ฐิสาอยู่วงการร่วม 10 ปี พัฒนาตัวอยากเป็นตัวอย่างที่ดี

คอลัมน์ อาทิตย์ใส

โดย…วีรนุช จันทำ

ฐิสาอยู่วงการร่วม 10 ปีเปิดศักราชใหม่ ปีชวด 2020 ด้วยหนูคนสวยฐิสาวริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร จากละครยอดรักนักรบทางช่อง 7 ที่กลับมาโคจรเจอพระเอกเวียร์ศุกลวัฒน์ คณารศ อีกครั้ง หลังจับคู่กันดังในละครสัมปทานหัวใจมาแล้วเมื่อคราวก่อน

คาแร็กเตอร์ในยอดรักนักรบเป็นอย่างไร?

ฐิสา – “เป็นคุณหมอชลดา มีนิสัยตรงไปตรงมา แต่จะมีความตลกนิดนึง โก๊ะหน่อยๆ ด้วยเป็นหมอทหารก็จะมีความแข็งแกร่ง มีต่อปากต่อคำ ไม่ได้เรียบร้อยมาก เชื่อมั่นในตัวเอง ความใกล้เคียงตัวฐิสา ก็ใกล้ตรงที่แพทย์หญิงชลดาจะมีความตลกๆ โก๊ะๆ หน่อย แต่ในเรื่องตัวละครนี้จะไม่ได้ตลกแบบเล่นมุขเพื่อจะตลก แต่จะเป็นไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

การปรับลุกส์ผมทรงหน้าม้า เป็นความตั้งใจของเราเลยไหม?

ฐิสา – “เป็นความตั้งใจเรากับทีมงาน อยากหาความแปลกใหม่และอยากเปลี่ยนลุกส์ เพราะละครที่เล่นมาจะอยู่กับผมทรงเดิมคล้ายกันตลอด ไม่ค่อยได้ทำผมทรงใหม่ๆ พอมาเรื่องนี้ด้วยเป็นละครคอมเมดี้ แล้วค่อนข้างมีความการ์ตูนๆ ทั้งเรื่องแอ๊กติ้งของนักแสดงเองและด้วยตัวเนื้อเรื่องเองจะค่อนข้างโอเวอร์จากความเป็นจริงนิดนึง รู้สึกว่ามันสามารถเปลี่ยนหรือเล่นพลิกแพลงได้ เลยลองเปลี่ยนให้มีอะไรแปลกใหม่และแตกต่างจากเดิม คนจะติดภาพเราเป็นคุณนายกับนายหัวจากที่เคยเล่นกับพี่เวียร์เรื่องที่แล้ว พอมาเรื่องนี้คาแร็กเตอร์ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมเลย ก็อยากหาอะไรใหม่ๆ ดูค่ะ พอเปลี่ยนแล้วก็ชอบนะ แปลกใหม่ดี เข้ากับละครดี ด้วยโทนละครมีความเป็นการ์ตูนๆ ซึ่งคนดูจะมีทั้งชอบและไม่ชอบ เราคิดมาแล้วว่าอยากเปลี่ยน อยากให้ลองเปิดใจดูอะไรใหม่ๆ ค่ะ

ปกติเล่นดราม่า พอเป็นคอมเมดี้เป็นอย่างไรบ้าง?

ฐิสา – “เอาจริงๆ ชอบนะ สนุกไปอีกแบบ เพราะที่ผ่านมาเล่นแนวดราม่าติดกันตลอด พอเล่นเรื่องนี้ก็ยากอีกแบบ ไม่ค่อยได้เล่นด้วย พอเรื่องนี้เป็นคอมเมดี้จริงๆ ทำให้เราต้องปรับอะไรหลายๆ อย่างหมดเลย ก็มีหลุดขำบ้าง อย่างกับพี่เวียร์เคยทำงานด้วยกัน จะรู้ว่าบางทีเวลาเขาซ้อมกับเวลาเขาเล่นจริงจะเล่นไม่เหมือนกัน พอเล่นจริงปุ๊บเขาจะมีเพิ่มรายละเอียดเข้ามาเล่นอะไรที่ไม่เหมือนตอนซ้อม ยิ่งพอเป็นละครคอมเมดี้ เวลาซ้อมอาจจะเบาๆ แต่พอเล่นจริง โอ้โห เล่นอะไรมาก็ไม่รู้ (หัวเราะ) ต้องตั้งสติ คือคาแร็กเตอร์หมอชลดาอาจมีโก๊ะๆ บ้าง ขำๆ บ้าง แต่ด้วยเป็นหมอทหาร ก็คุยกับพี่อ๊อด(ธีระศักดิ์) ผู้กำกับฯว่าเราเล่นได้ประมาณหนึ่ง ไม่งั้นจะดูไม่น่าเชื่อถือ ตัวละครอื่นอาจจะเล่นได้ แต่ตัวละครของเราจะคุมโทนไว้ว่าจะเล่นประมาณไหน หลายๆ ฉากที่คนอื่นเล่นตลกมาแต่เราขำไม่ได้ ในใจอยากขำมาก เราเป็นคนเส้นตื้นค่ะ บางทีรู้ว่าจะหลุดขำก็ต้องกัดกรามไว้เลย ขำไม่ได้ ไม่งั้นไม่ผ่าน

กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งคู่จิ้นเวียร์ฐิสาต่างจากไปเรื่องที่แล้วเลย?

ฐิสา – “ต่างไปเลยค่ะ แต่ก็จะง่ายในเรื่องการไว้ใจในการทำงาน มีความสบายใจที่จะเล่นแต่ละซีน ด้วยละครทุกอย่างต่างกันหมดก็มีการปรับจูนกันใหม่ในเรื่องจังหวะต่างๆ แต่โดยรวมแล้วการทำงานโอเค สบายใจ ทำงานรู้จังหวะกันมากขึ้น ซึ่งฟีดแบ็กจากแฟนละคร ทุกคนก็ชอบนะคะ เขารู้สึกแปลกใจในสิ่งที่เราเล่น มันแปลกใหม่สำหรับเขาดี และส่วนมากทุกคนจะไม่ค่อยชินกับผมหน้าม้าด้วยค่ะ

นอกจากยอดรักนักรบยังมีถ่ายทำเรื่องตะวันอาบดาว”?

ฐิสา – “เรื่องนี้ดราม่าค่ะ แต่คาแร็กเตอร์จะแตกต่าง ฉีกไปจากเดิมที่เคยเล่น จะเป็นคนที่ไม่ยอม คน เชือดเฉือนกับ พี่ยุ้ย (จีรนันท์ มะโนแจ่ม) ตลอดเวลา พี่ยุ้ยเป็นน้องสาวแม่เรา เป็นน้าเราในเรื่อง เขาไม่ดีกับแม่เรา พอแม่เราตาย เขาดูแลบริษัท และเราเข้าใจว่าเขามีชู้ ทำให้พ่อบุญธรรมเราเสียใจ ซึ่งเรารักพ่อมาก ทำให้เกลียดเขาไปเลย ปะทะกันทั้งเรื่อง เรื่องนี้เครียดมาก กับพี่ยุ้ยร่วมงานกันครั้งที่ 2 เคยเล่นเพลิงพระนางด้วยกัน หนูเล่นเป็นลูกพี่อั้ม (พัชราภา) ซึ่งเรื่องนั้นหนูกับพี่ยุ้ยเล่นเป็นคนดีทั้งคู่ แต่เรื่องนี้ไม่ยอมกันเลย เวลาเข้าซีนหนึ่งต้องใช้พลังเยอะมาก พูดด่ากันยาวมาก ซึ่งถ่ายควบกับยอดรักนักรบ ต้องใช้พลังทั้งสองเรื่อง แต่เป็นคนละแบบ เรื่องตะวันอาบดาวเล่นกับน้องเข้ม (หัสวีร์) น้องตั้งใจทำงาน บทของน้องจะยาก เพราะต้องเล่นเป็นฝาแฝด ร่วมงานกันครั้งแรกก็โอเค

ได้รับโอกาสงานละครหลากหลาย มากขึ้น?

ฐิสา – “ที่ผ่านมาคนอาจจะเห็นเราเล่นบทดราม่ามาตลอด ปีนี้แหละค่ะ ที่คนได้เห็นความแตกต่างบ้าง เราแฮปปี้กับทุกงาน พอเราโตขึ้นก็อยากเล่นอะไรที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อพัฒนาไปในตัว ทุกวันนี้รู้สึกว่าได้เล่นอะไรที่ท้าทายมากขึ้น บทที่อยากเล่นตอนนี้ มีละครผีที่ยังไม่เคยเล่น อยากลองเล่นบ้าง

เวลาผ่านไปแป๊บเดียวอยู่ในวงการมาเกือบ 10 ปีแล้ว?

ฐิสา – “ใช่ค่ะ แป๊บเดียว 9 ปีแล้วเหรอ ผ่านไปไวมาก เราอายุขนาดนี้แล้วเหรอ (หัวเราะ) ตอนนี้เป็นรุ่นพี่ของน้องๆ หลายๆ คนแล้ว เราได้เติบโตและได้รับอะไรหลายอย่างจากวงการนี้เยอะ เรื่องความรับผิดชอบในการทำงาน ความพยายามในการทำสิ่งต่างๆ ได้ทำในสิ่งที่เราไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะได้ทำ เพราะตั้งแต่แรกเราไม่คิดว่าจะได้มาทำงานในวงการนี้ สมัยก่อนรู้ตัวว่าไม่ได้เป็นคนกล้าแสดงออก ไม่ได้เป็นคนชอบอะไรแบบนี้เลย พอได้ก้าวเข้ามาทำ มันทำให้เราต้องเปลี่ยน ต้องปรับความคิด ปรับตัวเรียนรู้หลายอย่างจากวงการ ทุกอย่างมันมีสองด้าน เราอยากเลือกเก็บเกี่ยวสิ่งดีๆ ในการพัฒนาตัวเองเพื่อจะอยู่ตรงนี้ต่อไป ไม่กล้าคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกแถวหน้าของช่องเลย มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องมีนักแสดงใหม่ๆ มาเรื่อยๆ ช่วยกันทำให้บ้านเราเติบโตมากขึ้น รู้สึกยินดีที่ได้เจอน้องๆ เราอยู่ตรงนี้มานานก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้น้องๆ และพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ

ยังแฮปปี้กับบ้านหลังนี้?

ฐิสา – “ใช่ค่ะ ถามว่าเราอยากจะไปไหนมั้ย เราก็ไม่ได้คิดถึงตรงนั้น ในเส้นทางของแต่ละคนอาจจะคิดไม่เหมือนกัน ณ ตอนนี้เรายังแฮปปี้กับตรงนี้อยู่ ในเรื่องการทำงานหนูเชื่อว่านักแสดงทุกคนพอโตขึ้นก็ต้องมีการเปิดใจพูดคุยกันมากขึ้น เราโตขึ้นก็อยากทำงานอะไรที่แปลกใหม่มากขึ้นบ้างแค่นั้นเอง ก็คุยกับผู้ใหญ่ที่ช่องตลอด ในทุกๆ ปีได้เจอผู้ใหญ่พูดคุยถึงทิศทางการทำงาน โดยส่วนตัวเรายังแฮปปี้กับตรงนี้ ส่วนเรื่องสัญญา จำไม่ได้ว่าเหลือกี่ปี เหมือนจะเหลือ 2 ปี ก็อีกสักพักหนึ่งเลย

การเป็นนักแสดงมีชื่อเสียงแลกมากับการสูญเสียความเป็นส่วนตัว รับมือกับมันได้แล้ว?

ฐิสา – “ก็รับมือได้ เราเป็นคนแยกเรื่องการทำงานกับชีวิตส่วนตัวออกจากกันเลย ค่อนข้างมีมุมความเป็นส่วนตัวอยู่ ถ้าหมายถึงเจอคนข้างนอกเราก็เวลคัม ดีใจที่ได้เจอแฟนๆ หรือมีคนจำเราได้ เราก็อยู่กับมันได้แหละ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัวหนูเป็นคนธรรมดามาก ไม่ได้เป็นคนมีแอ๊ก ทิวิตี้เยอะ เป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวปาร์ตี้ อย่างคนที่เห็นหนูไปไหนก็คืออยู่แค่นั้นแหละ หมายถึงว่าไปทำบุญ ไปเที่ยวบ้างแต่ไม่ได้ไปแบบปาร์ตี้ ไม่มีเลย จะเป็นแนวเที่ยวพักผ่อนต่างจังหวัด ไปต่างประเทศ

แนวคิดในการทำงาน?

ฐิสา – “สิ่งที่ยึดเป็นหลักเลยคือความรับผิดชอบ เรื่องการตรงต่อเวลาก็สำคัญ การพัฒนาตัวเอง การตั้งใจทำงาน

วางเป้าหมายในวงการไว้อย่างไร?

ฐิสา – “หนูไม่เคยคิดเลยว่าจะอยู่ใน วงการไปอีกกี่ปี ถ้ายังมีโอกาสที่ดีๆ เข้ามาก็ยังอยากทำงานไปเรื่อยๆ พอได้มาอยู่ใน วงการ มันกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเรา ไปแล้ว

ถามเรื่องความรักหน่อย ตอนนี้โสด ไม่ได้คุยกับใครเลยใช่ไหม?

ฐิสา – “ใช่ค่ะ

มองว่าตัวเองเป็นคนใจแข็ง มีกำแพงค่อนข้างสูงกับเรื่อง ความรักไหม?

ฐิสา – “ที่ผ่านมาก็อาจจะเป็นค่ะ แต่ไม่ได้เป็นคนที่ไม่เปิดใจ นะคะ เพียงแต่สำหรับเราอาจจะต้องใช้เวลานิดนึงในการคุย ในการที่จะไว้ใจให้คนคนหนึ่งเข้ามาศึกษาชีวิตเรา

หลังจากนี้ถ้ามีใครเข้ามาจีบ จะสแกนยังไง?

ฐิสา – “คงค่อยๆ คุยไปเรื่อยๆ บางทีเราคงไม่ได้บอกใครหรอกว่าคนนี้เราคุยแล้วรู้สึกคลิกเร็วหรือใช้เวลาเร็วหรือเวลาช้า คงไม่ได้ประกาศบอกใคร เรารู้โดยส่วนตัว แต่ถ้าจะพัฒนาต่อไป เราคงต้องมั่นใจก่อนแค่นั้นเอง ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครเข้ามาคุยเลย

เป็นคนระมัดระวังเรื่องความรักพอสมควร?

ฐิสา – “อาจจะไม่ได้ประกาศหรือพูดออกมา แต่เราไม่ได้ปิดนะคะ หมายถึงว่าถ้าจะไปไหนมาไหนกับใครหรือว่าถ้าเราคุยกับใคร เราไม่ได้ปิดบังว่าเราไม่มีคนคุย เพียงแต่เรารู้สึกว่าเรื่องส่วนตัวก็อยากให้เป็นเรื่องส่วนตัว อะไรที่พูดได้เราก็พูด

ไม่ได้เข็ดหนุ่มในวงการ แบบไม่กล้าคุยศึกษาอีกเลย?

ฐิสา – “เวลาที่หนูจะคุยกับใคร อันนี้คือนิสัยของตัวเองนะ เราต้องเจอก่อนถึงจะคุยได้ ถ้าอยู่ๆ จะแอดไลน์มาคุย เราจะเป็นคนไม่คุยเลย ต้องเริ่มจากรู้จักเห็นหน้ากันก่อนถึงจะกล้าคุย จริงๆ เราไม่ได้คุยยาก แต่พอเป็นคนไม่รู้จักกันมันจะคุยกันยังไง แล้วสมัยนี้รู้สึกว่ามันคุย กันง่าย ถ้าคุยกันแค่ทางโซเชี่ยล เราไม่รู้ว่านิสัยเขาเป็นยังไง คิดอะไร ยังไง ด้วยข้อความมันสามารถพิมพ์ให้สวยยังไงก็ได้ ก็เลยรู้สึกว่าถ้าจะมาคุยขอให้มาเจอก่อนดีกว่า เราก็ไม่ได้ปิด

‘ฐิสา’

สเป๊กหนุ่มของฐิสา?

ฐิสา – “ณ ตอนนี้คงคุยกันแล้วเราสบายใจค่ะ ไม่ได้เป็นคนมีสเป๊กทางรูปร่างหน้าตาเลย ส่วนทัศนคติ เราชอบคนที่ทำให้รู้สึกได้รับพลังงานบวกๆ ชอบคนที่รักครอบครัว เราเป็นคนที่พร้อมจะอยู่กับทุกปัญหา ถ้าเขาจะมีปัญหาอะไรหรือเรามีปัญหาอะไร ขอให้อยู่ข้างๆ กันแก้ปัญหากันไป เข้าใจกันและกันค่ะ

มุมมองความรักตอนนี้เป็นอย่างไร?

ฐิสา – “หนูก็ยังคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดี เป็นพลังงานดีๆ และยังมองว่าเป็นสิ่งที่สวยงามอยู่เสมอค่ะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน