‘มิกค์’เปิดประสบการณ์ เป็นทหารได้อะไรมากกว่าที่คิด

‘มิกค์’เปิดประสบการณ์ เป็นทหารได้อะไรมากกว่าที่คิด – หายหน้าไปรับใช้ชาติอยู่ 6 เดือน สำหรับพระเอกลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก ‘มิกค์ ทองระย้า’ ล่าสุดปลดประจำการมาพร้อมๆ กับผลงานละครเรื่อง “มนตร์กาลบันดาลรัก” ที่แสดงคู่กับนางเอกสาว ‘โบว์’เมลดา สุศรี ได้ฤกษ์ลงจอช่อง 7 สีพอดี

จาก 6 เดือนที่เข้ากรมทหาร สังกัดกองทัพอากาศ ได้ประสบการณ์อะไรอย่างไรบ้าง วันนี้พลทหารมิกค์จะมาเล่าสู่กันฟัง

★ เข้าไปรับใช้ชาติเป็นอย่างไรบ้าง?

มิกค์ – “สนุกครับ 6 เดือนได้อะไรมากกว่าที่คิด อย่างแรกที่ได้คือมิตรภาพ ทั้งกับเพื่อนๆ รุ่นพี่ เป็นการต้อนรับที่ดี น่ารักมาก การเกณฑ์ทหาร การเข้าไปฝึก การระดมพล เราต้องปรับตัวอยู่กับทุกคนให้ได้ ช่วงแรกที่เข้ากรมผมคุยทั้งวันเลย(หัวเราะ) เพราะ เพื่อนๆ รู้จักเราอยู่แล้ว พอมาเจอเรา เขาก็จะถามคำถามเป็นร้อยๆ คำถาม อยากรู้ว่าวงการบันเทิงเป็นอย่างไร ทำงานยังไง รู้จักคนนั้นคนนี้มั้ย จะถามตลอด เราเลยสนิทกับทุกคนเร็วมาก เพราะมีคนเข้ามาคุย ซึ่งตอนแรกที่เข้าไปก็กังวลว่าเราจะเข้ากับทุกคนได้มั้ย จะคุยกันรู้เรื่องหรือเปล่า เลยตัดสินใจว่าสบายๆ ตอนฝึกเขาให้ทำอะไรก็ต้องทำเหมือนกัน ผมว่าถ้าเราทำตัวให้เหมือนคนอื่นก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ”

★ ตอนฝึกเราเป็นเป้าใหญ่ไหม?

มิกค์ – “เป้าใหญ่มาก(หัวเราะ) ไปถึง ยกตัวอย่าง จ่าเขารู้จักเราก็จะแกล้งๆ ถามคนไหน มิกค์ ทองระย้า เราก็ยกมือ เขาบอกมานี่ วิดพื้น 20 สนุกครับ ถือเป็นการรับน้อง เป็นการฝึกออกกำลังกาย ทุกอย่างที่เขาให้ทำมันได้กับเราหมด”

★ ช่วงที่ฝึกจริงเป็นอย่างไรบ้าง?

มิกค์ – “หนักครับ ต้องฝึกกลางแดด แต่เขาก็จะมีลิมิต เมื่อไรที่ความร้อนถึงขนาดนี้เขาก็จะหยุดฝึก ป้องกันอาการฮีตสโตรก จะมีหัวหน้าแพทย์มาสอนเรื่องอาการฮีตสโตรก ก็มีเพื่อนๆ ที่เป็น เขาก็จะให้มาพักข้างสนาม เราเห็นเดินสวนสนามด้วยกันอยู่ๆ ก็ร่วง ต้องช่วยกันจับ มีเพื่อนหลายคนช่วงแรกที่ไม่ไหว นั่งหอบดมยาดม พอผ่าน 1 เดือนแรกสบายแล้ว ฝึกได้เต็มที่ ช่วง 2 เดือนแรก เราต้องปรับตัว ปัจจัยหลักคือเรื่องแดด พอร้อนทุกอย่างจะรวนหมด ช่วงแรกๆ จะเป็นการฝึกท่ามือเปล่า ซ้ายหัน ขวาหัน วันทยหัตถ์ เข้าเดือนที่ 2 ฝึกขึ้นท่าอาวุธ ช่วงเดือนแรกเพื่อนๆ อยากถือปืน รวมถึงผมด้วย พอขึ้นท่าอาวุธผ่านไป 3 เดือน ทุกคนบอกไม่เอาแล้วได้มั้ยปืน เพราะหนัก ผมอยู่กรมทหารต่อสู้อากาศยานรักษาพระองค์ พัน 1 ต้องตื่นตี 04.45 น. เขาจะเป่านกหวีด ให้เวลา 10-15 นาที ในการล้างหน้าแปรงฟัน ทำธุระของตัวเองให้เรียบร้อย แล้วมารวมพลกันข้างหน้า จัดแถวเสร็จเช็กชื่อและวิ่งรอบกองพัน วิ่งไปร้องเพลงไป วิ่งเสร็จมาออกกำลังกาย วิดพื้น กระโดดตบ ทุกคนต้องช่วยกัน เวลาโดนทำโทษ ทุกคนต้องโดนด้วยกันหมด ถึงจะทำผิดแค่คนเดียว”

★ ที่ได้เจอประสบการณ์จริงมา มันโหดเหมือนที่หลายคนคิดไหม?

มิกค์ – “โหดมีหลายความหมาย ถามว่าโหดในเรื่องการฝึกมั้ย ผมว่าค่อนข้างโหด แต่ก็มีความจำเป็น เพราะเป็นทหารต้องมีความแข็งแรง ทุกคนผ่านได้ เราก็ต้องผ่านได้ เจอแดดเราต้องไม่กลัว ถามว่าท้อมั้ย ไม่ท้อ แต่จะมีช่วงเหนื่อย แต่ไม่มีความรู้สึกว่าเราไม่น่าสมัครเลย เพราะเราอยู่กับเพื่อนๆ จะเหมือนมีการให้กำลังใจ มันคือความอดทน ถ้าเราผ่านจุดนี้ได้ ทุกอย่างสบาย หลังฝึก 2 เดือนจะมีพัก 10-15 วัน ปล่อยให้กลับบ้าน ตอนนั้นรู้สึกว่าแข็งแรงมาก สิบล้อชนก็คงไม่ตาย(หัวเราะ) ทนทานมาก ทั้งน้ำ ทั้งฝน เดือนแรกน้ำหนักผมลงไป 8 ก.ก. หลังฝึกทหารใหม่ครบ 3 เดือน เราก็จะถูกจำแนกออกไปว่าคนไหนจะไปอยู่กรมไหน ฝ่ายไหน ใครเก่งดนตรีก็ไปอยู่ดุริยางค์ คนที่เป็นเรื่องกีฬาก็ไปอยู่การกีฬา ใครเก่งด้านไหน เขาจะดึงให้ไปอยู่ด้านนั้น อย่างผมมาอยู่กรมกิจการพลเรือนเกี่ยวกับเรื่องประชาสัมพันธ์ ตอนนี้ปลดประจำการ ครบ 6 เดือนแล้ว รู้สึกเร็วมาก”

★ วางแผนยังไงต่อไปหลังปลดประจำการแล้ว?

มิกค์ – “กลับมาถ่ายละคร เพราะแฟนๆ เริ่มบ่นคิดถึง จริงๆ หายไปไม่นาน แต่ก่อนเข้ากรม ผมบวชด้วยอีก 2 เดือน รวมแล้วหายไป 8 เดือน แต่มีละคร มนตร์กาลบันดาลรัก กำลังจะออนแอร์”

★ สัญญากับช่อง 7 เหลือเยอะไหม?

มิกค์ – “สัญญายังอยู่ ไม่ไปไหน ยังเล่นกับนางเอกไม่ครบทุกคนเลย ตอนนี้ทางช่องมีเตรียมไว้ให้ 2 เรื่อง ถ่ายปีนี้ แต่ต้องรอผมยาวอีกหน่อย ช่วงนี้ก็จะไปเที่ยว ไปเยอรมัน สวิส อิตาลี ก่อนกลับมาลุยงานเต็มที่ ส่วนงานอื่นอย่างธุรกิจ ขอทำงานสักระยะก่อน เหมือนต้องกลับมาเริ่มต้นงานแสดงใหม่ ตอนนี้อาจจะลืมแสดงไปแล้วว่าแสดงยังไง เพราะหายไปนาน(หัวเราะ) ถามว่าเคยคิดรับราชการมั้ย เคย แต่เมื่อได้ลองไปทำแล้ว มันไม่ตรงกับสายงานของเรา มันก็จะขัดๆ ครับ”

★ เข้าวงการมากี่ปีแล้ว?

มิกค์ – “10 ปีพอดี ตอนเข้ามาอายุ 16 ปี ตอนนั้นผอมๆ แห้งๆ อยู่เลย มันทำให้ผมเปลี่ยนไปเยอะ เริ่มจากเรื่องระเบียบวินัย และการทำงาน แสดงอยู่ 2-3 ปี ถึงเข้าใจว่าการทำงานคืออะไร ต้องทำงานร่วมกับคนอื่นอย่างไร หลังจากนั้นเริ่มสนุก ก็ยาวถึงทุกวันนี้ ไม่เคยคิดว่าจะมายืนอยู่จุดนี้ได้ ผมเป็นคนไม่เคยคาดหวังกับตัวเองเลย ถ้าเราคาดหวังไปเยอะมากๆ เราจะรู้สึกไม่ดี แต่ถ้าไม่ได้คาดหวัง แล้วมันได้ มันก็เป็นสิ่งที่ดีขึ้นเรื่อยๆ”

★ อะไรที่ทำให้มายืนเป็นพระเอกเบอร์ต้นๆ ของช่อง 7?

มิกค์ – “หลักๆ ผมโฟกัสที่การแสดงก่อนอย่างอื่น ถ้าการแสดงเราโอเค แล้วพัฒนาไปเรื่อยๆ คนรอบข้างเขาเห็นผลงานว่ามันโอเคและดีขึ้น ทำให้ทุกคนเชื่อในการแสดง ทุกอย่างก็จะตามมาเอง คือทุกครั้งที่เล่น ผมจะกลับมาตรวจงานเราตลอด ผมเคยทำงานกับพี่เวียร์(ศุกลวัฒน์) พอสั่งคัตปุ๊บ แกจะมานั่งดูหน้าจอมอนิเตอร์ เรื่องแรกเจอพี่เวียร์ เพชรตัดเพชร พี่เวียร์ไม่เชิงสอน เจอตอนฟิตติ้ง เขาจะบอกว่าเริ่มใหม่ครับ เรื่องใหม่เริ่มใหม่การแสดงใหม่ มันเป็นการให้กำลังใจกันด้วย เราก็เกร็งตอนที่เจอ เขาบอกไม่เป็นไรครับ เริ่มใหม่เหมือนกัน เรื่องที่แล้วผมก็ลืมแล้ว นั่นคือสิ่งที่ดี ผมได้ต้นแบบตรงนี้ด้วย พี่เวียร์เป็นคนน่ารักมาก เจอเขาเรื่องแรก เขาค่อนข้างเปิดโอกาสให้น้องๆ มันคือการมีต้นแบบที่ดี”

★ ตอนนี้เราก็กลายเป็นป๋าดันแล้ว?

มิกค์ – “เวลาเจอนางเอกใหม่ๆ หรือคนที่ไม่เคยเจอ ผมจะตื่นเต้นทุกครั้ง เราเป็นคนอยากลองอยากทำ อยากเล่นกับเขา อยากรู้ว่าจะรับส่งบทกันยังไง ผมเป็นคนมองเรื่องการแสดงเป็นหลัก เวลาเจอนางเอกที่ไม่เคยเจอ จะมองก่อนว่าเราจะเข้าหาเขาด้านไหน เพราะเวลาเล่นกับนางเอก ผมจะรู้สึกรักทั้งในจอและนอกจอด้วย เวลาทำงานมันจะได้สนุก”

★ มองวงการเปลี่ยนไปจากวันแรกไหม?

มิกค์ – “ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ อยู่ที่เราจะตามมันไปหรือเปล่า หรือจะอยู่ในจุดเรา พอมันเปลี่ยน เราก็ค่อยๆ ปรับตาม ผมโชคดีที่เข้ามาแล้วไม่ได้ดังเลย ค่อยๆไปเรื่อยๆ เรื่องการวางตัวก็ปกติ สบายๆ ไม่วุ่นวายกับใคร ผมว่าถ้าเราดีกับทุกคน ทุกคนก็จะดีกับเราครับ”

★ จะทำงานในวงการถึงเมื่อไหร่?

มิกค์ – “ก็เล่นไปเรื่อยๆ จนผู้ใหญ่มาบอกว่ามิกค์ควรเล่นเป็นบทพ่อแล้วนะ ก็โอเค ค่อยๆ ปรับตัว ยาวไปครับ”