วันที่ 27 มี.ค. ที่ร้านเมลโล่ การ์เด้น ย่านรามอินทรา ซาย-หทัยชนก สวนศรี หรือ ซาย เคพีเอ็น นักร้องสาว เปิดใจถึงปมดราม่าแช็ตหลุดนางเอกผลไม้ หรือ แตงโม-นิดา เป็นมือที่สามแย่งแฟนหนุ่ม กานต์-กษิดิ์เดช หงส์ลดารมภ์ หรือ กานต์ เคพีเอ็น และเคลียร์ประเด็นหลังถูกแม่ฝ่ายชายโพสต์แฉเรื่องส่วนตัว

โดย ซาย เผยว่า เป็นครั้งแรกที่เจอพี่ๆนักข่าวเยอะขนาดนี้ ตื่นเต้น ก็ตามนั้นค่ะ ทางฝ่ายนั้น (แตงโม-นิดา) พูดอะไรก็ตามนั้น ไม่มีอะไร เราได้เคลียร์กันแล้ว ต่างคนต่างขอโทษ ไม่มีอะไรกันแล้ว ประเด็นที่พี่เขาบอกว่าเป็นการล้อเล่น เข้าใจหนูใช่ไหม มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับความรู้สึกคน เราไม่เคย ก็แอบเสียใจเหมือนกัน หวังว่าสิ่งที่เขาพูดจะเป็นสิ่งที่ล้อเล่นจริงๆ

แช็ตที่หลุดออกมาทราบไหมว่ามาจากไหน

ไม่ได้หลุดจากหนูแน่นอน เราจะทำอย่างนั้นให้ตัวเองเสียหายทำไม ไม่มีเหตุผล แต่ก็ได้ปรึกษากับทางเพื่อน หลายคนก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ละคนก็บอกว่าไม่ใช่เขา สุดท้ายแล้วเราก็ไม่ทราบ แต่ความจริงคือความจริง ตอนแรกที่ไม่ได้ออกมาพูดอะไร เพราะช้าหรือเร็ว เวลาก็เป็นเครื่องพิสูจน์อยู่แล้ว ช่วงก่อนหน้านี้หนูถ่ายละครด้วย ทำซิงเกิ้ลใหม่ด้วย สองอาทิตย์ที่แล้วไปสอบป.โท ก็อยากทำเพื่อที่บ้านบ้าง ประกาศผลแล้ว หนูสอบติดแล้วนะ (หัวเราะ) ยินดีกับหนูหน่อย

ก่อนหน้าที่แช็ตจะหลุด ถามฝ่ายชายไหมว่าเรื่องราวเป็นยังไง

ได้คุย แต่มันเสียความรู้สึกไปแล้ว ไม่ได้คุยมากมาย ต้องโทษทางฝั่งเราด้วยที่มีการทักกันไป ติดต่อกันไป จะไปโทษฝั่งโน้นฝั่งเดียวไม่ได้ แต่เขาก็ยอมรับผิด ขอโทษเรา ในเมื่อขอโทษเราก็ให้อภัยค่ะ แต่ไม่ได้ติดใจอะไร

ถามว่าความสัมพันธ์ของเราตอนนี้เป็นอย่างไร ก็ห่างกันแล้ว ไม่ได้คบแล้ว จะใช้คำว่าเลิกก็ได้ เพราะสาเหตุนี้หรือเปล่า ขอไม่ตอบแล้วกันค่ะ

แม่ของฝ่ายชายออกมาโพสต์ข้อความแฉเรา

ตอนที่เห็นข่าวหนูตกใจมากๆ เพราะตอนแรกเราคิดว่าคุณพ่อคุณแม่เราจะรู้สึกยังไงที่มีภาพหลุดออกมา ทุกคนคิดว่าเป็นเรา มีคนมาถล่มๆ ว่าเรา อันดับแรกไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่ก่อนเลย เขาก็เข้าใจ รู้ว่าเราเป็นยังไง จากนั้นไปพูดคุยกับทางคุณแม่ของกานต์ ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจผิด พร้อมปรับความเข้าใจกันแล้ว ไม่มีอะไร บางทีเราเป็นวัยรุ่น อาจทำอะไรกระทบจิตใจผู้ใหญ่ไปบ้าง ก็ได้กราบขอโทษคุณแม่ไปแล้ว

แม่เขาโพสต์ทำนองว่าเราไปอยู่กินที่บ้านเขาเลย

คือคนเราคบกัน หนูไม่ได้ปฏิเสธนะว่าไม่เคยไปบ้านเขา เคยไปแต่ก็เหมือนวัยรุ่น ไม่ได้ไปอะไรขนาดนั้นตามที่ทุกคนเขียนกัน แต่ก็มีบ้าง เราทำงานกลับดึกๆ แม่เราก็ไปส่งกานต์ที่บ้านบ้าง เราก็ไปมาหาสู่กัน คนคบกันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะไปมาหาสู่กัน

เรื่องชุดชั้นในที่แม่เขาแฉว่าเราไม่ซักเอง

ไม่จริงค่ะ เป็นเรื่องเข้าใจผิด ไม่ได้ติดใจอะไร อีกอย่างข่าวที่ออกมาเป็นเรื่องเซนซิทีฟของครอบครัวของเขา ถ้ามาถามหนูก็คงตอบไม่ได้ หนูก็เคลียร์ ปรับความเข้าใจในส่วนของฝั่งหนู แต่ถ้าเป็นเรื่องคุณแม่กับคุณลูกก็ต้องไปถามกานต์เอง เพราะมันเป็นเรื่องครอบครัวที่ละเอียดอ่อนมาก อย่ามาถามหนูเลย หนูได้คุยกับคุณแม่ทั่วๆ ไป และมาคุยถึงข่าว คุณแม่เข้าใจผิด ก็ปรับความเข้าใจกัน ไม่มีอะไร

กลายเป็นเราที่เสียหายไปแล้ว

เราเข้าใจไง พอได้คุยกันแล้ว ปรับความเข้าใจ ได้เคลียร์ทุกอย่างก็แฮปปี้ ก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง มีการมาทานข้าวกันปกติ ไม่มีอะไร ไปขอโทษคุณแม่พร้อมกานต์ด้วย ปรับความเข้าใจกันทุกฝ่าย บางทีมีอะไรเข้าใจผิดบ้าง เราก็เด็กทั้งคู่ เราวัยรุ่น ทำอะไรเราก็ผิดพลาด เราก็ได้ขอโทษคุณแม่บางส่วนที่เราผิดจริง แล้วก็บางอย่างที่ไม่ใช่ เราก็เคลียร์กับคุณแม่เขาหมดแล้ว เขาก็โอเคกับเราทุกอย่าง

เคลียร์กับคุณแม่เขาแล้ว ทำไมต้องเลิกกัน

ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วกันว่าเพราะอะไร แต่ตอนนี้ขอห่างก่อนเลยแล้วกัน แต่ถามว่าพูดคุยกันไหม อยู่ค่ายเดียวกันต้องมีอยู่แล้ว เขาก็พยายามทักมาปกติ ถามว่าง้อไหม น่าจะเป็นแบบนั้น แต่ขอห่างก่อนค่ะ ดีที่สุด ผู้ใหญ่ในค่ายก็ได้เรียกคุย อย่างคุณกรณ์ ณรงค์เดช เขาเป็นคนสบายๆ อยู่แล้ว ก็ถามว่าเรื่องราวเป็นมายังไง เราก็เล่าเรื่องราวทุกอย่างให้เขาฟัง เขาก็โอเค ไม่ได้อะไร ก็ให้เราพูดความจริงไป อะไรที่ดีที่เราทำอยู่แล้วก็ให้ทำต่อไป อันไหนเราทำผิดจริงก็ให้ไปขอโทษทางคุณพ่อคุณแม่ เขาแนะนำหนู เขาบอกว่าปรับความเข้าใจคุณพ่อคุณแม่เราด้วย ครอบครัวเราสบายๆ ชิลชิล ไม่มีอะไร

กับแตงโม หากมีโอกาสสามารถร่วมงานกันได้ไหม

หนูชิลอยู่แล้ว ขอให้มีงานเถอะค่ะ (หัวเราะ) หนูอยากมีงานเยอะๆ ร่วมงานกับทุกคนได้อยู่แล้ว ถ้ามีโอกาสคงทักทายสวัสดีอยู่แล้ว เขาเป็นรุ่นพี่ในวงการ เราไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ส่วนพี่ไดสุเกะ สุกี้คาวา ก็อย่างที่พี่เกะบอก เขาเตือนสติหนูเนอะ เรารักกันแบบครอบครัว ไม่มีอะไร ตามนั้นเลย

มีโอกาสกลับไปคืนดีกานต์ไหม

ยังค่ะ ตอนนี้อยู่ในส่วนของตัวเอง ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เรื่องเรียนกับเรื่องงานสำคัญมาก ถามว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกระทบงานไหม ก็ไม่นะ ตอนแรกเครียดมาก คุณพ่อคุณแม่จะคิดยังไง พอได้คุยกัน เขาก็ไม่ได้อะไร รู้ว่าเราเป็นคนยังไง เราก็ชิลชิล ส่วนในไอจีที่มีคนก็เข้าไปคอมเมนต์ด่าถล่มทลาย เราไม่ได้ว่านะ เข้าใจ เราอยู่ตรงนี้ มันไม่มีความเป็นส่วนตัวอยู่แล้ว ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ ตอนนั้นแอบเสียใจบ้าง เขาไม่รู้ความจริง ไม่ได้ฟังอะไรเลย มาด่าๆๆ เราอย่างเดียว

อยากฝากอะไรถึงแฟนคลับ หรือคนที่เข้าใจเราผิดไหม

หนูไม่อยากออกมาพูดแก้ตัวอะไรมาก ให้ดูที่การกระทำต่อจากนี้ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ดีกว่าว่าหนูเป็นคนยังไง เป็นตามที่ทุกคนคิดหรือเปล่า อาจจะไม่ใช่ก็ได้ ไม่มีอะไรค่ะ อยากจะฝากแค่นี้ ไม่ได้อยากพูดอะไรมากค่ะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน