‘ญาญ่า’สู้ศึก‘กาสะลอง’ จินตนาการตัวเองเหนือมนุษย์
‘ญาญ่า’สู้ศึก‘กาสะลอง’ จินตนาการตัวเองเหนือมนุษย์ – กําลังเข้มข้น สำหรับละคร “กลิ่นกาสะลอง” ทางช่อง 3 ที่นางเอกสาว ‘ญาญ่า’อุรัสยา เสปอร์บันด์ ท้าฝีมือ รับบทแฝด ร่ายบทบาทถึง 4 คาแร็กเตอร์
ถึงแม้ช่วงนี้จะมีงานรัดตัว แต่สาวญาญ่าก็ยังเจียดเวลาพูดคุย
★ ครั้งแรกที่ได้รู้ว่าจะได้เล่น 4 คาแร็กเตอร์ รู้สึกอย่างไรบ้าง?
ญาญ่า – “ตอนแรกไม่คิดว่าจะยากขนาดนี้ ตอนแรกบทที่ได้มาจริงๆ ไม่ได้มี 4 คาแร็กเตอร์ขนาดนี้ค่ะ มีสอง แต่ด้วยที่ข้ามภพข้ามชาติ เลยเพิ่มมาอีกตัวสองตัว แต่จริงๆ แกนก็มีแค่สองคน เป็นแฝดค่ะ ซ้องปีบ กับ กาสะลอง โดยคาแร็กเตอร์ ซ้องปีบ จะเป็นคนต้องการทุกอย่างให้เป็นของตัวเอง เอาแต่ใจ เป็นคนนิสัยไม่ดี สำหรับ กาสะลอง ก็จะเป็นคนดีมากๆ ไม่มีความสุขตลอดเวลา ส่วน พิมพ์พิศา ก็จะเป็นตัวปัจจุบัน เป็นซ้องปีบที่มาเกิดใหม่ ตัวนี้จะเป็นตัวผสมผสาน เป็นคนที่แบบมีคำถามว่าตัวเองทำไมถึงขาดอะไรตลอดเวลา ขาดความรัก ไม่มีความสุข อ๋อ มีผีด้วย”
★ ชอบตัวละครไหน ระหว่าง ซ้องปีบ กับ กาสะลอง?
ญาญ่า – “สำหรับญ่า ในเชิงการแสดง ตอนเราตีความซ้องปีบ ไม่ได้ตีความว่า อีนี่มันร้าย คือคนนี้ไม่ได้ร้าย เขาถูกตลอดในความคิดของเขา ส่วนกาสะลองก็เป็นคนแบบนั้นเลย คิดว่าเขาดีทั้งคู่ เลยเลือกไม่ถูก แต่ซ้องปีบสนุกกว่า มีอะไรให้เล่นเยอะ กาสะลองจะเหนื่อย ญ่าต้องกดอารมณ์เยอะ จริงๆ เดี๋ยวจะได้เห็นกันเรื่อยๆ ว่ากาสะลองไม่ได้โง่ ไม่ได้ยอมขนาดนั้น ผีร้ายได้ขนาดนั้นแสดงว่ากาสะลองต้องมีความโกรธเยอะ เป็นตัวละครที่เก็บความรู้สึก ซึ่งอันนี้เหนื่อย ใครตบอะไรมา ต้องคุมอารมณ์ไม่โกรธ แต่ซ้องปีบไม่ต้องคุมอะไร”
★ หลงบทบาท หรือหลงชื่อในตัวละครบ้างไหม?
ญาญ่า – “หลงชื่อเป็นค่ะ แต่ผิดคาแร็กเตอร์ไม่เคย เพราะเขาต่างกันมาก”
★ กดดันไหม ที่ต้องเล่นหลายบท?
ญาญ่า – “กดดันมากๆ แต่ทุกคนทำให้เราไม่รู้สึกกดดันอะไรค่ะ มีแต่ตัวเราเองที่กดดันว่าเล่นอยู่ ส่วนมากจะเล่นคนเดียวเลย เรื่องนี้ที่ยากที่สุดก็ภาษาเหนือมั้งคะ เหมือนมันเหนื่อยมากๆ เพราะเล่นคนเดียว เล่นกับตัวเอง ต้องรับ-ตบ ทุกครั้งที่รับอารมณ์ของซ้องปีบ โดยที่เราเล่นกับตัวเอง คิดดูว่ากาสะลองต้องรับอารมณ์กับซ้องปีบทั้งๆ ที่ไม่ได้เล่นด้วยกันซ้องปีบก็ต้องตบกาสะลอง ทั้งๆ ที่เราเป็นคนเล่นคนเดียวกัน มันจะเหนื่อยตรงนี้ เพราะต้องใช้จินตนาการสูงมาก (เสียงสูง) ต้องใช้สมาธิเยอะมาก ต้องใช้ความจำว่าเราเล่นอะไรไปแล้วบ้าง สำหรับภาษาเหนือก็ยากมากๆ เพราะภาษาไทยกลางปกติยังพูดไม่ชัดเลยค่ะ(หัวเราะ) ก็ไม่ได้มีเวิร์กช็อปค่ะ แต่ได้มีครูมาส่งเสียงให้คืนหนึ่ง แล้วก็จำแล้วก็มาถ่าย”
★ เห็นว่ามีครูมาที่กอง?
ญาญ่า – “ใช่ค่ะ ก็มีคนมาฟัง เขาก็จะนั่งข้างผู้กำกับฯ แล้วฟังว่าเราพูดชัดหรือเปล่า ถ้าไม่ชัดก็ต้องบอกเราว่าไม่ชัดนะ มันยากมาก เพราะซ้องปีบต้องพูดแบบฉอด ฉอด ฉอด ไม่งั้นมันไม่ได้อารมณ์ เพราะว่าเราไม่ได้ถนัด แต่ก็ไม่หลายเทก ทำการบ้านไว้ดี”
★ เท่าที่เล่นมา ฉากไหนยากสุด?
ญาญ่า – “ทุกอัน(หัวเราะ) everything ยากหมดเลย มันไกลตัวมาก ตัวละครแต่ละตัว มันไกลเกิน”
★ แต่เราก็ทำได้?
ญาญ่า – “ก็อยากให้ตัวละครมันมีชีวิต ดูแล้วเชื่อค่ะ ที่ยากที่สุด สำหรับญ่า มันนานแล้วอ่ะ น่าจะฉากที่ เท่าที่จำได้นะคะ ทุกครั้งที่ญ่าเป็นแฝดเราต้องตบกัน อันนั้นล่ะยากมาก”
★ มีการใช้ ซีจี green screen เพื่อให้ดูมีหลายตัวในฉากเดียวกัน?
ญาญ่า – “ใช่ค่ะ เพราะว่าใช้ green screen บ้าง บางทีก็มีเอ็กซ์ตร้า มารับหลังเล่นต่อบทให้ เขาก็ต้องพูดให้ตามที่ญ่าพูดในบท เขาต้องพยายามเล่นให้เหมือนญ่าเล่นได้มากที่สุด แต่บางทีบางคนก็พูดไม่ได้เลย ก็ยืนสวยๆ แต่มีคนคนนึงที่พูดได้คือ ฝ้าย น้องฝ้ายเล่นดี ส่งดี สมมติว่าปกติเราจะถ่ายให้เห็นแบ๊กกราวด์ของจริง เขาก็จะเอา green screen เข้ามาเพื่อจะแปะตัวละครได้ เพราะฉะนั้นก็จะมีหนูยืนอยู่คนเดียว แล้วก็ต้องมองในจุดที่เราคิดว่าจะเล่นแบบนั้น ก็จะมองไปที่ตรงนั้น ยากค่ะ เพราะต้องจินตนาการว่า สรุปเราจะเล่นยังไงน้า ก็ต้องเล่นกับ 4 ตัว มีบางฉากที่มี 4 ตัวพร้อมกันเลย อันนั้นจะเหนื่อยมาก”
★ เรื่องนี้ถ่ายทำในเชียงใหม่นานไหม?
ญาญ่า – “เยอะนะคะ น่าจะเป็นเดือนๆ ซึ่งช่วงนั้นประสบวิกฤตหมอกควัน PM. 2.5 แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหามาก เพราะเราไม่ได้อยู่ในเมืองขนาดนั้นค่ะ เรื่องนี้เรียกว่าหนักหน่วงสำหรับญ่า เราเล่นเองทุกอย่าง ต้องคิดว่าตัวเองเป็น superhuman ค่ะ เพราะเรื่องนี้หนักหน่วงจริงๆ ไม่ได้นั่งเลย ได้นั่งแค่ตอนทานข้าว เสร็จตี 2 เริ่มตี 5 อย่างนี้”
★ ฉากเลิฟซีนที่เล่นกับ เจมส์ มาร์ เป็นยังไงบ้าง?
ญาญ่า – “สนุก ดีค่ะ เป็นมิติใหม่ในการถ่ายเลิฟซีนสำหรับญ่า นะคะ เพราะว่าด้วยบทค่ะ ก็ตามบทที่เขาเขียนมา เขาชัดเจนมาก ปกติตอนที่เขาจะถ่ายจริงๆ เราก็จะตัดทอนให้มันยังสามารถออกอากาศได้ แต่เรื่องนี้พิมพ์พิศาเขาเก็บทุกอย่างในบทไว้ ถ่ายในวิธีที่ไม่ได้ดูล่อแหลมเกินไป แต่ว่าชัดเจนมากๆ ว่ากำลังทำอะไรกันอยู่ เพราะฉะนั้นต้องใช้ความไว้วางใจกันสูงมาก แต่สำหรับญ่า ถ้าไม่ใช่เจมส์ ถ้าไม่ใช่คนรู้จักก็จะไม่เล่น เพราะมันชัดมาก แต่เล่นเพราะเขาเป็นเพื่อนเรา”
★ มีการขอลิมิตผู้กำกับฯ ไหม?
ญาญ่า – “ไม่ค่ะ เราคุยกันชัดเจน อันไหนที่รู้สึกว่าเยอะเกิน เขาก็โอเคตัดทิ้ง หนูุถามอันนี้จะเยอะขนาดนี้หรือเปล่า เขาก็อธิบายว่าหรือเราจะผ่านมุ้ง จะได้ไม่ชัดขนาดนั้น ถามว่าโดนปากได้มั้ย ก็ด้วยความไว้วางใจที่เจมส์เป็นเพื่อน เป็นคนสนิทคนหนึ่ง เลยรู้สึกว่าโอเค”
★ ณเดชน์มีหวงบ้างไหม?
ญาญ่า – “ไม่ค่ะ เราไม่คุยกันเรื่องนี้เลย เพราะเดี๋ยวมันจะมีปัญหาเปล่าๆ ทั้งๆ ที่มันเป็นการทำงาน ยิ่งถ้ารู้สึกว่า ได้เล่นกับผู้หญิงคนนี้แล้ว อินมากๆ แล้วเขาแบบดูรักกัน หนูจะยินดีมากๆ เพราะว่านั่นคือการแสดง ถือว่าเขาสวมบทบาทได้สุด”
★ แล้วณเดชน์ให้กำลังใจยังไงบ้าง?
ญาญ่า – “ให้กำลังใจดีค่ะ เรื่องนี้เหนื่อยเพราะฉะนั้นเขารู้ว่าเหนื่อย เขาก็จะแบบบอกสู้ๆ ตลอด”
★ ในนิยายพิมพ์พิศา จะได้ครองรักกับใคร?
ญาญ่า – “ในปัจจุบันตัวพิมพ์พิศาที่เกิดใหม่จะแต่งงานกับตัวที่เป็นสารวัตรที่พี่ต๊ะ-วริษฐ์ เล่นค่ะ แล้วมีลูก ที่ออกมาเป็นกาสะลองที่เกิดใหม่ แต่สำหรับ มั่นฟ้า กับ เหมย ที่ปัจจุบัน คือ หมอภูมิ กับ หมอก ก็จะแต่งงานแล้วมีลูกเป็นเจมส์ เล่าได้แค่นี้ค่ะ ก็ต้องดูว่าในละครเขาจะเอามาเล่าต่อหรือเปล่า ส่วนจุดจบของซ้องปีบ สำหรับหนู หนูคิดว่าซ้องปีบได้รับผลกรรมน้อยเกินกว่าผลกรรมที่เขาทำมา ก็อย่างที่เห็นพิมพ์พิศาจะเป็นคนอมทุกข์ ไม่มีความสุขสักที ก็ต้องลองมาดูว่าชีวิตของพิมพ์พิศาที่เป็นซ้องปีบเกิดใหม่จะเป็นยังไง”
★ จุดพีกของเรื่อง?
ญาญ่า – “จุดพีกของเรื่องสำหรับญ่า คือตอนที่ตัวละครตายหมด คือเราเปิดด้วย every dead dead dead dead dead ยังไม่ถึงค่ะ แต่ว่าตัวละครจะตายหมด ทั้งซ้องปีบ ทั้งกาสะลอง อันนี้คือในบทที่ได้ หนูรู้สึกว่าอันนี้คือช่วงเวลาของละครที่พีกสุด ซึ่งจะออกตอนใกล้จบ เพราะเหมือนแบบสุดท้ายที่ไฟต์กันมามันไร้ประโยชน์ ก็ตายอยู่ดี”
★ ฝากละคร?
ญาญ่า – “ฝากละครด้วยนะคะ เป็นละครที่ทุ่มเทกันมากๆ เราเหนื่อยกันมาเยอะ แต่เราเต็มที่ อยากให้ทุกคนดูแล้วอินกับเรื่องราวของพี่น้องที่เติบโตมาต่างกัน ได้ความรักที่ไม่เหมือนกัน มาเจอผู้ชายที่รักเหมือนกันทั้งคู่ เรื่องราวก็จะหนักหน่วงหน่อย แต่หลังจากนี้ จะสนุกมากๆ จะเป็นการเล่นเกมว่า สรุปแล้วใครจะชนะ ก็ฝากด้วยค่ะ”
สุชาวดี อภิสัมภนวงค์