โตโน่ ภูมิใจตำแหน่ง ทูตแห่งมหาสมุทรฯ ยอมลดรายได้ส่วนตัว-ทุ่มเทงานเพื่อสิ่งแวดล้อม

ถือเป็นความภาคภูมิใจในชีวิตของนักร้องหนุ่ม โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ผู้ก่อตั้งโครงการเก็บรักษ์ในประเทศไทย หลังได้รับแต่งตั้งจากองค์การสหประชาชาติ เพื่อมหาสมุทร เป็น “ทูตแห่งมหาสมุทรเพื่อความยั่งยืนแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” สืบเนื่องจากที่นักร้องหนุ่มอุทิศตัวเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ปกป้องทะเลและธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา ที่ สยามสมาคม ถ.อโศกฯ

ทั้งนี้ “ข่าวสดออนไลน์” มีโอกาสได้พูดคุยถึงความรู้สึกและเป้าหมายในการทำงานเพื่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการแบ่งภาคระหว่างงานในวงการและงานเพื่อสังคม

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

สุดภูมิใจ – นักร้องหนุ่ม “โตโน่ ภาคิน” ขึ้นกล่าวหลังได้รับแต่งตั้งจากองค์การสหประชาชาติ เพื่อมหาสมุทร เป็น “ทูตแห่งมหาสมุทรเพื่อความยั่งยืนแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” สืบเนื่องจากที่นักร้องหนุ่มอุทิศตัวเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ปกป้องทะเลและธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ สยามสมาคม ถ.อโศกฯ #ข่าวสดบันเทิง @mootono29 #โตโน่ภาคิน

โพสต์ที่แชร์โดย หนังสือพิมพ์ข่าวสด (@khaosod) เมื่อ

ความรู้สึกกับการได้รับตำแหน่ง “ทูตแห่งมหาสมุทรเพื่อความยั่งยืนแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” จากองค์การสหประชาชาติ เพื่อมหาสมุทร?
“ตื่นเต้นและเป็นเกียรติมากที่ได้รับตำแหน่งนี้ แต่เป็นสิ่งที่ไม่ได้คิดเอาไว้ว่าทำแล้วจะได้อะไร ถึงแม้ว่าจะได้ตำแหน่งนี้มาแต่เป้าหมายคือประเทศเราไม่ดีขึ้นก็แทบไม่มีประโยชน์อะไร ตอนนี้ก็หวังว่าองค์กรใหญ่ๆ ที่เห็นในสิ่งที่เราทำและช่วยกันทำอะไรเพื่อประเทศของเราเพราะเราเชื่อว่าทะเลไทย ป่าไม้ไทย สิ่งแวดล้อมของไทยเป็นมรดกของโลก เป้าหมายก็ยังเหมือนเดิม อย่างที่ผมบอกว่าตำแหน่งทูตนี้จะไม่มีประโยชน์เลยถ้าเราไม่สามารถหลุดจากหนึ่งในสิบของประเทศที่ปล่อยขยะพลาสติกลงทะเลมากที่สุดในโลก ยิ่งเราได้ตำแหน่งเรายิ่งต้องทำให้มันเป็นจริงและสำเร็จให้ได้

แนวคิดเรื่องการเป็นนักอนุรักษ์ วางแพลนว่าจะทำไปยาวนานแค่ไหน?
“จริงๆ ตัวผมไม่ได้เป็นนักอนุรักษ์ สิ่งที่เราทำเพราะเราเป็นคนไทยคนหนึ่งแค่นั้นเอง ตั้งแต่วันแรกที่เห็นข่าวฝุ่น PM2.5 เห็นอันดับต่างๆ ต่างประเทศไม่ลดเพดานภาษีเพราะอะไร เพราะเขามองว่าเราไม่มีความรับผิดชอบต่อโลก เวลาที่ขยะที่ลงไปในทะเล ซึ่งทะเลเป็นน่านน้ำสากลแล้วก็ลอยไปยังประเทศต่างๆ ได้ ฉะนั้นเราในฐานะคนไทยคนหนึ่งก็ไม่อยากให้เป็นมันอย่างนั้น”

ไม่พลาดข่าวฮอตแวดวงมายา
แค่กดเป็นเพื่อนไลน์ ข่าวสด@บันเทิง ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

จนถึงวนนี้ที่ลงมือทำโครงการเก็บรักษ์มาเห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างไหม?
“อย่างน้อยๆ คนก็มาช่วยเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ทำ มีน้องๆ นักเรียนนักศึกษา ครูอาจารย์ ประชาชน คนในพื้นที่ให้ความสำคัญมากขึ้น จากเมื่อก่อนที่เราไปเก็บขยะกันเป็นกลุ่มเล็กๆ ตอนนี้ก็เป็นกลุ่มที่ใหญ่ขึ้น เราเพิ่งทำโครงการนี้ได้แค่ 5 เดือนคือ 5 ครั้ง เก็บขยะตามชายหาดไปได้แล้วเป็น 10 ตัน นอกจากนี้คนก็รู้จักมากขึ้นในเวลาอัดรวดเร็วเพราะสื่อต่างๆ ช่วยลงข่าวให้อย่างต่อเนื่อง ถ้าเราช่วยกันเก็บขยะทุกวันแล้วประเทศไทยจะไม่หลุดจากหนึ่งในสิบของประเทศที่มีขยะมากที่สุดก็ให้มันรู้ไป”

เห็นว่าไปดูโรงงานย่อยสลายขยะที่ประเทศญี่ปุ่นมาด้วยเป็นยังไงบ้าง?
“ใช่ครับ เราอยากจะไปศึกษาเรียนรู้เอง เลยทำจดหมายยื่นไปที่ทางญี่ปุ่นว่าเราทำโครงการเก็บรักษ์ที่ประเทศไทยอยู่ ขอเข้าไปดูได้มั้ยเพื่อให้เขาส่งคนมาให้ความรู้เราด้วย ต้องขอบคุณทางญี่ปุ่นด้วยที่เขาไม่คิดค่าใช้จ่ายในการให้รถบัสไปดูสถานที่ต่างๆ หรือไม่เก็บค่าเข้าชมอะไรเลย แต่ว่าในเรื่องของค่าใช้จ่ายอื่นๆ เราก็ใช้เงินที่ได้จากการเล่นคอนเสิร์ตมาใช้จ่าย พอไปถึงเราก็ถามคนที่โน่นว่าโรงงานกำจัดขยะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแบบนี้มีมากี่ปีแล้ว เขาบอกว่าตั้งแต่เมื่อ 20 ปีที่แล้วเขาใช้ทุนประมาณ 9 พันกว่าล้านบาท แล้วที่โตเกียวมีโรงงานแบบนี้อยู่ทุกเขตคือ 23 เขตเท่ากับ 23 โรงงาน ซึ่งลองคิดว่าถ้าเอามาทำในบ้านเราจะต้องใช้งบเท่าไหร่ ดังนั้นเราคิดว่าอันนี้มันไกลตัวไป และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะสร้างเสร็จ แทนที่เราจะไปหาเงินเป็นแสนๆ ล้านบาทเพื่อมาสร้างโรงงานพวกนี้ เราใช้แรงเราก่อนก็ได้ เริ่มจากการลดขยะและเก็บขยะกันไปแบบนี้ เชื่อว่าเมื่อไหร่ที่จิตสำนึกเรามากพอก็จะผลักดันให้ทุกคนเห็นได้เองว่าเราควรจะมีโรงงานแบบไหน”

แบ่งภาคตัวเองยังไงเพราะงานในวงการก็ต้องทำ งานเพื่อสังคมก็อยากทำ?
ทุกอย่างไม่ยากเลย ถ้ากล้าตัดกล้าลดรายได้ของตัวเองลง เรากล้าเพราะมันเป็นเรื่องที่ต้องทำจริงจัง ละครเราก็ถ่าย คอนเสิร์ตเราก็ต้องเล่น แต่แทนที่จะไปรับงงานเพิ่มก็เอามาทำตรงนี้ให้มากขึ้น”

ขอบคุณภาพ IG : mootono29, khaosod

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน