการต้อนรับอบอุ่น คุณสุรินทร์ใจดี พี่เก๋ ผู้จัดฯ น่ารักได้เจอคนที่เราไม่เคยได้ร่วมงานมาก่อน รู้สึกโอเค ได้ทำอะไรหลากหลาย ลองบทใหม่ๆ คอมเมดี้บ้างก็สนุกดีครับ”

เป็นนักแสดงอิสระแล้ว ปรับตัวยังไงบ้าง?
“ส่วนใหญ่แม่จะเป็นคนดูคิวให้ เราไม่ได้มีผู้จัดการก็โอเค มันก็คล้ายๆ เหมือนเดิมนั่นแหละ แต่ละกองแต่ละช่องจะมีสไตล์การทำงานเป็นของตัวเองที่แตกต่างกันไป เราต้องพยายามปรับตัวให้มันเข้ากับการแต่ละที่ สมมุติบางเรื่องทั้งเรื่องต้องจบภายใน 50 คิว เรารู้แล้วว่าอาจจะเล่นได้เทกเดียวสองเทก เราต้องอ่านบทมาอย่างดี หรือบางวันอาจจะถ่ายเยอะมาก จากที่เมื่อก่อนเราถ่ายไม่กี่ฉากก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับทุกสไตล์”

ขอบคุณภาพ IG : nattaraht

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน