เช้นจ์2561’ยึดหลักท้าทาย
เน้นทำงานสนุก–โดนใจคนดู
เช้นจ์2561’ยึดหลักท้าทาย เน้นทำงานสนุก–โดนใจคนดู – มานั่งเก้าอี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เช้นจ์ 2561 จำกัด ได้ปีกว่า ผู้บริหารหญิงแกร่ง ‘ฉอด’สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ก็โชว์ผลงานเป็นที่โดดเด่นในหลายด้านทั้งละคร ซีรีส์ และคอนเสิร์ต จากที่เคยเห็นผลงานกันมาแล้วเมื่อคราวนั่งบริหารอยู่ในค่ายเอ–ไทม์
วันนี้มีโอกาสพูดคุยกับผู้บริหารคนเก่งถึงโปรเจ็กต์ เช้นจ์ 2561 ที่แฟนๆ รอคอยกันอยู่
◆ ภาพรวมของโปรเจ็กต์ต่างๆ ในครึ่งปีแรกเป็นยังไงบ้าง?
สายทิพย์ – “ทำไปเยอะแยะมาก ครึ่งปีแรกมีละครที่ออนแอร์ไปแล้วคือ ตกกระไดหัวใจพลอยโจน, นางมาร, เมียน้อย และใบไม้ที่ปลิดปลิว ส่วนเดือนก.ค.จะมี สามีสีทอง ช่อง อมรินทร์ฯ ส่วนโชว์บิซมี 2 งานคือ สี่แยกปากหวาน ตอน 2562 สี่แยกครองเมือง
และ The Real Nadech Concert ส่วนปลายปีจะมี J ADRENALINE 360 CONCERT ทุกอย่างเป็นไปตามเป้า รวมถึงรายการออนไลน์ อั๋นจ๋าเดอะเรียลลิตี้, BOY JEAB THE LOVE JOURNEY และพี่อ้อย พี่ฉอดตัวต่อตัว ทุกรายการดีขึ้นเรื่อยๆ ปลายปีจะขยับขยายอีกหลายรายการ”
◆ ไปทุกแพลตฟอร์มเหมือนกัน?
สายทิพย์ – “ใช่ค่ะ พอเราเปลี่ยนรูปแบบของการทำงานมาเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์และคอนเทนต์โพรไวเดอร์ เลยต้องมีหน้าที่ผลิตคอนเทนต์และส่งไปในทุกๆ แพลตฟอร์ม”
◆ คลับฟรายเดย์ฯ จะรักษาความเข้มข้นและความแซ่บไว้ได้เหมือนเดิมไหม?
สายทิพย์ – “เชื่อว่าในแง่ของความเข้มข้นมีทุกเรื่องอยู่แล้ว แต่แกนแต่ละเรื่องมีความแตกต่างกัน เชื่อว่าเรื่องที่เหลือก็ไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในเรื่องของนักแสดงที่มาเล่น มีหลายคนที่น่าจับตามอง
อย่าง ‘โบว์ แวนดา’ เพิ่งมาเล่นละครครั้งแรก ผู้กำกับฯ ปลาบปลื้มมาก ขนาดว่าจับให้ร้องไห้ทุกวัน (หัวเราะ) แล้วก็ยังมีเรื่องที่ ‘โอ๊ต ปราโมทย์’ เป็นพระเอกคู่กับ ‘ไอซ์ อภิษฎา’ เรียกว่าครึ่งปีหลังของคลับฟรายเดย์ฯ 11 จะมีความหลากหลายของรสชาติ”
◆ ครึ่งปีหลังรุกในด้านไหนบ้าง?
สายทิพย์ – “ตอนนี้แพลนที่เราทำไว้ปีนี้ทั้งปี มันก็คงจะรันไปเรื่อยๆ แต่ครึ่งปีหลังเรายังมีโปรเจ็กต์ใหญ่อีก ถ้าหากว่ามันสำเร็จและเกิดขึ้นได้จริง รับรองว่าอะไรสนุกๆ หลายอันเพิ่มขึ้นมาเป็นโปรเจ็กต์ที่แปลกแตกต่างออกไปจากที่เคยทำค่ะ”
◆ ละครที่จะลงในช่องอื่นๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน เริ่มชัดเจนขึ้น?
สายทิพย์ – “ตอนนี้ประเดิมเรื่องแรกที่ทำให้ช่อง one31 คือ ใบไม้ที่ปลิดปลิว ส่วนช่องอมรินทร์ฯ มี 2 เรื่องคือ สามีสีทอง กับรองเท้านารี สำหรับพีพีทีวีมีเรื่อง กลับไปสู่วันฝัน เราคาดหวังกับทุกงานที่ออกไป ยิ่งไปทำที่ช่องไหนแล้วเริ่มต้นใหม่ก็ตื่นเต้นและคาดหวังทุกเรื่อง หลักๆ ของเราคือตั้งใจกับทุกชิ้นงานไม่ว่าจะไปอยู่ที่ช่องไหน”
◆ แล้วในเรื่องความกดดันล่ะ?
สายทิพย์ – “ไม่เรียกว่ากดดัน เรามองเป็นความท้าทายและสนุก ทุกอย่างอยู่ที่วิธีคิด เหมือนที่เราบอกว่าเช้นจ์…แค่เปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตก็เปลี่ยน ถ้าเรามองเป็นความกดดัน มันดูหนักๆ หน่อย แต่ถ้ามองเป็นความท้าทาย จะรู้สึกดีมากกว่า อยากสนุกไปกับมันและทำให้มันโดนใจคนดู
แต่เวลาทำงานก็พยายามจะศึกษาคาแร็กเตอร์คนดูของช่องนั้น เพื่อทำละครให้ถูกใจ แต่ต้องไม่ทิ้งคาแร็กเตอร์ของความเป็นเช้นจ์ เราเชื่อว่างานของเช้นจ์ตอนนี้ไปอยู่ตรงไหนคนก็จะดูออกว่าคือเรา ถามว่าแซ่บมั้ย แซ่บ แต่แซ่บแบบช่องไหนก็แตกต่างกันไป”
◆ จะมีคอนเสิร์ตอะไรเด็ดๆ อีกบ้าง?
สายทิพย์ – “มี J ADRENALINE 360 CONCERT แล้ว ยังมีคอนเสิร์ตใหญ่ของ อ๊อฟ ปองศักดิ์ ในเดือนต.ค.นี้”
◆ ทำคอนเสิร์ตของศิลปินคนเดิมที่เคยทำมาแล้ว สร้างความแตกต่างในโชว์ใหม่ยังไง?
สายทิพย์ – “เรามีวิธีคิดว่า ถ้าเราทำงานให้ใครก็จะทำสุดไปก่อน พอมีคนมาถามว่าถ้าทำอีกจะทำยังไง ไม่เป็นไรไปคิดข้างหน้า ซึ่งพอถึงตรงนั้นจะมีทางไปของมันได้เอง อย่างคอนเสิร์ตของ เจ เจตริน 3 ครั้งที่ผ่านมา
พอมาถึงครั้งนี้เรารู้แล้วว่าคนดูชอบอะไร เราก็ใส่สิ่งนั้นลงไป แต่ที่แน่ๆ แค่เอาความเป็นเซ็นเตอร์ สเตจอันนี้ก็คือแตกต่างแล้ว แต่ที่สำคัญที่สุดตัวของเจเป็นคนที่มีพลังล้นเหลือมาก เจสามารถทำให้ทุกคนสนุกได้ ยิ่งตอนนี้ลูกๆ ทั้ง 3 เจ้าโตเต็มที่แล้ว แต่ละคนมีพลังทำลายล้างใกล้เคียงพ่อมาก มีอะไรที่แตกต่างแน่นอน”
“ส่วนอ๊อฟเนี่ย บางคนอาจจะแบบว่าเห็นเขาเป็นแขกรับเชิญของศิลปินหลายคนมาก คนอาจจะพูดว่าเห็นหมดแล้วๆ แต่ถึงเวลาจริงๆ ก็มีของใหม่มาให้ได้เล่นกัน ขออย่างเดียวให้ตัวศิลปินแข็งแรง เป็นเอ็นเตอร์เทน เนอร์ได้ครบทุกสิ่งอย่างแบบนี้มันก็มีทางไป”
◆ ทิศทางของเช้นจ์ในปีนี้คาดหวังว่าจะเติบโตขนาดไหนยังไง?
สายทิพย์ – “สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้คือทำงานด้วยความสนุก สนุกมากที่ได้คิดโน่นคิดนี่ แต่ที่ผ่านมาเราอาจจะต้องทำงานที่ต้องเกาะกับแกนของความเป็นช่องและคลื่นมาตลอด ไม่สามารถจะสร้างอะไรตามใจชอบได้เพราะที่สุดก็ต้องกลับมาดูแลในแกนหลัก แต่พอ วันนี้มาเป็นเช้นจ์คือเราคิดอะไรก็ได้แล้ว โดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง”