วันที่ 24 มี.ค. ที่ห้องสยามมกุฎราชกุมาร อาคารเฉลิมพระบารมี ๕0 ปี ซ.ศูนย์วิจัย ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ นักร้องลูกทุ่งหนุ่ม ‘เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม’ ให้สัมภาษณ์หลังมารับรางวัลศิลปิน ดารา และสื่อสารมวลชนเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ครั้งที่ 8 ถึงเรื่องที่จะเข้าใช้สิทธิ์การเกณฑ์ทหารเป็นครั้งแรกในปีนี้ นอกจากนี้ยังชี้แจงภาพหลุดคนหน้าเหมือนทำอนาจาร ยันไม่ใช่ตัวแน่นอน

เบิ้ล กล่าวว่า “เป็นการเกณฑ์ทหารครั้งแรก ผมเพิ่งอายุ 21 ปี รู้สึกตื่นเต้นและไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร มันเป็นสิ่งที่เราหนีไม่ได้อยู่แล้ว ผมตัดสินใจแล้วว่าถ้าจับได้ใบแดงได้เป็นทหาร ก็จะทำหน้าที่ตรงนั้นให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องเพลงถ้าวันไหนมีโอกาสพัก ก็มาเขียนเพลงไว้แล้วค่อยกลับไปฝึกใหม่ แต่ถ้าจับได้ใบดำก็ทำผลงานเพลงต่อไปให้ดีที่สุด ถ้าไม่ได้เป็นทหารก็อยากเป็นนักร้องที่ดีสำหรับแฟนเพลงต่อไป ฉะนั้นในวันที่ 2 เม.ย. ที่อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ เริ่มต้นจับใบดำใบแดง ผมตัดสินใจไปจับใบดำใบแดงด้วย คือคุยกับพ่อแม่ไว้ตั้งแต่ตอนเข้ามาเป็นศิลปินใหม่ๆ เราอายุยังน้อย ผมอายุ 21 ปี ถ้ายังไม่บวชก็ต้องเกณฑ์หารซึ่งเป็นหน้าที่ลูกผู้ชายครับ”

เหตุผลที่ไม่ใช้สิทธิ์ยื่นผ่อนผัน
“จริงๆผมก็เคยคิดจะผ่อนผัน แต่ผมเรียนกศน.อยู่ ด้วยวุฒิของกศน.ยังไม่มีผลไปผ่อนผันได้ ถึงผ่อนผันได้ครั้งต่อๆไปผมก็ต้องผ่อนผันอีก ก็จับไปเลยเป็นทหาร 2 ปี อย่างน้อยอายุผมก็ยังไม่เยอะ ออกมาทุกคนอาจจะยังยอมรับได้อยู่ แต่ถ้าไม่ดังก็ต้องยอมรับว่าทำไมถึงไม่ดัง สมัยที่เรายังไม่ดังไม่มีชื่อเสียง เป็นเน็ตไอดอลชาวนาคนหนึ่งก็ยังมีคนรักเรา ถ้าวันหนึ่งไม่ได้เป็นนักร้องก็อาจกลับไปเป็นแบบนั้นก็ได้ แต่ถ้าผมได้เป็นทหารแล้วออกมาเป็นนักร้องคนยังต้อนรับอยู่ก็ดีไป จะทำผลงานให้ดีที่สุด”

เสียดายไหมที่งานตอนนี้กำลังเยอะ
“ถามว่าเสียดายไหม ก็เสียดายตรงที่ว่าผมมีแพลนจะสร้างบ้าน ตอนนี้ก็ซื้อที่ดินในหมู่บ้านไว้ ยังไม่มีแพลนว่าจะทำตอนไหน เพราะไม่รู้ว่าถ้าจับได้ทหารแล้วจะได้อยู่หาเงินให้พ่อแม่ได้หรือเปล่า”

แล้วเรื่องรับงาน
“ช่วงนี่ยังขาขึ้น ไม่ใช่ว่าดัง แต่ก็มีงานเรื่อยๆ เรายังเป็นศิลปินใหม่ๆ ยังเนื้อหอม แฟนๆยังไม่เบื่อ เคยวิ่ง 3 งาน รายได้ตกวันหนึ่งประมาณสองแสนกว่า แต่ถ้าเดือนไหนงานเต็มทั้งเดือน ผมก็จะรับวันละงาน ถ้าหายไปสองปี ก็เสียรายได้ไปหลายล้านเหมือนกันนะ แต่เงินมันก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับการรักษาชาติ”

ทำไมไม่สมัครไปเลย 6 เดือน
“มันยังไม่ได้ครับ เพราะผมยังไม่ได้วุฒิ ม.6 เลย ผมจะได้วุฒิจากกศน.เดือนพฤษภาคม ไม่ทันครับ ผมไม่กลัวการเป็นทหารนะครับ มันมีคลิปหนึ่งมีทหารหลายคนร้องเพลงอ้ายมีเหตุผล ถ้าผมได้เข้าไปผมคิดว่าเพื่อนๆต้องรักผม อยากให้ทุกคนที่อยู่ที่นั่นรู้สึกว่าเราคือเพื่อนกันมาฝึกด้วยกัน ผมพูดเหมือนตัวเองได้เป็นทหารแล้ว(ยิ้ม) ก็ใช้ชีวิตปกติเป็นทหารคนหนึ่งมารับใช้ชาติ ถ้าเพื่อนอยากให้ร้องเพลงให้ฟัง ก็ร้องให้เขาฟังบ้าง”

จะไปบนอะไรไว้ไหม
“ไม่ต้องบนหรือพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรทั้งนั้นครับ ถ้าจะไปบนจริงๆเวลาแม่ไปขอหวยทำไมแม่ไม่ถูกหวยล่ะ มันมองไม่เห็นอยู่แล้ว เราทำตามหน้าที่และหัวใจของเรา มันไม่เกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์”

ถามถึงเรื่องภาพหลุด คนหน้าคล้ายเราทำอนาจาร
“เห็นภาพแล้วก็ตกใจครับ ก็อยากจะยอมรับอยู่ เพราะหุ่นเขาดี ตามธรรมชาติเด็กวัยรุ่นผู้ชายจะมีการระบายอารมณ์ตัวเอง มันไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่สิ่งที่ผิดคือเขาใช้โซเชียล ใช้กล้องถ่ายรูปไม่ถูกต้อง การใช้โซเชียลมันมีทั้งดีและร้าย ถ้าเราถ่ายทอดในมุมที่ดี แต่สำหรับภาพนี้เป็นภาพอนาจาร ซึ่งผมไม่ค่อยถ่าย ถ้าจะถ่ายก็ถ่ายดูคนเดียวในห้องดีกว่า พูดเล่นครับ”

ยืนยันว่าไม่ใช่เรา
“ไม่ใช่ครับ ยืนยันว่าไม่ใช่ผมแน่นอน ตลกมากกว่า ขนาดผมถ่ายรูปตัวเองยังต้องดูว่าหน้าได้ไหม ภาพนี้ต้องมาเปลือยมันดูอนาจารเกินไป”

กลัวคนเอาไปเม้าธ์เข้าใจว่าเป็นเราจริงๆไหม
“ผมไม่กลัว เราคงไปห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้ อย่างเช่นผมเป็นข่าวในโลกออนไลน์ มีบางคนมาคอมเม้นต์ว่า เบิ้ล ปทุมราช คือใคร ทำไมเขาไม่รู้จัก มันก็จะมีโมเม้นต์ทำให้เราสะเทือนใจ และเข้าใจว่าแต่ละคนมีมุมมองความคิดของเขาต่างๆนานา ทำไมเราต้องแคร์คนที่พูดให้เรารู้สึกไม่ดีด้วย เราก็แคร์เฉพาะคนที่ติดตามเรา แล้ววันหนึ่งที่เราทำความดีจริงและไม่ได้ทำอย่างที่เป็นข่าวจริงๆ คนที่ไม่รู้จักอาจจะมารู้จักและติดตามเราก็ได้ ภาพนี้ผมไม่กลัวคนเข้าใจผิดและไม่ซีเรียสเลย อยากให้เจ้าของภาพนี้ออกมายอมรับเองดีกว่า ไม่ต้องมายัดเยียดให้ผม หุ่นเขาก็เพอร์เฟ็คอยู่นะ ที่ผมพูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าผมชอบนะเพราะมันมีข่าวว่าผมเป็นเก้งเป็นกวางด้วย ผมเป็นผู้ชายชอบผู้หญิงครับ แต่ก็ไม่ถึงกับถ่ายภาพอะไรแบบนั้น อย่างเวลาเล่นคอนเสิร์ต แฟนเพลงขอเสื้อกล้ามก็จะมีถอดเสื้อโยนให้บ้าง แล้วรีบใส่เสื้อแขนยาว แต่จะไม่มีโมเม้นต์ถ่ายรูปนอกจากจะมีซิกแพ็กซ์ แต่ตอนนี้มันไม่อะไรให้โชว์”

เราเป็นศิลปินอีกคนที่มีคนโฟกัสที่เป้าเวลาเล่นคอนเสิร์ต
“ผมก็รู้มาตลอด สมัยที่ผมเป็นเบิ้ล ปทุมราช เพลงอ้ายมีเหตุผลในยุคแรกๆ ปีแรก มีคนตั้งฉายาว่า เฮียหำต่ง ผมใช้คำนี้เองในโลกออนไลน์ เพราะมันเป็นคำของคนแก่ในภาคอีสาน เขาจะมีคำเรียกของเขา เช่น บักหล่าคำแพง บักหล่าหำต่ง บักหล่าหำแหล่ หำน้อย หำใหญ่ มันไม่ใช่คำที่ลามก แต่ในมุมมองของคนกรุงเทพฯจะมองว่าทำไมต้องพูดคำนี้ แต่ในมุมมองคนอีสานมันเป็นคำที่น่ารักใช้เรียกด้วยความเอ็นดู อย่างคนที่ไม่รู้ว่า ต่งคืออะไร ก็จะสงสัย พอไปรู้ความหมายว่าต่งคือใหญ่นี่หว่า คนจะไปซูมที่เดียว ผมเคยรู้ว่าตัวเองมีภาพหลุดในทวิตเตอร์ มีคนแคปเป้าไปลง ก็เลยระวังมากขึ้น จากที่ใส่กางเกงในบางๆเปลี่ยนมาเป็นกางเกงบ็อกเซอร์ ระมัดระวังมากขึ้น บางทีมันเป็นเงา กล้องบางคนก็ซูมได้ดีมากก็เลยกลายเป็นภาพหลุดไป หำต่งมันเป็นเพียงแค่ฉายาไม่ได้มีอะไรให้คุณก้มไปดูน่าติดตามขนาดนั้น”

เขินไหมที่เวลาขึ้นคอนเสิร์ตแล้วมีคนโฟกัสจุดนั้นตลอด
“ก็เขินครับ อย่างมีคนถ่ายรูปหน้าเวทีใกล้ๆก็จะเขียนแคปชั่นโฟกัสอย่างเดียว วันนี้มาดูเฮียเบิ้ลแต่ไม่ได้ดูหน้าเฮียเบิ้ลเลย เราก็เขิน จะทำยังไงให้คนไม่มาโฟกัสจุดนี้ ก็คงต้องเปลี่ยนแปลงโชว์คอนเสิร์ต จากที่เด้งมากๆ มาเป็นโชว์ความสามารถพิเศษหยิบพิณมาดีดบ้าง ฟ้อน รำภูไทบ้าง มันจะเป็นการดึงดูดให้คนลืมมองตรงนั้นไป แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบมองแบบนั้นอยู่แล้ว เราก็ห้ามเขาไม่ได้ ก็ถือซะว่าเขามองแต่เขาเอาไปไม่ได้”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน