‘เขตต์’ลาช่อง7สีทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง เปิดประสบการณ์ผจญภัยโลกภายนอก

หลังมาร่วมงานปันน้ำใจเลี้ยงอาหารกลางวันให้น้องๆ ผู้พิการ ที่บ้านนนทภูมิ แล้ว นักแสดงหนุ่ม เขตต์ ฐานทัพ ได้เผยถึงเรื่องที่ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการแผนกละคร บริษัท มีเดีย สตูดิโอ จำกัด ของช่อง 7 และขอเป็นนักแสดงอิสระว่า

“ที่ตัดสินใจลาออก คือเราทำงานมาเกือบ 2 ปี ในส่วนของการทำงานเบื้องหลัง การผลิตละคร ส่วนการเป็นนักแสดงช่อง 7 ทำมา 20 ปีแล้ว สัญญาหมดไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ก็เป็นนักแสดงอิสระโดยปริยาย แต่ด้วยเราทำงานอยู่ที่มีเดีย สตูดิโอ ซึ่งเป็นบริษัทของช่อง 7 สี การที่เราจะรับงานที่อื่นเป็นไปไม่ได้ มันจำเป็นต้องเลือก ซึ่งงานเบื้องหลังเป็นงานค่อนข้างหนัก มันกินเวลาทั้งชีวิตของเราไปเยอะ เอาง่ายๆ เวลาดูลูกแทบไม่มี ก็มานั่งทบทวนดูและมีการพูดคุยกับทางผู้ใหญ่ ก็เดินเข้าไปบอกท่านครับ”

แล้วงานละครที่ทำกับช่องค้างอยู่ต้องเคลียร์ยังไง “ก็มีละคร หัวใจลูกผู้ชาย ใกล้ปิดกล้องแล้ว ส่วนละครที่ถ่ายอยู่ของช่อง 7 สี เพิ่งปิดกล้องไป เรื่องเด็กเสเพล”

กลัวไหมว่าละครจะโดนดองไม่ได้ออกอากาศ “ไม่หรอกครับ เราอยู่กับช่องมานาน พอจะรู้จักนิสัยใจคอช่องอยู่”

เป็นการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ร่วมงานหลากหลายมากขึ้น “เราอยู่ที่นี่มา 20 ปี ยังไม่เคยมีโอกาสร่วมงานกับทีมงานที่หลากหลายมากขึ้น ผมว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่อีกแบบหนึ่ง แล้วก็ได้เรียนรู้งานจากการทำงานของแต่ละทีมเพิ่มมากขึ้น”

ไม่ใช่เพราะน้อยใจช่องใช่ไหม “ไม่มี มันเลยจุดนั้น มันอยู่กันมาแบบครอบครัวยาวนานมาก จากกันด้วยดีไม่มีปัญหา”

มีผู้จัดคนไหนติดต่อมาหรือยัง “มีผู้จัดหลายท่านพยายามติดต่อมาเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่ช่วงมีข่าว ก่อนหน้านี้ก็มี แต่เราที่ยังติดอยู่”

รอเลือกบทที่เข้มข้นขึ้น “มันก็ตามวัย แต่บทที่เล่นมันต้องได้โชว์หรือได้ทำอะไรที่สมกับที่เราไม่ได้ออกมาสู่โลกภายนอกนานมาก เราอยู่ในโลกใบเดิมมา 20 ปี ต่อไปนี้ปีที่ 21 22 ชีวิตการแสดงของเราจะออกไปสู่โลกใบใหม่”

มีโปรเจ็กต์ทำละครกับค่ายอื่นหรือยัง “ตอนนี้ยังไม่มี ที่มีติดต่อมาเป็นงานแสดงมากกว่า เมื่อก่อนเล่นละครสูงสุดปีละ 5 เรื่อง จน 3-4 ปีหลังมีละครปีละเรื่อง รู้สึกคิดถึง หวังว่าจะได้รับละครเพิ่มมากขึ้น มีงานดีๆ มาให้คุณผู้ชมได้ติดตาม”

รู้สึกใจหายไหม เกิดจากที่นี่ อยู่มานานจนผูกพัน “แว้บแรกมีใจหาย แต่ ณ วันนี้จำเป็นต้องก้าวหน้าต่อไป เราไม่ใช่เด็ก เราโตแล้ว เรื่องจะมาตีอกชกตัวงอนง้อคือมันไม่มีอารมณ์น้อยใจ มีแค่เป็นเรื่องงาน วันหนึ่งถ้ามันลงตัวอาจจะกลับมาทำงานกันได้อีก”

ถามถึงเรื่องเตรียมมีลูกคนที่สอง “นี่เป็นอีกเรื่องที่ตัดสินใจลาออก เพราะไม่มีเวลาดูลูกเลย แนทและผมทำงานหนักมาก ลูกอยู่กับพี่เลี้ยง คุณยายท่านก็อายุเยอะแล้วตามจับหลานไม่ค่อยทัน ส่วนคนที่สองขอดูอีกสักปี ถ้าคิดว่าวางแผนชีวิตตัวเองได้ดีกว่านี้อาจตัดสินใจมีก็ได้ ถ้ามีอยากได้ลูกสาว”

อ่านข่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน