ตู่ นันทิดา สอน ‘น้องเพลง’ รักให้สุดอย่ากั๊ก วางใจ ‘เป๊ก’ ดูแลลูกสาวอย่างดีที่อังกฤษ

หลังมาแถลงข่าวการกลับมาของละครเวที “บัลลังก์เมฆ THE MUSICAL 2019” ที่โรงละคร เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ ชั้น4 ศูนย์การค้าเอสพลานาด วานนี้(29เม.ย.) นักร้องเสียงคุณภาพ ตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่บินไปหาลูกสาว เพลง-ชนม์ทิดา อัศวเหม และ ไฮโซเป๊ก-เศรณี ชาญวีรกูล แฟนหนุ่ม ที่ประเทศอังกฤษ โดยพาคุณยายไปด้วย รวมถึงเผยลูกสาวใกล้มีข่าวดีหรือยัง?

ไม่พลาดข่าวฮอตแวดวงมายา
แค่กดเป็นเพื่อนไลน์ ข่าวสด@บันเทิง ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

น้องเพลงมีส่วนเชียร์ให้เล่นละครเวที?
“ใช่ค่ะ เขาชอบละครเวที แล้วบอกว่าแม่เล่นเลย เพลงเชื่อว่าแม่เล่นได้ แม่ต้องเล่น เพราะเพลงจะบินกลับมาดู จองตั๋วแล้ว เราก็ต้องเต็มที่ค่ะ เพราะทีมงานทุกคนเชื่อใจเรา และลูกก็เชื่อว่าเราทำได้ ปีนี้เราอายุ 60 ปีด้วย ก็ชาเลนจ์ตัวเอง เป็นประสบการณ์ชีวิต อะไรที่ทำไม่ได้ยิ่งกลัวก็ยิ่งไปกันใหญ่ แต่ถ้าลองทำเราจะทำได้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ”

ละครเวทีเรื่องนี้เป็นงานหนักเหมือนกัน?
“ต้องบอกว่าเป็นงานที่รักเหมือนกัน ละครเวทีเรื่องนี้ดูทีไรร้องไห้ทุกครั้ง ความรักของแม่ ความรักของลูก ความรักของสามี เป็นเรื่องที่อยู่ในชีวิตประจำวันของคนบนโลกนี้ ณ จุดหนึ่งพอละครเวทีบัลลังก์เมฆ 2019 กลับมาอีกครั้ง มีการปรับบางอย่าง ตอนแรกเราไม่ทราบเลยว่าใครรับบทอะไร ทราบอย่างเดียวว่า แพท-สุธาสินี เล่นด้วย เราก็ถามทีมงานกลับไปว่ามีตัวเลือกอื่นอีกมั้ยที่ไม่ใช่เรา เขาตอบกลับมาว่าไม่มี เขาเชื่อมั่นและเลือกเราเพียงคนเดียวโดยตรง รู้สึกว่านั่นคือการให้เกียรติกับเรามากๆ ในใจตอบรับไปแล้วแหละ แต่ก็แอบกังวลว่าจะทำได้หรอ เพราะต้องตีความขยายกว้างจากละครทีวีมากๆ เลย ละครทีวียังมีกล้องซูมเข้าออก จำบทไม่ได้ยังเทคแล้วถ่ายใหม่ แต่ละครเวทีสดทั้งหมด มีบล็อกกิ้ง บทท่องแบบไหนต้องแบบนั้น เติมเพิ่มไม่ได้ ขาดก็ไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ที่สติและสมาธิ เรารู้สึกว่านี่คือศาสตร์ที่ยากที่สุด ท้าทาย และต้องเตรียมตัวให้พร้อมในระยะเวลา 2 เดือนที่เหลือโฟกัสกับตรงนี้”

ก็เลยใช้ช่วงเวลาก่อนหน้าแว๊บไปหาลูกสาว?
“ต้องไปค่ะ ไปเอากำลังใจกลับมา เพราะกว่าเพลงจะเรียนจบคือปลายปีเลย รอบนี้ไปอยู่ 2 อาทิตย์ พาคุณยายไปด้วย ช่วงที่ไปน้องเพลงยุ่งมาก ต้องปั่นรายงานเยอะ”

คุณยายแฮปปี้ขนาดไหนได้เจอหลาน?
“เหมือนได้ต่ออายุให้ยายค่ะ วันที่ 28 พ.ค.นี้ คุณยายจะครบรอบ 92 ปี ตอนแรกคุณยายบอกว่าไม่ไป เดี๋ยวรอไปตอนรับปริญญาช่วงปลายปี แต่ก็บอกไปว่าเอาตอนนี้ก่อน เราจะไปกัน 2 คนช่วงสงกรานต์ ไปอยู่ที่นั่นกัน แม่ก็บอกให้ไปเถอะไปคนเดียว แต่พอถามว่าคิดถึงหลานมั้ย แม่บอกคิดถึง งั้นก็ไปกัน ตอนแรกหลานบอกอากาศดีแม่ก็จัดกระเป๋าใหญ่เลย พออีกวันหลานบอกอุณหภูมิ 7 องศา กับ -1 แม่ก็รื้อกระเป๋าใหม่ เปลี่ยนใจไม่ไปแล้ว จนน้องเพลงต้องบอกว่าให้บอกคุณยายตัวน้อยๆ ว่าหนาวแค่ไหนให้รู้ไปว่ามาหาหลานแล้วจะไม่อุ่น”

เห็นว่าไปเจอว่าที่หลานเขยด้วย?
“โห เล่นใหญ่ (ยิ้ม) อย่างที่บอกค่ะว่าความตั้งใจที่สุดเลยคือยายอายุ 92 แล้ว แล้วพี่เป็นคนที่ไม่มีแพลน อะไรที่คิดขึ้นมาเดี๋ยวนี้ก็ไปเลย ก็เลยพาคุณยายไปค่ะ อย่างที่บอกว่าไปแล้วก็ไปเจอลูกและเจอคนพิเศษของลูก ก็ถือว่าเป็นลูกอีกคนนึงแล้วกัน ได้มีเวลาแชร์กัน เขาเตรียมทำรายงานไว้ก่อนเลย บางที 3-4 ทุ่มหลับแล้ว แต่ตื่นมาทำรายงานตอนตี 2 ถึง 6 โมงเช้า แล้วเขาก็นอนต่อตอน 7 โมง ตื่นมา 10 โมงแล้วปั่นรายงานต่อ แล้วตอนบ่ายไปเรียนค่ะ”

คุณแม่ให้ผ่านมั้ยในการที่ช่วยดูแลกันและกัน?
“โห อันนี้บอกตรงๆ ในการเป็นแม่เลยนะคะว่าสบายใจ เบาใจ ครั้งแรกนี่เป็นห่วงจริงๆ ยังบอกลูกเลยว่าต้องนั่งรถบัสใต้ดินที่อังกฤษ ซึ่งมันก็ยังเก่าๆ แล้วมหาวิทยาลัยที่เขาเรียนจะเป็นตอนบ่าย 3 โมง เลิก 3 ทุ่ม ออกมาก็เปลี่ยวมาก พี่ก็บอกว่านั่งอูเบอร์ก็ได้นะ แต่ก็ดีค่ะที่น้องเป๊กบอกว่าไม่เป็นไรครับแม่ เดี๋ยวผมมารับน้องเพลงเอง เราก็ต้องขอบคุณตรงนี้ที่ลูกไม่ได้พูดแค่คำพูดที่บอกให้แม่สบายใจ น้องเพลงก็มาบอกเหมือนกันว่าจากวันนั้นที่เป๊กบอกแม่ จนทุกวันนี้เป๊กยังมารับมาส่งที่นั่นตลอด ถ้าให้รอก็รออยู่ในมหาวิทยาลัย ไม่ให้ออกมา อันนี้คือสิ่งที่น้องเพลงถ่ายทอดให้แม่ฟัง

เรียกว่าได้ใจคุณแม่ไปเลยมั้ย?
“คืออันนี้ต้องบอกเลยว่าขอบคุณค่ะ ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ของคุณเป๊กนะคะ พี่เชื่อว่ามาจากการเลี้ยงดูค่ะ เลี้ยงลูกคืออย่าบอกว่าคล้ายดีกว่า คือเหมือนกัน เป็นลูกผู้ชายหรือหญิงก็จริง แต่เขาเลี้ยงใกล้ตัวคุณพ่อคุณแม่มาก มันเลยรู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นหน้าที่ที่เขาเต็มใจทำ เพราะเขาก็ถูกเลี้ยงดูมาแบบนี้จากคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องมานั่งรอแบบนี้เหมือนกัน หรือพี่น้องด้วยกันเอง พี่ก็รอน้อง น้องก็รอพี่ แล้วเพลงเป็นลูกคนเดียว แต่ยายก็รอหลาน เราก็รอลูก ถ้าไม่ใช่เราก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของเราที่ไปนั่งรอแทนเรา มันเป็นเหมือนกันหมด”

เรียบจบแล้วจะให้น้องแต่งงานหรือว่าทำงานก่อน?
“โห มาใหญ่อีกแล้ว (ยิ้ม) เอาแค่ตรงนี้ดีกว่าค่ะ อย่างที่บอกว่าการมีความหวังก็ดี การเรียนเราก็ต้องไปให้ดีที่สุด จะรักใครจะทำอะไรก็อย่ากั๊ก ทำให้มันถึงที่สุด แต่เมื่อถึงวันนั้นจะเป็นอะไร มันใช่หรือไม่ใช่ ไม่มีใครรู้นะคะ สิ่งที่มันบอกเราได้คืออดีตที่ผ่านมา มันเป็นสิ่งที่บอกปัจจุบันได้ดีที่สุดว่าเมื่ออดีตความรักเราเป็นยังไง ตอนนี้บอกลูกได้อย่างเดียวค่ะว่ารักเถอะลูก อย่ากั๊ก ทำให้สุดๆ และเมื่อวันนั้นใช่หรือไม่ใช่ไม่รู้ แต่ลูกจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจว่าเราไม่ได้เต็มที่กับความรักตรงนี้ อะไรจะเกิดขึ้นไม่รู้ค่ะ”

ณ วันนี้ถือว่าวางใจให้เขาดูแลลูกสาวแล้ว?
“การที่เราคุยกับน้องเป๊ก เราเคยได้เจอน้องเป๊กมาบ้างแล้ว เพราะเขาเป็นเพื่อนกันมาก่อน พอได้มาเจอกัน คราวนี้ที่ไปก็ได้มีการพูดคุยกันมากขึ้น เราก็รู้สึกว่าเป๊กเป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดคุณยายหรือคุณแม่มากที่สุด คือเป็นเด็กที่ไม่รำคาญคนแก่ เป็นสิ่งที่ชีวิตจริงๆ ของน้องเป๊กเองเป็นดูแลใกล้ชิดคุณยายอยู่แล้ว ถามว่าเราวางใจมั้ยเราวางใจค่ะ”

ตอนนี้น้องเพลงยังไม่ได้คิดเรื่องแต่งงานใช่มั้ย?
“โห เขายังต้องเรียน ยังต้องทำงาน ยังต้องมาอีกเยอะแยะค่ะ ถามว่าเขามีพูดเรื่องนี้มั้ย ไม่มีๆ ค่ะ”

รูปประกอบ : plengasavahame

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน