ติ๊ก ห่วง ปัญหาเผาขยะ ก่อฝุ่นควัน PM 2.5 รอบบ้านเจอหนัก หวังหาทางออกร่วมกัน

วันที่ 3 ม.ค. ที่ โครงการ เดอะไลน์ วงศ์สว่าง ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี ควงภรรยาสาว พีช สิตมน พร้อมด้วย น้องเต็นท์ ลูกชาย มาร่วมงาน Sansiri X Messi Jay Football Workshop จากนั้น หนุ่มติ๊ก ได้ให้สัมภาษณ์ ถึงพัฒนาการของ น้องเต็นท์ ลูกชายคนโตวัย 6 ขวบ ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง รักธรรมชาติเหมือนกับพ่อ และยังฝากถึงเรื่องที่ตนรู้สึกเป็นห่วง กับปัญหาการเผาขยะ ที่ก่อให้เกิดมลพิษ และปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5

ติ๊ก

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อนน้องเต๊นท์เป็นคนชอบฟุตบอลไหม?
“วันนี้เขายังเขินๆ หน่อย เขายังไม่คุ้น แต่เขาเป็นคนชอบฟุตบอลอยู่แล้ว สังเกตจากคอสตูมของเขาที่เตรียมมา แต่วันนี้อาจจะเขินไปซะหน่อย เพราะอย่างเวลามาออกงาน เราจะถามความสมัครใจของเขาว่าจะไปกับพ่อหรือเปล่า อย่างงานวันนี้มีฟุตบอลด้วย เขาเลยสนใจมาด้วย ซึ่งพอมาแล้วก็ช็อตนิดนึง แต่ทางโรงเรียนเขาก็จะมีกิจกรรมเกี่ยวกับกีฬา และเขาก็ชอบ ซึ่งบางกีฬาเด็กก็จะถนัด แต่บางกีฬาเด็กอาจจะไม่ถนัด”

สนับสนุนยังไงบ้าง?
“เต็มที่เลยครับ กีฬาๆ เป็นยาวิเศษ”

ส่วนมากงานที่น้องชอบจะเป็นรูปแบบไหน?
“ต้องไม่คิดว่าเป็นการทำงาน ต้องคิดว่างานที่รับนั้นต้องเหมือนเป็นการไปเที่ยวเล่น เขาจะเอ็นจอย และยิ่งถ้าเป็นที่ๆเขาคุ้นเคย ที่เขาไปบ่อยๆ หรือเจอคนคุ้นเคย ผมว่าจะทำให้เขารู้สึกปรับตัวได้เร็วขึ้น อย่างวันนี้ก็บอกเขาว่าเต๊นท์แค่ไปสนุกๆ เตะบอล”

แต่ถ้าไปที่แปลกๆ ไม่คุ้นเคย?
“ก็จะแบบนี้แหละ ต้องรอจังหวะแป๊บนึง เขาจะดูท่าทีก่อน คือเมื่อก่อนผมก็เป็นแบบนี้นะ เนื่องจากว่าประสบการณ์ชีวิตผมมากขึ้น ผมก็เลยแบบมาสิ เต็มที่เลย”

ตอนไปถ่ายรายการกับพ่อดูสนุกสนาน?
“ใช่ครับ เพราะว่าเขาอยู่กับพ่อ มันไม่ได้มีใครอื่น”

ติ๊ก

พีช ภรรยา และ น้องเต็นท์ ลูกชายคนโต

มีรูปแบบว่าจ้างเป็นกิจลักษณะมั้ย?
“ไม่มีครับ ถ้าเกิดว่ามันเกิดการว่าจ้าง มันมีความคาดหวัง เพราะฉะนั้นเราไม่สามารถทำตามที่คาดหวังได้ เราเลยคิดว่าเป็นบางโอกาสดีกว่าครับ”

จะไม่รับงานให้ลูกในช่วงเวลานี้?
“รับๆ แต่ว่าเป็นบางจังหวะ ต้องถามความคิดเห็นของเขาด้วย จริงๆเขาก็ไม่กลัวกล้องนะ ผมว่าเขาอาจจะเห็นผู้คนมากมายแล้วเขาไม่ค่อยคุ้นเคย”

ยังไม่คุ้นเคยเวลาไปไหนแล้วมีคนกรี๊ดพ่อเขาขนาดนี้?
“เขาคงรู้สึกเฉยๆมั้งครับ ขนาดทุกวันนี้ไปไหนมาไหนจะมีคนฝากถึงพ่อ เขาก็จะมาบอกผมนะครับ ที่โรงเรียนของเขา มาบอกมีแม่เพื่อน หรือพี่เลี้ยงฝากมาบอกว่าเขาชอบพ่อนะ เขาก็บอกแค่นี้ ผมก็เลยถามเขาว่าแล้วเต็นท์บอกเขาว่าไง เต็นท์ไม่ได้บอกอะไร”

ลูกๆเริ่มโตมากขึ้น มีการปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงเขายังไง?
“ก็ตามวัยของเขา เด็ก 6 ขวบ เขาจะชอบมีกิจกรรมข้างนอก รักกีฬาเอาท์ดอร์ จะมีความสนใจยอดมนุษย์ เริ่มอยากจะเป็นสไปเดอร์แมน เริ่มอยากจะเป็นพาวเวอร์เรนเจอร์ เราเข้าใจเขานะครับ เราต้องดูสิ่งที่เหมาะสมกับวัยเขา ก็ควบคุม สำหรับเรื่องที่เขาจะไปเดินป่า ชอบธรรมชาติก็ปล่อยให้เขาได้เต็มที่ เรียนรู้โลกภายนอก ดูสัตว์ต่างๆ เช่น ได้จับจิ้งจก หอยทาก เราก็ดูว่าให้เขาอยู่ในโซนที่ปลอดภัย ถ้าเป็นสัตว์มีพิษเราค่อยพยายามป้องกันไม่ให้ได้รับอันตราย”

ต้องมีเวลาให้ลูกมากขึ้นมั้ย?
“ตอนนี้หลังจากไม่ได้ทำเนวิเกเตอร์แล้ว ก็มีเวลามากขึ้น ซึ่งเป็นความตั้งใจของเรา แต่ถ้าถามว่ายังรู้สึกคิดถึงเนวิเกเตอร์มั้ย คิดถึงมาก ไม่ได้อยากจากเธอไปเลย”

ถามถึงเรื่องที่มีการเผาขยะข้างบ้าน?
“ในเรื่องพื้นที่ต่างๆ ผมจะเป็นห่วงเรื่องพวกนี้ การเผาในพื้นที่โล่งแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นการเผาขยะ เผาพื้นที่เกษตรกรรม รวมถึงตอนนี้มีการลุกลามเผาไปยังป่าสงวนผืนป่าธรรมชาติของประเทศไทย ตอนนี้ประเทศไทยเข้าสู่หน้าแล้งอย่างเต็มขั้นแล้ว เพราะฉะนั้นกิจกรรมต่างๆไม่ว่า การเกษตรกรรมหรือกิจกรรมอื่นๆที่เกิดขึ้นโดยมนุษย์ มันจะส่งผลเสียต่อชั้นบรรยากาศของโลก ความรุนแรงตอนนี้อย่างเรื่องการเผา ไม่ใช่ว่าเป็นห่วงแค่ตัวเราเอง แต่เป็นห่วงว่าจากนี้จะเกิดปัญหาในเรื่องของฝุ่นควัน มลพิษ PM2.5 ก็จะเป็นวนเวียนอยู่อย่างนี้ คือผมว่ามันต้องมีระบบการจัดการที่ดี เรามีกรมควบคุมมลพิษไม่ใช่บอกข้อมูลเรื่องมลพิษ ถ้าเกิดความร่วมมือร่วมใจกัน จะบอกว่าอยู่จิตสำนึกของคนมันก็ใช่ ถ้าเราไม่มีการจัดการที่ดีมันก็ไม่มีทางออก บางทีมันไม่มีทางออกเพราะยังไงเขาก็เผาอยู่ บางก็เกิดการมักง่ายที่จะเผาป่าล่าสัตว์จะเกิดโทษร้ายแรงมาก บางทีคนปิดหน้าต่างปิดประตูเปิดแอร์นอนเลยไม่ค่อยรู้สึกอะไร ซึ่งมันไม่แฟร์ แล้วคนที่รู้สึกว่าอยากเปิดหน้าต่างหรือไม่อยากจะเปิดแอร์นอน ผมว่ามันต้องแฟร์กับทุกๆ ด้านด้วย เพราะถ้าเกิดคนที่นอนอยู่มันมีแต่กลิ่นของควันไฟหรือว่าบ้านใครที่ตากผ้ามีสะเก็ดของขี้เถ้าต่างๆ ทุกวันต้องมาทำความสะอาดเรื่องพวกนี้มันน่าเป็นห่วง ทุกๆ คนต้องอยู่ด้วยกันด้วยสิ่งที่เคารพซึ่งกันและกันในพื้นที่สาธารณร่วมกัน

 

อย่างที่โพสต์เขามาเผาใกล้บ้านเราใช่ไหม?
“ก็ไม่ใกล้นะ ซึ่งเราก็มองเห็นเหตุการณ์แบบนี้อยู่เรื่อยๆ”

ให้ทางเขตมาตักเตือนหรือทางหมู่บ้านมาแก้ไขไหม?
ผมก็เคยบอกไปนานแล้ว ก็น่าจะทราบดีอยู่แล้วว่า ถ้ามันไม่เกิดอะไรร้ายแรงมาก เราก็ยังนิ่งนอนใจกันอยู่ และก็ไม่ค่อยแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ พอเวลามันมีกระแสมากๆ ก็จะค่อยแอ็คชั่นกัน

กลิ่นควันมาถึงบ้านเลยหรือเปล่า?
“ก็เยอะ ตอนนี้มันรอบๆ ตรงไหนมีพื้นที่เผาได้ก็จะเผารวมถึงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ มันต้องมีวิธีในการหาทางออก แล้วมีแรงจูงใจให้กับเขาว่าจะทำยังไงที่จะไม่เผากัน แล้วถ้าไม่เผาเขาจะได้อะไร”

 

เราป้องกันยังไงสำหรับเรื่องนี้?
“เราก็บอกเขานะครับ ว่าวิธีการที่ถูกต้องคืออะไร มันจะเป็นโทษกับสิ่งต่างๆ อธิบายด้วยเหตุผล ปูพื้นฐานที่ดีให้กับเด็กๆ ควันถึงแม้จะอยู่ในบ้านหรือนอกบ้านมันไปได้หมด ไม่ใช่ว่าพอเข้าเขตรั้วบ้านแล้วหายไปไม่ใช่แบบนั้น คือตอนนี้ไม่ว่าแถวนี้หรือแถวไหน ลองไปดูได้เลย เผาหมดทั้งนั้น”

สุดท้ายอยากฝากบอกอะไรเขาไหม?
“คือผมว่าตอนนี้สิ่งที่เราพูดถึงมันเป็นมาตรฐาน มันไม่ได้แปลว่าทำอะไรพิเศษ มันคือหน้าที่แค่นั้นเอง ถ้าหากเราทุกคนรู้จักหน้าที่ซึ่งกันและกัน มันก็จะทำให้สังคมน่าอยู่เท่านั้นเอง ต้องรักษาผลประโยชน์ร่วมกัน

ขอบคุณรูปจาก tik_pholdee, peachystarlight

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน