หนิง เปิดใจ หลังล้มวูบคาบ้าน เครียดจัด ขยับตัวไม่ได้ เผยห่วง ณิิริน ที่สุดในโลก

หลังจากที่ หนิง ปณิตา เครียดจัดเป็นลมล้มวูบที่บ้าน จนสามีหนุ่มจินต้องรีบหามภรรยาส่งโรงพยาบาลทันที ทำเอาเพื่อนๆ หลายคนเป็นห่วงมาก หอบดอกไม้ไปเยี่ยมสาวหนิงถึงที่โรงพยาบาล แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เจ้าตัวจะอาการดีขึ้นมากแล้ว

ล่าสุดสาวหนิงมาอัปเดตอาการป่วยให้แฟนๆ ได้ชมกันผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องone31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกร

อ่านข่าว : หาม หนิง ปณิตา ส่งโรงพยาบาลด่วน หลังวูบหมดสติขณะทำงาน!

อ่านข่าว : หนิง เผยนาทีวูบล้มตึงคาบ้าน ชาซีกขวา-เดินไม่ค่อยได้ เรียก ธัญญ่า คุยหลังไมค์(คลิป)

เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเกิดอาการวูบหมดสติคาบ้าน?

“ต้องยอมรับว่าทำงานเยอะค่ะ วันก่อนหน้าที่จะล้มหมดสติไป ไม่ได้นอนมาประมาณ 2 คืน ตอนกลางวันนั่งคุยกับคนเขียนบท พอตกกลางคืนก็ต้องนั่งตรวจบท ก็ดูไปดูมาเรื่อยๆ แล้วเวลากลางคืนจะเป็นเวลาที่ทำงานได้ดีที่สุด เพราะกลางวันเราต้องอัดรายการ ดูแลบ้าน ดูแลลูก แล้วก็เอาลูกเข้านอนอะไรแบบนี้ เพราะฉะนั้นจึงเลือกทำงานกลางคืน แล้วตอนเช้าเราก็ต้องมาทำงานอีก ก็เกิดจากการที่เราพักผ่อนน้อย แล้วก็เครียดเรื่องงานด้วย”

ถึงขนาดล้มลงไปเลย?

“ใช่ค่ะ ก็วูบแล้วก็ลงไปเลย แต่เกิดอาการน็อค แล้วก็หัวฟาดเบาะ คือตอนที่ล้มลงไป มันเหมือนหน้ามืด มันจะเป็นเหมือนดำๆแว๊บนึง แล้วก็ลงไป ซึ่งโชคดีที่มันยังมีเบาะนิ่มๆรองรับอยู่ พอลงไปเสร็จปุ๊บ เราก็ไม่รู้ว่ามันนานแค่ไหน ตอนที่มารู้สึกตัวอีกทีก็คือ เหมือนนอนอยู่บนอะไรสักอย่าง แล้วจะขยับตัว มันเหมือนสัญชาตญาณของคนที่ตื่นนอนแล้วต้องขยับตัวขึ้นมา เราก็เอ๊ะ ทำไมร่างกายซีกขวาของเราขยับไม่ได้ ก็เลยตะโกนบอกคุณจินว่า “ขยับไม่ได้ ขยับไม่ได้จริงๆ ไม่ได้แกล้งนะ” มันรู้สึกเจ็บที่ท้ายทอย เหมือนมีอะไรทิ่มอยู่ จะว่าชาก็ไม่เชิงนะ มันเหมือนไม่มีแรง หลังจากนั้นก็นำส่งโรงพยาบาลค่ะ”

ไปถึงโรงพยาบาล คุณหมอว่ายังไงบ้าง?

“คุณหมอก็ให้ทำ MRI 2 รอบ รอบละวัน แล้วก็ทำ CT Scan แล้วก็มีเอกซเรย์ต่างๆ ซึ่งเราก็ยังไม่รู้รายละเอียด แต่คุณหมอบอกว่าก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

ใจของเราตอนนั้นรู้สึกยังไงบ้าง?

“รู้สึกกลัวค่ะ คือตั้งแต่วินาทีแรกที่รู้สึกว่าขยับตัวไม่ได้ ตอนนั้นก็คิดไปไกลเลยค่ะ คือเราเคยนั่งสัมภาษณ์แขกรับเชิญหลายๆคนในวงการบันเทิง หลายคนทำงานเบื้องหลัง ทำงานหนัก แล้วก็พักผ่อนไม่เพียงพอ แล้วอยู่ดีๆเรื่องแบบนี้มาเกิดกับตัวเรา แล้วประกอบกับช่วงที่อยู่โรงพยาบาล เราช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย ก็ยิ่งทำให้เครียดไปอีก แล้วที่เครียดหนักสุดก็คือ ปวดปัสสาวะ แล้วมันไม่ออก แล้วบางทีอยู่ๆอยากจะออก ก็ออกมาบนเตียงเลย มันก็เลยแบบว่าแย่นิดหน่อย”

เห็นบอกว่ามีหมอหลายแขนงมาช่วยกันรักษา?

“ตอนที่นอนอยู่ เราก็รู้สึกงงๆเหมือนกันนะ เพราะมีหมอหลายคนเข้ามาดูเราเยอะมาก เราก็ถามเพื่อนว่า เป็นอะไรแล้วไม่บอกความจริงกับเราหรือเปล่า ตอนนั้นคิดว่าน่าจะเป็นอะไรสักอย่างที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับสมอง คือเราคิดไปก่อนเลย”

หลังจากนั้นรักษายังไงต่อ?

“หลังจากดูผลต่างๆหมดแล้ว คุณหมอก็ให้ทำกายภาพบำบัด แล้วก็พบจิตแพทย์ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงเอาจิตแพทย์มาคุยกับเราด้วย คือหมอบอกว่าอาจจะมาจากอาการความเครียดของเรา จากที่เราทำงานหรือทำอะไรหลายๆอย่างด้วย เหมือนความเครียดสะสมอะไรพวกนี้ค่ะ”

ตอนนี้อาการดีขึ้นขนาดไหน?

“ก็คิดว่าตัวเองดีขึ้นนะ หลังจากวันที่เราล้มลงไป แล้วก็เกิดอาการจำไม่ได้ด้วยว่าใครมาเยี่ยมบ้าง จะรู้ก็เพราะเห็นภาพการแท็กจาก IG หรือ Social ต่างๆ แล้วที่ดีขึ้นก็เพราะว่ายายเอาหนังสือธรรมะมาให้อ่าน แล้วหนิงก็พยายามที่จะอ่าน แล้วก็อยู่กับตัวเอง กำหนดลมหายใจเอง ทำในสิ่งที่ตอนที่เราบวชเราได้ฝึกปฏิบัติมา แล้วก็บอกกับตัวเองว่า ใจเป็นคนสั่งกาย ถ้าใจสั่งกายไม่ได้ กายจะแย่ แล้วถ้ากายเราแย่เมื่อไหร่ ลูกเราแย่แน่ๆ ตอนนั้นห่วงที่สุดคือลูก ห่วงณิรินที่สุดในโลกค่ะ เขาก็มาเยี่ยมตลอดนะ เข็นรถเข็น ป้อนข้าวป้อนน้ำ ทำทุกอย่างเหมือนนางพยาบาลเลยค่ะ แล้วอยู่ๆมันก็ค่อยๆดีขึ้นเอง”

เพื่อนๆว่ายังไง เป็นห่วงกันขนาดไหน?

“ทุกคนก็มาเยี่ยม คือทุกคนตกใจกันหมด เพราะว่ามันเร็วมาก เพราะตอนเช้าเรายังคุยกันอยู่ในกรุ๊ปอยู่เลย แล้วจู่ๆช่วงบ่ายตอนเย็นก็เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ก็คือได้รับกำลังใจจากเพื่อนดีค่ะ”

หนิง

กำลังใจจากเพื่อน อั้ม พัชราภา และ จิน สามี

เห็นว่าคุณสามีดูแลเรื่องอาหารการกินทุกมื้อเลย?

“ใช่ค่ะ เพราะตัวหนิงเป็นคนทานยาก เรียกว่าเป็นคนงี่เง่าเลยก็ว่าได้ แป้งไม่เอา โน่นไม่เอานี่ไม่ได้ ค่อนข้างคลีนนิดนึงด้วยค่ะ ซึ่งคุณจินก็เลยเข้ามาดูแลตรงนี้”

ช่วยฝากข้อคิดอะไร จากเหตุการณ์นี้หน่อย?

“อยากฝากว่าอะไรก็แล้วแต่ ความพอดีเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่ต้องประมาณตัวเอง คืออย่าทำอะไรที่ทำให้ตัวเองรู้สึกว่ามันโหลดหรือว่ามันหนักเกินไป พอถึงเวลาที่เรารู้สึกว่ามันตึงไป เราก็ต้องผ่อนบ้าง แล้วที่สำคัญ จิตสั่งกาย อันนี้คือเรื่องจริง ใจเราจะเป็นตัวที่กำหนดเลยว่า เราจะเดินไปในทิศทางไหน ถ้าใจเราแข็งแรงเมื่อไหร่นะ ร่างกายต่อให้เราป่วยก็ยังไงก็ไหว ตอนนี้ถามว่าป่วยไหม ก็ป่วยแต่ว่ายังไหว คือไหวที่จะมาทำงานค่ะ”

คลิปสัมภาษณ์ หนิง ปณิตา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน