วันเดอร์เฟรม ช็อก วอร์นเนอร์ฯ ส่งหนังสือห้ามใช้เพลง เตรียมสู้ทวงสิทธิ์ ฐานะผู้แต่ง

วันที่ 26 ก.ค. ที่ โมโนทเวนตี้ไนน์ สตูดิโอ ถ.ชัยพฤกษ์ เฟรม-ศุภัคชญา สุขใบเย็น หรือ วันเดอร์เฟรม และ นายกฤษฏ์ หรือ ใหม่ สุขใบเย็น คุณพ่อ ให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าว “GSB GEN CAMPUS STAR 2019” ถึงกรณีที่ บริษัท วอร์นเนอร์ฯ ต้นสังกัด ร่อนหนังสือแจ้งให้ทราบ เรื่องลิขสิทธิ์ในด้านผลงานเพลง และงานแสดงโชว์ หรืองานจ้างปรากฏตัว ภายหลังนักร้องสาวมาขอยุติสัญญา ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนทางกฎหมาย

วันเดอร์เฟรม

มาร่วมงาน

เมื่อวานนี้(25ก.ค.) ทางวอร์นเนอร์ฯ ต้นสังกัด ร่อนหนังสือออกมา เรื่องราวเป็นยังไง?
“พูดตรงๆ ว่าตกใจมาก ต้องเล่าให้ฟังก่อนว่าจริงๆ แล้ววันเดอร์เฟรมกับวอร์นเนอร์ฯ ไม่เคยทำสัญญากัน ไม่เคยมีการเซ็นสัญญา แต่เป็นเพียงข้อตกลงเบื้องต้นเท่านั้นเองก่อนเซ็นสัญญา ซึ่งข้อตกลงนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2560 ผ่านมาเกือบสองปีแล้วค่ะ และข้อตกลงนั้นเป็นกระดาษสองแผ่น”

รายละเอียดในข้อตกลงเป็นอย่างไรบ้าง?
“ตรงนี้บอกไม่ได้เพราะเป็นข้อมูลทางกฎหมาย ต้องขอโทษพี่ๆ ทุกคนด้วย ในข้อตกลงนี้ ทางทนายของเฟรมแจ้งว่าไม่เป็นผลทางกฎหมาย แต่ว่าอันนี้ขอให้เป็นเรื่องของทนายดีกว่าว่าสรุปแล้วเป็นยังไง”

แล้วที่บอกว่าก่อนหน้านี้ได้ส่งทนายไปยกเลิกข้อตกลง นั่นคือยกเลิกเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?
“ใช่ค่ะ เฟรมได้มอบอำนาจให้ทนายส่งหนังสือไปทางวอร์นเนอร์ฯ เพื่อยกเลิกข้อตกลงนั้น ซึ่งทางวอร์นเนอร์ฯ ได้รับเอกสารวันที่ 19 พฤษภาคม 2562 ส่วนว่ารับรู้หรืออนุมัติแล้วหรือยัง อันนี้เป็นเรื่องที่ต้องเข้าไปคุยกันในศาล”

สรุปที่ผ่านมาไม่เคยเป็นศิลปินในสังกัดวอร์นเนอร์ฯ ใช่ไหม?
“ไม่เคยเป็นค่ะ ส่วนในหนังสือที่มีการชี้แจงมาแบบนั้น เราก็งงเหมือนกัน เลยอยากให้เป็นทนายคุยกับทนายมากกว่า ว่าสรุปแล้วมันคืออะไร”

สาเหตุที่อยากขอยุติข้อตกลงกับทางวอร์นเนอร์ฯ คืออะไร?
“มันเป็นปัญหาเรื่องของการทำงานค่ะ ไม่ได้โทษว่ามีใครถูกหรือผิด ต่างฝ่ายเหมือนต่างทำงานกันแล้วไม่คลิกกัน คิดว่าไม่สามารถทำงานต่อได้แล้วเนอะ เราเลยเลือกที่จะเดินออกมา ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหารวมๆ ที่สะสมมานานมากกว่า แต่เราคงพูดไม่ได้ว่ามีปัญหาอะไรบ้าง”

ก่อนหน้านี้ได้มีการคุยกับทางวอร์นเนอร์ฯ ก่อนไหม ว่าจะไปในทิศทางไหนดี?
“เรามีการเจรจากันหลายรอบมา เพื่อที่จะทำให้ดำเนินไปต่อด้วยกันได้”

ในรายละเอียดที่วอร์นเนอร์ฯ ระบุไว้ คือวันเดอร์เฟรมไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้เพลงตามที่แจ้งมา รวมถึงงานจ้างต่างๆ?
อันนี้เป็นเรื่องที่เสียใจมาก เพราะว่าเพลงทุกเพลงเราเป็นคนแต่งเอง แล้วมาบอกว่าเราไม่สามารถใช้เพลงของตัวเองได้ ทั้งที่ไม่มีสัญญากัน อันนี้จริงๆ อยากให้เป็นคำสั่งของศาลมากกว่า ว่าสุดท้ายแล้วลิขสิทธิ์จะเป็นของใคร

ในข้อตกลงได้ระบุไหมว่าลิขสิทธิ์เพลงเป็นของใคร?
“มันเป็นอะไรที่คลุมเครือมากตอนนี้ ต้องเป็นคำตัดสินของศาลเท่านั้นค่ะ”

มีการยื่นฟ้องศาลกันแล้วหรือยัง?
“ตอนนี้ยังไม่มีการยื่นฟ้องค่ะ ถามว่าจะมีการเจรจาประนีประนอมกันได้หรือเปล่า เอาจริงๆ ไม่มีใครอยากขึ้นศาลนะคะ

ไม่พลาดข่าวฮอตแวดวงมายา แค่กดเป็นเพื่อนไลน์ ข่าวสด@บันเทิง ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

มั่นใจในหลักฐานแค่ไหน ว่าเราสามารถจะใช้เพลงเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงได้?
มั่นใจค่ะ อย่างน้อยเลยเรามั่นใจในสิทธิของดนตรีกรรม ในฐานะผู้แต่งเนื้อและทำนองที่เรามีสิทธิใช้ค่ะ

ทุกครั้งที่เราแต่งเพลงเสร็จแล้ว ได้เอาไปให้ทางวอร์นเนอร์ฯ ไหม?
คุณพ่อ – “คือน้องแต่งเสร็จก็จะส่งมาสเตอร์ให้เขา ถามว่าเขาได้จ่ายเงินให้ทางเรามั้ย จะเป็นค่าใช้จ่ายที่ทางเราเบิกเขา ค่าห้องอัด ค่าโปรดิวเซอร์ เรียกว่าเป็นค่าใช้จ่ายเบื้องต้นครับ”

แล้วในสัญญาเท่าที่รับรู้ ระบุว่าลิขสิทธิ์เพลงของเฟรมเป็นของใคร?
“คือไม่มีสัญญา เขาไม่ได้เรียกว่าสัญญา อย่างที่บอกเรียกว่าข้อตกลงเบื้องต้น เพราะฉะนั้นทางกฎหมายไม่เรียกว่าเป็นสัญญา”

สิ่งที่ทางค่ายชี้แจงมา กลายเป็นว่าจากเมื่อวานและหลังจากนี้ เฟรมไม่มีสิทธิที่จะใช้เพลงที่ระบุไว้ในการนำไปร้อง?
“ใช่ค่ะ อันนี้คือสิ่งที่เฟรมจะต้องต่อสู้เหมือนกันว่า เฟรมควรมีสิทธิที่จะต้องใช้เพลงของตัวเอง เพราะเป็นเพลงที่เราเขียนขึ้นมา”

ตอนนี้เราแก้ปัญหายังไง?
“ทุกวันนี้งานยังดำเนินอยู่ปกติค่ะ อันนี้ฝากด้วยนะคะ งานยังดำเนินและยังรับงานปกติค่ะ”

งานเรารับผ่านค่ายหรือรับเอง?
“หลังจากที่ได้ตกลงกับค่ายว่าเราไม่อยู่แล้ว เราก็เริ่มรับเอง คือเรามีการตกลงกันหลายรอบ เราตกลงก่อนวันที่ 19 พ.ค. เราก็บอกแล้วว่าทางเราไม่แฮปปี้แล้ว เพราะฉะนั้นเราเริ่มรับงานเอง”

ทางวอร์นเนอร์ฯ ว่ายังไง เขาโอเคไหมที่เรารับงานเอง?
“แต่ในข้อตกลงเบื้องต้นอย่างที่บอกคือไม่ได้มีการระบุว่าห้ามรับงานเอง”

ทางนั้นตอบกลับมาว่าโอเคอย่างนั้นเหรอ?
“อันนี้ไม่ได้พูดกันเรื่องนี้เลย”

แสดงว่าในการตกลงพูดคุยกันไม่ได้ข้อสรุปในจุดนั้นใช่ไหม?
“ใช่ค่ะ ไม่ได้ข้อสรุป เหมือนเราจะพยายามประนีประนอมกัน สมมุติว่าเราคุยกันยังไม่จบ เราจะรู้สึกว่าเดี๋ยวประนีประนอมไปคุยครั้งหน้า เฟรมพยายามที่สุดแล้วที่อยากจะให้อยู่ด้วยกันได้และดีที่สุด”

เราเชื่อมั่นไหมว่าเราถูกต้องทุกอย่าง?
“เชื่อมั่นค่ะ เฟรมไม่เคยทำร้ายใคร เราเป็นเด็กธรรมดาเองค่ะ จะไปทำร้ายใครได้

กลัวไหมว่าชั้นศาลค่อนข้างใช้เวลา ถ้าสมมติว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายชนะคดี หรือหากเราแพ้และมีการเก็บค่าลิขสิทธิ์ย้อนหลังที่เรานำไปใช้รวมถึงคนที่จ้างเราด้วย เพราะละเมิดพร้อมกัน?
“อย่างเรื่องคนที่จ้างเฟรม เฟรมบอกเลยว่าพร้อมรับผิดชอบเองทั้งหมด เขาจะต้องไม่เดือดร้อนเพราะจ้างเฟรมแน่นอน ตัวเฟรมเองพร้อมรับผิดชอบเอง”

มั่นใจใช่ไหมว่าจะชนะคดีนี้?
“เฟรมไม่ได้มั่นใจว่าเฟรมจะชนะคดีนี้ แต่เฟรมมั่นใจว่าเฟรมไม่ได้ทำอะไรผิด”

ก่อนหน้านี้ไม่คิดว่าวอร์นเนอร์ฯ จะเอาเพลงไปเป็นลิขสิทธิ์ของเขาใช่ไหม?
“ใช่ค่ะ ด้วยความที่ไม่รู้ด้วยแหละ”

คิดไหมว่าถ้าศาลตัดสินแล้วเราอาจจะแพ้ และอาจจะต้องจ่ายลิขสิทธิ์เพลงตัวเอง จะรู้สึกยังไง?
ถ้าเราจะต้องจ่ายเพลงตัวเอง เพลงที่เราแต่งเอง เสียใจค่ะ แล้วก็รู้สึกว่า…แต่เอาจริงๆ ถ้ามันถึงจุดนั้นจริงๆ เราก็พร้อมที่จะเริ่มใหม่ พร้อมแต่งเพลงใหม่ และเริ่มใหม่ ถ้ามันถึงจุดนั้นจริงๆ เรายอมทิ้ง 11 เพลงนั้นไปเลย”

อ่านข่าว : วอร์นเนอร์ฯ ร่อนหนังสือชี้แจง วันเดอร์เฟรม ขอยุติสัญญา

นอยด์ไหม?
“เสียใจมากกว่าค่ะ เราชอบเปรียบเทียบเพลงเหมือนลูก เขาอยู่ในอกเรา แล้ววันนี้มีใครเอาเขาออกไปมันก็เสียใจ”

ทำไมมันถึงประนีประนอมกันไม่ได้?
“ใช่อันนี้ทุกคนก็จะพูดหมดเลยไม่อยากให้มาถึงจุดนี้ รวมทั้งตัวเราเองด้วย ทางวอร์เนอร์เองเขาก็คงไม่อยากให้มาถึงจุดนี้หรอก แต่มันมาถึงจุดที่เราทำงานร่วมกันไม่ได้แล้ว พยายามแก้ไข เราพยายามปรับตัวทุกอย่างแล้วมันยังไม่มีอะไรดีขึ้น เลยเลือกที่จะเดินออกมา”

การที่ขอยุติข้อตกลงครั้งนี้ เพราะเราเลือกที่จะเป็นอิสระเองหรือมีที่อื่นที่จะไป?
“ไม่มีเลยค่ะ ตอนนี้ก็ออกมาดูแลตัวเองคือเป็นศิลปินอิสระ แต่ถ้าอ้างอิงตามเอกสารจริงๆ ก็คือเราเป็นศิลปินอิสระมาตลอด”

แต่คนจะมองว่ามันเป็นเรื่องของผลประโยชน์เรื่องของตัวเงินทำให้ตกลงกันไม่ได้?
“โห…รับงานยังไม่รู้เลยว่าค่าตัวเราเท่าไหร่ เราไม่เคยแคร์เลยว่าได้เงินเท่าไหร่ แค่อยากทำงานที่เรารัก แค่อยากมีความสุข ความสุขเป็นเรื่องสำคัญมากเพราะว่าทุกคนก็คงต้องอยากมีความสุข”

คิดว่าเพราะวันนี้เรามีชื่อเสียงขึ้นมามันทำให้ข้อตกลงมันเปลี่ยนไปหรือเปล่า?
“เราไม่ได้ดังอะไรขนาดนั้น บางคนยังไม่รู้จักเฟรมเลยด้วยซ้ำ รู้จักแต่เพลงเรา เรื่องนี้มันไม่เกี่ยว”

ในเอกสารระบุว่าเราต้องไปแสดงในงานที่เขารับไว้ให้ที่เหลืออยู่อีก 6 งาน?
“อันนี้ขอปรึกษาทนายก่อนดีกว่าว่าอย่างไรถึงจะเหมาะสม”

แล้วส่วนของงานเราที่รับไว้มีเยอะไหม?
“เยอะค่ะ จะเคลียร์ให้หมดทุกงานไม่ต้องห่วงว่าจะเดือดร้อนเพราะจ้างเฟรม เฟรมพร้อมที่จะรับผิดชอบทุกอย่างเอง”

กลัวจะละเมิดตามสัญญาที่เขาร่อนหนังสือเมื่อวานไหม?
มันไม่ได้มีสัญญา ทางทนายบอกว่าร้องได้ และเฟรมยืนยันว่ายังจะร้องเพลงของตัวเอง

อันนี้จะมีการตกลงหรือขึ้นศาลคุยกันเมื่อไหร่?
“ไม่น่าเกินเดือนนี้ ตอนนี้กำลังปรึกษาทนายเพื่อจะทำให้เร็วที่สุด คือไม่อยากปล่อยให้มันเป็นช่วงสุญญากาศนาน มันจะเดือดร้อนในทุกๆ ฝ่าย”

มีปรึกษารุ่นพี่ที่เขาเจอกรณีแบบนี้บ้างไหม?
“ยังเลยค่ะ มีใครแนะนำมั้ยคะ”

มีข่าวว่าเราจะไปอยู่กับค่ายของแกงส้ม(ธนทัต)?
“อ๋อ ไม่เลยค่ะ คือเรารู้จักกับผู้จัดการของพี่แกงส้ม กงคือพี่น้ำ ไม่ได้มีการตกลงว่าจะเป็นผู้จัดการกัน เพียงแต่ว่าพี่น้ำมาช่วยดูให้เฉยๆ เพราะหนูเหมือนนกปีกอ่อนที่ยังบินไม่ได้ ต้องมีคนช่วยพยุงแค่นั้นเอง

หลังจากที่ทางวอร์นเนอร์ฯ ร่อนหนังสือมีผลกระทบต่องานหรือมีการแคนเซิลงานบ้างไหม?
ยังไม่มีแคนเซิล มีแค่โทรมาเยอะมาก เมื่อวานนี้เราก็บอกอย่างที่บอกกับพวกพี่ๆ ว่าเราพร้อมที่จะรับผิดชอบทุกอย่างถ้าเกิดอะไรขึ้น”

พรุ่งนี้ (27 ก.ค.) เห็นว่าจะมีการแถลงการณ์ออกมา?
“ใช่ค่ะ จะมีการแถลงการณ์จากทนาย จะเป็นข้อมูลทางกฎหมาย เพราะตัวเราเองก็ไม่ได้รู้มาก กลัวพูดไปแล้วมันจะเละไปกันใหญ่ ก็จะมีการแถลงในเฟซบุ๊กและไอจีของเรา ซึ่งเป็นหนังสือออกมา”

ฝากอะไรถึงแฟนๆ?
“ต้องขอบคุณพวกพี่ๆ ที่มาวันนี้ เราเป็นเพียงเด็กธรรมดาที่ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าพวกพี่ๆ ไม่มาเราจะไปพูดที่ไหน รวมถึงฝากถึงแฟนเพลงทุกคนที่ให้กำลังใจเยอะมาก ขอบคุณครอบครัว ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ด้วย แล้วขอฝากผลงาน เย็นนี้ปล่อยทีเซอร์เพลงใหม่และจะปล่อยเพลงใหม่ 2 สิงหาคมนี้ เข้าไปที่ YouTube wonderframe ซึ่งเพลงใหม่นี้เป็นเพลงของเราเอง 100% ค่ะ”

ขอบคุณรูปจากไอจี : wonderframe

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน