‘พาย’ขอบคุณทุกโอกาสมุ่งพัฒนาตัว-โชคดีทำสิ่งที่รัก : อาทิตย์ใส

‘พาย’ขอบคุณทุกโอกาส – โดดเด่นเป็นที่จับตา หลังวาดลวดลายบท ‘หนึ่งธิดา’ สาวน้อยติ่งเกาหลี ในละคร “เขาวานให้หนูเป็นสายลับ” ทางช่อง 3 ประกบคู่นักแสดงหนุ่ม ‘ปาริธ’ ปาริธ ทิมทอง ที่รับบท ‘เผด็จ’ นายตำรวจหนุ่มตงฉินที่รักความถูกต้องยิ่งกว่าชีวิต สำหรับนักแสดงสาว ‘พาย’ รินรดา แก้วบัวสาย จนอดไม่ได้ที่จะล้วงลึกเรื่องราวของดาราสาวมาฝากแฟนๆ

◆ บทใน “เขาวานให้หนูเป็นสายลับ” ที่ได้รับเป็นยังไงบ้าง?

พาย – “ในเรื่องรับบท หนึ่งธิดา กลับจากเกาหลี เลยมีคาแร็กเตอร์ความเป็นเกาหลี เรื่องนี้เป็นคอมเมดี้เรื่องแรกค่อนข้างท้าทาย เพราะที่ผ่านมาเล่นดราม่าตลอด ต้องทำการบ้านเยอะ ด้วยเป็นคอมเมดี้ ไม่เคยเจอมาก่อน แล้วเป็นประเภทละครที่ยากที่สุดก็ว่าได้”

◆ จากบทที่แสดงมาชอบบทแบบไหน?

พาย – “จริงๆ คอมเมดี้เป็นสิ่งที่พายอยากเล่นที่สุดตั้งแต่เริ่มเล่นละครมาเลย เพราะรู้สึกท้าทาย แล้วก็ยากมาก จริงๆ ก็ได้หมด แต่ถ้าเกิดเราเป็นคนดีร้อยเปอร์เซ็นต์ หนูรู้สึกว่ามันจะไม่มีอะไรท้าทายในการเล่นสักเท่าไหร่ ถ้าไม่มีอะไรลึกนะคะ จริงๆ ตัวละครมันมีมุมร้าย มุมดีหมดนั่นแหละ แต่แค่เราจะเล่นยังไงให้ดูมีไดนามิก แบบไม่แบนเกินไป”

◆ แล้วเป็นยังไงบ้าง ที่ได้มาร่วมแสดงกับนักแสดงรุ่นใหญ่ รวมถึง เก้า–สุภัสสรา และ เกรท–วรินทร?

พาย – “ตื่นเต้นค่ะ จริงๆ ตื่นเต้นทุกครั้งที่ไปกองละคร เพราะเราได้เจอรุ่นพี่ที่บางคนคืออาจารย์เลย เก่งมาก แล้วเป็นรุ่นใหญ่มาก ก็มีโอกาสได้ทำงานกับรุ่นพี่หลายๆ คน หลายเจเนอเรชั่น รู้สึกดี ได้รู้อะไรจากพี่ๆ เยอะมาก ได้เรียนรู้งานจากการลงสนามจริง พี่ๆ ทุกคนน่ารักมาก ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ไม่เกร็ง”

◆ ประทับใจอะไรไหมระหว่างถ่ายทำ?

พาย – “จริงๆ ประทับใจหลายอย่าง แต่ประทับใจที่ได้เล่นละครร่วมกับน้องปาริธ ที่ได้เล่นคู่กัน คือหนูใหม่อยู่แล้ว แล้วน้องใหม่กว่าหนูอีก เลยมีความรู้สึกว่าเราจะต้องจับมือกันแล้วพากันไปให้สุดให้ได้ ต่างคนต่างใหม่ก็คอยช่วยเหลือกัน แล้วน้องน่ารักมาก เวลาเล่นกับน้องเรารู้สึกสนุก น้องทำให้คาแร็กเตอร์ของหนึ่งธิดาชัดมากขึ้น เพราะหนึ่งธิดาเขาจะสุดทางว่าเขาสดใสมาก แต่เผด็จจะนิ่งๆ เหมือนเอาคนคนละขั้วมาเจอกัน มันเลยทำให้อีกคนหนึ่งชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิมอีก”

◆ มีแฟนคลับอยากให้เราจิ้นกับปาริธ?

พาย – “ก็น่าจะมีบ้าง เห็นผ่านๆ ตาในอินสตาแกรม ก็ดีใจที่คนชอบเผด็จกับหนึ่งธิดาให้คู่กัน แล้วน้องเขาน่ารักค่ะ”

◆ เลิฟซีนหนักขนาดไหน?

พาย – “มีเยอะช่วงหลัง พอเริ่มคลิกกันก็จะมีความน่ารักแบบไม่ได้ตั้งใจระหว่างเผด็จกับหนึ่งธิดา น่ารักมากและใกล้ชิดกันมาก ก่อนเล่นน้องบอกขอโทษ แต่พายบอกไม่เป็นไร มองเป็นการแสดง ถ้าให้เทียบเลิฟซีนน่าจะประมาณตอนที่เล่นเรื่อง ภูผา จะแตกต่างตรงที่เรื่องนี้จะร่วมสมัยหน่อย มีความน่ารักที่คนดูอาจจะรู้สึกจิกหมอน ส่วนเรื่องภูผาจะน่ารักแบบสมัยก่อน จิกหมอนเหมือนกัน แต่คนละแบบ”

◆ หลายคนเห็นนามสกุล “แก้วบัวสาย” คิดว่าเป็นนักร้องหรือเปล่า?

พาย – “คนชอบทักว่านามสกุล แก้วบัวสาย ร้องเพลงได้มั้ย เราก็บอกไม่ได้เท่าคุณอา (นันทิดา แก้วบัวสาย) ก็ให้เป็นหน้าที่ของเขาดีกว่า เรามาทางด้านการแสดง ถามว่าคุณอาสอนร้องเพลงมั้ย ไม่ค่ะ เวลาเจอกันก็ปกติ จริงๆ เราร้องเพลง เต้น เล่นเปียโนได้แต่ไม่เก่งมาก จริงๆ ชอบทั้งร้องเพลงและการแสดง แต่อาจจะร้องเพลงไม่เก่ง”

◆ อัพเดตผลงานหน่อย?

พาย – “ตอนนี้มี เขาวานให้หนูเป็นสายลับ ช่อง 3 แล้วก็ ทุ่งเสน่หา ออนแอร์ต้นปีหน้า เป็นบทบาทหนึ่งที่ไม่เคยเล่น จะร้ายหน่อยๆ เปลี่ยนลุกส์เราไปเลย เปิดเรื่องมาจะนิ่งๆ ทุกคนอาจจะรู้สึกว่าพายเล่นแบบเดิมอีกแล้ว แต่ถ้าดูไปเรื่อยๆ จะเริ่มเห็นความลึก ความมีชั้นเชิงตัวละคร เป็นอีกเรื่องที่ท้าทายและยากมาก แต่โชคดีที่ได้พี่ๆ นักแสดงช่วย ปีหน้าจะมีผลงานให้ติดตาม เป็นอีกผลงานหนึ่งที่อาจจะได้เห็นพายแสดงฝีมือแบบเต็มๆ ส่วนงานอื่นนอกเหนือจากละครตอนนี้ยังไม่มีค่ะ”

◆ จาก “ภูผา” “กรงกรรม” จนถึงเรื่องนี้ “เขาวานให้หนูเป็นสายลับ” เรียกว่ากระแสดีพอสมควร รู้สึกยังไงที่ได้มายืนจุดนี้?

พาย – “จุดนี้ยังน้อยมากๆ ค่ะ เราไม่ได้ตั้งเป้า แค่รู้สึกอยากทำตรงนี้ไปเรื่อยๆ ให้เรามีความสุข พอซัพพอร์ตครอบครัว ซัพพอร์ตตัวเองได้ หนูเล่นละคร หนูรักละคร รู้สึกโชคดีที่ได้ทำในสิ่งที่รัก ได้เจอเพื่อนร่วมงานเยอะมาก ทุกคนน่ารักมาก แล้วเป็นงานที่ทำให้เราได้มีโอกาสในชีวิตเยอะมาก ขอบคุณทุกอย่างที่ทำให้เราตัดสินใจเข้ามาเล่นละคร ขอบคุณช่อง 3 ที่เลือกหนูเข้ามา ดีใจ เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้มีอะไรเตะตาหรือพิเศษขนาดนั้น แต่พอเข้ามาแล้วช่องให้โอกาสเล่นละครหลายเรื่องมาก ขอบคุณมากๆ ที่มีโอกาสให้ได้แสดงความสามารถ มีโอกาสให้ได้เรียนรู้งาน พายจะพัฒนาตัวเองยิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ”

◆ วางแผนชีวิตข้างหน้าอีก 10 ปีอย่างไร?

พาย – “อยากเก็บเงินได้สักก้อนนึง มีบ้านเป็นของตัวเอง มีเงินดูแลคุณพ่อคุณแม่ แค่นั้นโอเคแล้ว อยากมีเงินให้มั่นคง ดูแลครอบครัว ไม่ได้คาดหวังเรื่องงานในวงการบันเทิงขนาดนั้น อยากปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติว่าเราจะมีโอกาสไปถึงจุดนั้นหรือเปล่า ถ้ามีโอกาสก็อยากมีธุรกิจส่วนตัว แต่ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร หรืออยากพัฒนาต่อ ตอนนี้อยากทำงานในวงการไปเรื่อยๆ ก่อน ถ้าเกิดมีเวลาทำได้ถึงสิบปีจริงๆ หนูก็รู้สึกดี อยากทำตรงนี้ไปเรื่อยๆ เพราะเราแฮปปี้ค่ะ”

ได้ใช้วิชาที่เรียน

หลังเรียนจบคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แม้กิจกรรมที่ทำจะเป็นงานเบื้องหลัง แต่พอได้มาอยู่เบื้องหน้า สาว ‘พาย–รินรดา’ ก็ได้นำวิชาความรู้ที่เรียนมาใช้กับการแสดงได้ด้วย โดยเจ้าตัวเล่าว่า “หนูจบเขียนบทมา ตอนแรกเรียนเพราะชอบ เรียนแล้วสนุก แต่พอจบมาแล้วก็ดีใจที่พอมาทำงานเบื้องหน้าเราได้นำความรู้การเขียนบทมาทำความเข้าใจบทละครที่เราต้องเล่น หนูชอบทั้งคู่เลย ถ้าให้เลือกทำ น่าจะเลือกไม่ได้ เพราะเราเรียนมาเราก็ชอบ”

พอมีโอกาสเป็นนักแสดง เคยคุยกับผู้กำกับฯ หรือนักประพันธ์ แชร์ประสบการณ์บ้างไหม “ไม่เคยค่ะ แต่เวลาได้เห็นมุมมอง ผู้กำกับฯ ได้เห็นมุมมองคนเขียนบท มันก็เพิ่มความรู้ให้เรา จริงๆ เราจบละครเวที ซึ่งในทีวีอาจจะมีความแตกต่างกันนิดนึง แต่พอได้เห็นการทำงานของคนในวงการ ก็ให้อะไรกับเราเยอะค่ะ”

มีแพลนเรียนต่อไหม พายกล่าวว่า “จริงๆ อยากเรียนเหมือนกัน แต่ยังไม่รู้ว่าตัวเองอยากเรียนอะไร จริงๆ ยังติดงานละครด้วย อาจจะยังแบ่งเวลาไม่ได้ เลยอยากทุ่มเทกับตรงนี้ก่อน หนูรู้สึกว่าเวลาเรียนมันไม่มีเวลาที่สายไป”

เรื่องภาษาที่ชอบ จะทิ้งไหม “ไม่ทิ้ง เสียดาย อุตส่าห์เข้าใจมันได้ถึงขนาดนี้แล้ว ก็อยากจะไปต่อ ตอนนี้หนูได้ 3 ภาษา ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ แล้วก็เกาหลีแบบว่าไม่ตายอ่ะ สั่งข้าวได้ จองโรงแรมได้ ซื้อของได้ ไปไหนไม่หลง จริงๆ ก็อยากเรียนต่อนะ แต่ยังหาที่เรียนถูกใจไม่ได้ จริงๆ อยากเรียนจนแบบพูดได้ไปเลย แต่ยังไม่มีโอกาสค่ะ หนูรู้สึกว่าภาษาในยุคนี้เป็นอะไรที่มีประโยชน์ สำคัญ เรารู้สึกสนุกค่ะ”

มีความคิดอยากเป็นแอร์โฮสเตสด้วยไหม “เมื่อก่อนอยาก เพราะพ่อแม่เป็น มันเหมือนเราได้เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่เป็นอย่างนั้น ก็รู้สึกว่าถ้าได้เป็นก็ดี แต่ไม่น่าทันแล้ว เพราะอายุเกินแล้วค่ะ” พายทิ้งท้าย

หัวใจยังว่าง–พิจารณาหนุ่มที่แววตา

คุยเรื่องงานและชีวิตส่วนตัวไปพอหอมปากหอมคอ เลยขออัพเดตเรื่องหัวใจกันบ้าง โดยสาว ‘พาย–รินรดา’ เปิดใจว่า “ตอนนี้เรียกว่าหัวใจยังว่างอยู่ค่ะ ไม่มีเข้ามาเลย เพราะหนูเริ่มทำงานตั้งแต่ยังเรียนอยู่ ประมาณปี 3 มันก็เลยกลายเป็นว่าเวลาทำงานต่อเนื่องมาจนเรียนจบ ชีวิตก็เลยมีแต่เพื่อน เวลาจะออกไปเจอใครก็เจอแต่กลุ่มเพื่อนเดิมๆ ไม่มีเวลาไปเจอใครเท่าไหร่”

ช่วงก่อนหน้านี้มีคนจิ้นเรากับ ‘เจมส์ มาร์’ ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง “รู้จักพี่เจมส์ตั้งแต่ละคร ‘ชาติเสือพันธุ์มังกร’ แล้ว ตอนนั้นเราเล่นเป็นน้องสาวพี่เจมส์ค่ะ ก็รู้จักกัน แล้วหนูก็ได้มาทำงานกับ น้องปาริธด้วย ก็เลยกลายเป็นว่าเหมือนเป็นเด็กบ้านเดียวกัน คือพี่เจมส์และน้องปาริธมีผู้จัดการคนเดียวกันคือพี่อ๋า ซึ่งหนูก็คุยกับพี่อ๋าด้วยว่า ตอนนั้นหนูไม่มีคนดูแล แล้วคุณแม่ดูไม่ไหว ก็ไม่อยากกวนท่าน เลยปรึกษาพี่อ๋า จนพี่อ๋าบอกจะดูให้ เพราะยังไงก็ต้องเจอน้องปาริธด้วย อย่างที่บอกที่เป็นข่าวเพราะเป็นเด็กผู้จัดการบ้านเดียวกันค่ะ”

ตอนที่เรามีข่าว เราเริ่มวางแผนรับมือกับกระแสโซเชี่ยลอย่างไร พายตอบว่า “ไม่ได้กลัวนะคะ จริงๆ ตอนแรกที่เป็นข่าว ค่อนข้างจะไปในทางตกใจ งง แล้วก็กังวลมากกว่า พี่เจมส์จะเป็นยังไง แล้วคุณแม่ก็ตกใจ พี่ชายก็งง แต่เราก็รู้ว่ามันไม่ได้มีอะไรไปทางนั้น ไม่ได้คิดว่าต้องรับมืออะไรนะคะ เพราะเรารู้อยู่ว่ามันคืออะไร พี่เขาเป็นคนน่ารักค่ะ รู้จักกันมานานมากแล้ว พี่เขาใจดี คอยสอนเราในกองละคร”

ที่หัวใจยังว่าง ไม่เกี่ยวกับแม่ดุ หรือพี่ชายหวงใช่ไหม ดาราสาวหัวเราะ “คุณแม่ไม่ได้ดุ พี่ก็ไม่ได้หวงด้วยค่ะ แต่แค่ว่าเราไม่ได้มีเวลาไปเจอใครใหม่ๆ ถามว่าพี่ชายไม่เชียร์ให้เรามีแฟนบ้างเหรอ เขาก็แล้วแต่เราค่ะ ไม่ได้แบบว่าเมื่อไหร่จะมีแฟน คือมีเมื่อไหร่ก็มี เมื่อนั้น”

มีหมายปองในใจบ้างไหม น้องหนูส่ายหน้าทันควัน “ไม่มีอ่ะ ไม่ได้ชอบใครเลย (หัวเราะ) ไม่มีใครมาชอบด้วย ส่วนสเป๊กก็ไม่มี แต่หนูว่าถ้าเราเจอใครแล้วชอบ มันก็คือชอบเลย”

สิ่งแรกที่มองผู้ชาย เรามองจากตรงไหน “หนูมองตานะ ถามว่าตาแบบไหน ตาสองชั้น ตาตี๋แบบหนุ่มตี่ หรือหนุ่มแว่น คือยังไงก็ได้ค่ะ แต่หนูมองตานี่หมายถึงมองแววตามากกว่า วิธีที่เขามองคนอื่น วิธีที่เขามองเราเป็นยังไง ชอบคนที่มองแล้วตาเป็นประกาย”

ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงเรา “ก็ไม่ได้ปิดนะ แต่แค่ไม่ได้มีโอกาสไปเจอใครมากกว่า ซึ่งจะเป็นคนในวงการมั้ย ไม่จำเป็นค่ะ ใครก็ได้ ไม่ได้จำกัดขนาดนั้น”

ชื่อเล่น – พาย

ชื่อ/นามสกุล – รินรดา แก้วบัวสาย

วัน/เดือน/ปีเกิด – 8 เมษายน พ.ศ. 2538

บิดา/มารดา – สราวุธ แก้วบัวสาย/ต้นแก้ว จินายน

พี่น้อง – มีพี่ชาย 1 คน เค้ก–นัทธวัชร์

การศึกษา – ระดับอุดมศึกษาจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สุชาวดี อภิสัมภินวงค์