โต้ง ทูพี ช่วย ปราง หาคนใช้รูป อ้างขายบริการที่เกาหลี กลัวเจอพี่ใหญ่
ทำเอานางเอกสาวหัวร้อนกันเลยทีเดี่ยว สำหรับ ปราง กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล ที่ถูกนำรูปตัวเองไปทำใบปลิวขายบริการที่เกาหลี เตรียมเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ล่าสุดได้เจอ โต้ง ทูพี หรือ พิทวัส พฤกษกิจ หวานใจของสาวปราง ในงาน GQ MEN OF THE YEAR 2019 ที่ เกษร วิลเลจ จึงได้ถามถึงความคืบหน้าคดีดังกล่าว พร้อมถามถึงเรื่องที่รุ่นพี่คนสนิท ขันเงิน และเวย์ ผิดใจกัน
พิทวัส พฤกษกิจ
ได้ยินว่าปรางโดนเอารูปไปแอบอ้างขายบริการที่เกาหลี
“ผมก็บอกเขาว่าอย่าไปคิดมาก เพราะว่าเราขับรถผ่าน เจอป้ายเป็นรูปหน้าฝรั่ง หน้าญี่ปุ่น บ้านเราก็ทำเหมือนกัน แต่ว่าเดี๋ยวเราก็จะหาวิธีแก้ ทางบริษัทผมกับบริษัทปราง ตอนนี้ก็กำลังติดต่อคนที่เกาหลีให้ช่วยเหลืออยู่ แต่ทีนี้เรื่องที่เป็นปัญหาเพราะว่าเบอร์ที่เขาให้ไว้ มันไม่ได้เป็นเบอร์สถานที่ มันเป็นคอลเซ็นเตอร์ เพราะฉะนั้นมันไม่มีที่อยู่จริงๆ เลยกลัวว่าหลังจากนี้ ถ้าเราได้ไปทำงานที่เกาหลี หรือไปเที่ยว เดี๋ยวมันจะมีเอฟเฟคเกิดขึ้น แต่ก็ไม่อยากให้เขาคิดมากครับ”
ตัวปรางเอง เขาเครียดไหม
“เขาก็รู้สึกแปลกๆ เป็นเรา เราก็รู้สึกว่าทำไมทำแบบนี้ แล้วก็รู้สึกว่าโดนละเมิดสิทธิส่วนบุคคล”
ทางบริษัทเราช่วยจัดการด้วยเหรอ
“ใช่ครับ เหมือนเราเป็นบริษัทเพลง จะรู้จักศิลปินที่โน้นบ้าง รู้จักกับผู้จัดการของศิลปินที่เกาหลีบ้าง พยายามติดต่อ แต่มันก็เป็นเรื่องยากพอสมควรครับ หลายฝ่ายก็ช่วยกัน ทางฝ่ายของปรางก็ช่วยกัน”
ปราง กัญญ์ณรัณ
ตอนนี้เริ่มดำเนินการในการสืบกับทางฝั่งเกาหลีแล้ว
“ใช่ครับ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นทางฝั่งของปรางมากกว่า ผมช่วยซัพพอร์ตเท่าที่ช่วยได้ครับ ตอนนี้พอติดต่อไป ทางเกาหลีเขาบอกว่ามันเป็นคอลเซ็นเตอร์ มันเหมือนในอากาศมาก ไม่รู้จะไปที่ไหน ไม่รู้จะทำยังไง”
กลัวว่ามันจะเคลียร์ไม่สำเร็จไหม
“นิดหนึ่งครับ แต่ก็ต้องพยายามเต็มที่ให้ดีที่สุด คือเราอยากให้เอารูปลงครับ”
ต้องไปติดต่อสถานทูตให้เขาช่วยอีกทางไหม
“ตอนนี้ติดต่อไปทางผู้ใหญ่ที่เขาดูแลในเมืองไทยอยู่ครับ แล้วคนที่เกาหลีก็ได้กลับมาว่าเป็นคอลเซ็นเตอร์ ต้องลงลึกลงไป ต้องเป็นเรื่องใหญ่มากขึ้นครับ แต่เดี๋ยวต้องจัดการให้ดีที่สุด”
ตอนที่เราเห็นรูปแฟนเราไปอยู่ตรงนั้น เรารู้สึกอย่างไรบ้าง
“ผมก็ยกตัวอย่างให้เขาดู อย่างที่บอกไปตอนแรก เขาก็ขำๆครับ แต่ว่าจริงๆแล้ว ไม่มีใครพอใจกับเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะเขาก็รู้สึกแบบว่า โห เล่นแรงจัง”
เรากลัวว่ามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ไหม
“จริงๆก็แอบกลัวอยู่ เหมือนในหนังต่างประเทศ ที่คุ้ยไปเรื่อยๆ แล้วมันจะไปเล่นกับรุ่นใหญ่ฝั่งโน้นอยู่เหมือนกัน”
มีแผนจะไปเกาหลีเร็วๆนี้ไหม
“ยังเลยครับ”
ภาพต้นเรื่อง
ถามถึงเรื่องของเวย์กับขันเงิน เราในฐานะที่สนิทกับทั้งสองคน รู้สึกอย่างไรบ้าง
“รู้สึกว่าก็เหมือนที่พี่เวย์พูดนะครับ เป็นปัญหาในครอบครัว เป็นเรื่องปกติ แล้วผมตอนนี้ มันกำลังไปในทางที่ดีมาก ทุกคนก็รู้สึกว่ายิ้มออก แล้วก็เห็นทางออกที่มันจะดี แล้วผมเชื่อว่ามันจะดีเหมือนที่เคยเป็นมา”
ที่เกิดเรื่องมา เราได้เจอใครมากกว่ากัน
“ผมเจอกันเช้าเย็นๆเลยครับ เช้าเจอที่เวย์ เย็นเจอที่ขัน เราก็พยายามเจอกับทั้งคู่ให้เยอะที่สุด”
เราจะช่วยเป็นกาวใจให้พี่ๆเขาไหม
“จริงๆเหมือนเราเป็นน้องเล็กในแฟมิลี่ครับ เรารักกันมาก ผมเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา ผมเชื่อว่าหลังจากนี้ มันจะดีกว่าที่เคยเป็นมาด้วยซ้ำ ปัญหาเกิดมาให้แก้ เพื่อให้เข้าใจกันมากขึ้น แล้วครอบครัวจะแข็งแรงขึ้นครับ”
แชะกับพี่ขัน
ช่วงที่ผ่านมาพี่ๆทั้งสองคน เขาดาวน์มากไหม
“จริงๆก็ดาวน์นะครับ มันเกิดขึ้นจากความผิดพลาด ไม่ใครอยากให้มันเกิดขึ้น มันก็เลยดาวน์ แล้วอีกคนหนึ่งก็รู้สึกว่า เอ๊ะ ฉันก็ทำพลาดโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ มันเกิดขึ้นจากความผิดพลาดที่ไม่มีใครตั้งใจ มันก็เลยรู้สึกแย่ครับ เพราะว่าถ้าเกิดตั้งใจทำให้มันแย่ ก็อาจจะรู้สึกอีกอารมณ์หนึ่ง”
เขาได้มีโอกาสคุยกันบางไหม เพราะขันโพสต์ในอินสตาแกรมอย่างเดียวเลย
“จริงๆเขาก็คุยกันรอบนอกครับ”
ในฐานะคนกลาง เราคิดว่าเขาจะมีโอกาสกลับมารวมกันอีกไหม
“ผมเห็นหลายๆครอบครัว เวลาทะเลาะกัน เขาก็กลับมาดีกันนะ(ยิ้ม) ถามว่าเราลำบากใจมั้ย อาจจะไม่ได้ขนาดนั้นครับ แต่เรียกว่าแอบลุ้น แอบคอยเชียร์มากกว่า เพราะว่าผมมองว่ามันน่าจะเป็นเรื่องปกติของหลายๆคน แม้กระทั่งเพื่อนด้วยกันเอง แต่อันนี้ผมว่าเราอยู่ด้วยกันมา อย่างผมอยู่กันมา 10 ปีแล้ว พวกพี่ๆเขาก็เข้า 20 ปีแล้ว ผมว่ามันน่าจะเป็นแค่บททดสอบหนึ่งของครอบครัว ของกาลเวลาที่เดินทางมา นี่ก็น่าจะเป็นพาร์ทหนึ่งของการเดินทาง”
คำว่าวงแตก มันทำให้เราใจหายไหม
“ผมว่าฟังแล้วมันก็ดู…รอฟังอัลบั้มใหม่(หัวเราะ)”
เรายังมีโอกาสร่วมงานกับพี่ๆทั้งสองคนอีกไหม
“เดี๋ยวมีเพลงใหม่ครับ เพลงที่ผมออกมาล่าสุด ก็ฟีทเจอริ่งกับพี่ขันไป แล้วเพลงใหม่ที่กำลังจะออกปีหน้า ก็มีพี่เวย์อยู่ในอัลบั้มด้วย”
คิดว่าอะไรจะทำให้เขากลับมารักกันได้เหมือนเดิม
“เขารักกันอยู่แล้วครับ แค่ว่าต้องเคลียร์สิ่งที่มันเป็นจุดผิดพลาด ว่ามันพลาดตรงไหน บริษัทมีข้อตรงไหนที่เรามองข้ามไป ผมว่าแค่เราปรับตรงนั้น จริงๆแล้วมันคุยกันหมดแล้วครับ แค่เราต้องเซ็ตระบบให้มันดีขึ้น ทุกอย่างมันจะได้โฟลว์”
ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับตัวเราใช่ไหม
“ไม่ได้มากขนาดนั้นครับ แค่ตอนนี้ผมมีอะไรเดี๋ยวผมอาสา เดี๋ยวเซาท์ไซด์ช่วยด้วย แล้วเป็นบริษัทที่ใหญ่ขึ้น ตอนนี้เราก็เป็นแฟมิลี่ที่ใหญ่ขึ้นครับ”
เราคิดว่าเขาน่าจะเคลียร์กันได้ใช่ไหม
“ผมว่าเป็นอย่างนั้นแน่นอน”
พี่ๆเขาเจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เราทราบไหม
“น่าจะสักพักหนึ่งครับ คอนเสิร์ตอะไรสักอันหนึ่ง จริงๆก็จำไม่ได้เป๊ะๆ เหมือนกัน”
ตอนนี้ก็ลุ้นข่าวดีใช่ไหม
“ครับผม(ยิ้ม)”
ขอบคุณรูปจากไอจี : ladiiprang, twopee
