วันที่ 25 ก.พ. ที่ ลานกิจกรรม ชั้น 1 ศูนย์การค้าเมเจอร์ฯ รังสิต อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ให้สัมภาษณ์ในงานเฉลิมฉลองครบ 20 สาขา “Beauty Club” ถึงกระแสละคร “เพลิงพระนาง” รวมถึงกรณีที่ แหม่ม-สุภัตรา ภูมิประภาส ผู้แปลหนังสือ “ราชันผู้พลัดแผ่นดิน เมื่อพม่าเสียเมือง” ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว Subhatra Bhumiprabhas ว่าขณะนี้เริ่มมีกระแสความไม่พอใจในประเทศพม่า จากทายาทของพระเจ้าธีบอ กษัตริย์องค์สุดท้ายของพม่า ระบุว่า “เป็นเรื่อง!ทายาทรุ่นเหลนพระเจ้าธีบอเขียนมาบอกว่าที่พม่ากำลังวิพากษ์วิจารณ์ละครเรื่องนี้ และเขารู้ว่าธีมหลักของเรื่องบอกว่าประเทศถูกทำลายเพราะมเหสีของพระเจ้ามินดงและมเหสีของพระเจ้าธีบอ”

 

ทั้งนี้ ในเพจ SAI – International Music & Movies Channel ของพม่า ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงละครเรื่องดังกล่าวว่าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์พม่าในช่วงท้ายของราชวงศ์ ยุคพระเจ้ามินดงและพระเจ้าธีบอ ซึ่งเป็นการใส่ร้ายราชสำนักพม่าและทายาทที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน เหล่าทายาทจึงเรียกร้องให้ยุติการออกอากาศ

‘อั้ม’ กล่าวว่า “กระแสละครดีนะคะ คนชอบเยอะ อั้มดูก็ยังชอบเลยดูแล้วติด ก่อนที่ละครจะออกอากาศยอมรับว่าลุ้นมาก แต่พอกระแสดีก็โล่งใจมาก ส่วนเรื่องที่คนบอกว่ากระแสดีแต่เรตติ้งอาจจะน้อยไปหน่อยนั้น หลายปีที่ผ่านมาไม่ได้มองเรื่องเรตติ้งเท่าไหร่เพราะมันวัดอะไรไม่ค่อยได้แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นไปได้ว่าคนอาจจะไปดูไลฟ์สดเยอะ แต่ตัวอั้มไม่ได้ซีเรียสเพราะละครมันสนุกจริงๆ ค่ะ”
ถามว่าคนดูพูดถึงตัวอั้มว่ายังไงบ้าง อั้มกล่าวว่า “ทุกคนสงสารอั้มนะคะ แปลกจังเลย แต่ว่าตอนที่ดูก็สงสารแล้วก็ลุ้นกับตัวเองเหมือนกัน ช่วงแรกๆ จะเห็นสีหน้าของอั้มมีความเคียดแค้นชิงชัง แต่พอได้กลับมายึดอำนาจบ้างแล้วก็จะเป็นสีหน้าอีกแบบหนึ่งคืออมยิ้มเย้ยหยัน ถึงตอนนั้นคนดูอาจจะเริ่มเกลียดหรือหมั่นไส้เจ้านางอนัญทิพย์แล้วก็ได้ เรื่องนี้อั้มว่าคนเขียนบทดีเพราะแยกแยะคาแร็กเตอร์ของตัวละครออกมาได้ไม่เหมือนกันเลย”

 

รู้สึกยังไงที่คนดูละครไปก็ชอบจับผิดไปด้วย นางเอกซุปตาร์กล่าวว่า “อั้มก็ยืนยันนะว่าถ้าไม่ใช่กันตนาทำก็คงไม่มีที่ไหนทำได้ดีเท่านี้แล้ว ด้วยยุคสมัยของปัจจุบันนี้มันก็ไม่มีอะไรที่เอื้ออำนวยที่จะถ่ายย้อนยุคไปได้ขนาดนั้นแล้ว เรื่องที่คนจับผิดอั้มก็ได้ยินข่าวมาบ้าง แต่ก็ห้ามความคิดคนไม่ได้ จะมองท้องฟ้าจะมองอะไรก็มองไปเถอะ แต่ทุกคนก็ทำเต็มที่แล้ว ไม่รู้จะบอกยังไงเพราะบอกไปคนที่ไม่ชอบยังไงเขาก็ไม่ชอบอยู่ดี จริงๆ ในส่วนของนักแสดงไม่ค่อยมีผลกระทบเท่าไหร่ แต่อั้มจะเห็นใจทีมงานมากกว่าเพราะคนที่อยู่เบื้องหลังเหนื่อยกว่าพวกเราเยอะมาก อย่างคอมเม้นต์ที่จับผิดเรื่องสร้อยคอแล้วมีเพชรหายไปเม็ดหนึ่ง อันนั้นคือเพื่อนมาเล่าให้ฟัง แหม…ละครถ่ายปีกว่าเนอะก็ให้อภัยกันบ้าง(หัวเราะ) อะไรข้ามได้ก็ข้ามบ้างเพราะทุกคนก็เต็มที่กันสุดๆ แล้ว”

 

สำหรับดราม่ากรณีที่ทางพม่าวิพากษ์วิจารณ์ถึงละครเพราะไม่พอใจที่ละครหมิ่นประมาทเกี่ยวกับราชวงศ์ของเขา นางเอกสาวกล่าวว่า “อั้มไม่ได้ทราบข่าวที่ชัดเจน ถามว่ากังวลมั้ย ไม่กังวลเพราะว่าไม่มีอะไรที่เอ่ยถึงเลย ทุกคนย้ำเสมอว่านี่คือละครที่แต่งขึ้นตามจินตนาการและเป็นเมืองสมมุติขึ้นมา แต่เรื่องที่จะมีการไปจับโยงอั้มก็เชื่อว่ามันต้องมีอยู่แล้ว ห้ามไม่ได้หรอกเรื่องแบบนี้ ทำใจดีกว่า ส่วนว่ากลัวจะบานปลายไปถึงระดับประเทศมั้ย อย่างที่บอกว่าอั้มไม่ทราบจริงๆ เลยไม่กล้าคิดไปไกลขนาดนั้น แต่เท่าที่ดูตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผมหรือว่าวัฒนธรรมต่างๆ และการถ่ายทำมันไม่ได้มีอะไรไปกล่าวถึงประเทศไหนเลย”

 

ล่าสุดมีการเรียกร้องให้ละครยุติการออกอากาศด้วย นางเอกสาวกล่าวว่า “ขนาดนั้นเลยเหรอคะ เดี๋ยวอั้มต้องขอกลับไปดูก่อนถึงจะตอบได้ คือถ้าละครมีอะไรที่อ้างอิงไปถึงบ้างก็คงคิดว่าไม่สมควร แต่อันนี้มันไม่มีอะไรเลย ดูเพื่อความบันเทิงสนุกสนานกันดีกว่า”

 

“ถามว่าท้อไหมที่ละครเจอกระแสแนวนี้ตลอด อั้มไม่ท้อ แต่คิดว่าทีมงานคงท้อหนักมาก อั้มก็ยังยืนยันว่าละครเป็นเรื่องที่สมมุติขึ้นมาจริงๆ เสื้อผ้าคงไม่มีใครใส่แบบนั้น ทรงผมปั้นสูงซะขนาดนั้น ทุกอย่างคือสมมุติมาหมดเลย” นางเอกสาวกล่าว

 

ด้าน ตุ๊กตา-จิตรลดา ดิษยนันทน์ ผู้จัดละครเพลิงพระนาง กล่าวว่า “ละครเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับชาติไหนและไม่ได้เกี่ยวกับพม่าเลย แต่เป็นเรื่องเมืองสมมุติที่แต่งเติมขึ้นมาใหม่และมีการดีไซน์เสื้อผ้าหน้าผม ซึ่งไม่ได้ไปอ้างอิงประวัติศาสตร์ที่ไหนเลย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน