‘ซันนี่’ 15 ปีกับโลกมายา

ใจภักดิ์รักแสดง-สุขทุกอย่างที่ทำ

คอลัมน์ อาทิตย์ใส

‘ซันนี่’ 15 ปีกับโลกมายา ใจภักดิ์รักแสดง-สุขทุกอย่างที่ทำ – เป็นหนึ่งหนุ่มที่เป็นขวัญใจของสาวๆ สำหรับพระเอกสุดติสต์ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ล่าสุดโคจรมาร่วมงานกับผู้กำกับฯ คู่หู ‘เต๋อ’ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ในภาพยนตร์ “ฮาวทูทิ้ง ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” ค่ายจีดีเอช โดยรับบท ‘เอ็ม’ คู่กับนางเอกหน้าเก๋ ‘ออกแบบ’ ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง ที่รับบท ‘จีน’

วันนี้ฤกษ์ดี ทางสะดวก ได้จับเข่าพูดคุยกับหนุ่มซันนี่ถึงผลงานที่แสดงรวมทั้งเรื่องราวส่วนตัว

ตอนที่ ‘เต๋อ นวพล’ มาจีบให้เล่นหนังเรื่องนี้ เขาให้เหตุผลอะไรว่าต้องเป็นซันนี่?

ซันนี่ – “เขาให้ผมแคสติ้ง เพราะเขาก็ไม่แน่ใจเวลาเขาเขียนตัวละครขึ้นมา คือเขารู้แหละว่าผมทำอะไรได้บ้าง พัฒนาอะไรได้บ้าง แต่เวลาเขาเขียนแล้วการแคสติ้งมันคือสิ่งมหัศจรรย์และสำคัญมากสำหรับภาพยนตร์ ต้องทุกรายละเอียด นักแสดงจะเล่นเก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีมวลเสียง มวลหน้า มวลเท็กเจอร์ที่ถูกต้อง ตอนที่มาแคสติ้ง ก็ไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะอยากให้ผมเล่น (หัวเราะ) ตอนนั้นรู้แค่ว่าเขาทำโปรเจ็กต์อะไรอยู่ แต่ไม่เคยพูดว่ามีนักแสดงอยู่ในหัวมั้ย เขาสร้างแค่ตัวละครขึ้นมาแล้วเขาคิดไม่ออก เลยจะมาดูว่าแต่ละคนจะมีเชื้อมีธาตุอะไรที่เข้ากับบทและพัฒนาไปทางไหนได้ ในหัวของคุณเต๋อ (นวพล) เขาจะคิดแบบนี้ ซึ่งความน่าสนใจของบทบาทนี้ มันคือความเป็นมนุษย์ครับ”

‘ซันนี่’ 15 ปีกับโลกมายา ใจภักดิ์รักแสดง-สุขทุกอย่างที่ทำ

คาแร็กเตอร์ของตัวละครที่เล่นเป็นอย่างไร?

ซันนี่ – “ในเรื่องผมรับบทเป็น ‘เอ็ม’ คือมนุษย์ทั่วไปที่มีความรู้สึก มีความโน่นนี่ทั้งหมด มันคือคนที่โตระดับหนึ่งแล้ว ในหนังจะเล่า 2 ช่วงอายุ จะแบบโตแล้วเป็นผู้ใหญ่แล้วเจอเหตุการณ์อะไรบ้าง เหมือนการเข้าสังคม นี่คือเบสิคการแสดง การเข้าสังคมของเราจะมีตัวที่เป็นตัวเองสุดๆ ตัวที่ไว้รับแขก และตัวที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้คนเห็นว่าฉันเป็นแบบนี้ ก็มีการทำการบ้านกับตัวละคร เวิร์กช็อปกับเขา (เต๋อ นวพล) มันสบายใจ คือเราหาไปด้วยกัน อยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตตัวละครไปเลย แล้วจะมีการปรับขึ้นปรับลงตลอด เพราะเขาไม่ใช่คุณครูสอนการแสดง ครูสอนการแสดงจะบอกอินเนอร์ต้องอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เขามีแค่มอนิเตอร์เรา นั่งคุย นั่งเล่น เมื่อกี้คิดอะไรอยู่ เอาแบบเมื่อกี้ ผมว่าเมื่อกี้แหละ แต่ต้องขึ้นอีกนิดนึงหรือลงนิดนึง อะไรแบบนี้ เพราะว่าเขามีความสามารถในการดูรายละเอียดสุดๆ ในความเป็นมนุษย์ คือเขาไม่ได้รอว่าเนี่ยเล่นผ่านแล้ว แต่เขารอความเพอร์เฟ็กต์และเมจิกโมเมนต์ของมนุษย์คนหนึ่งที่จะทำ บางทีเราใช้ชีวิตอย่างนี้ เราไม่มีเทกที่ดีที่สุด เราทำครั้งเดียวจบ แต่หนังมันมีเทกที่ดีที่สุดได้สำหรับมนุษย์คนนี้ เขาเป็นผู้กำกับฯ ที่ลึกมาก”

‘ซันนี่’ 15 ปีกับโลกมายา ใจภักดิ์รักแสดง-สุขทุกอย่างที่ทำ

‘เอ็ม’ กับ ‘ซันนี่’ มีอะไรที่คล้ายและไม่คล้ายกันเลย?

ซันนี่ – “จริงๆ ไม่คล้ายเลยครับ แต่มีทัศนคติบางอย่างที่คล้าย หรือความเป็นมนุษย์บางอย่างที่เราประนีประนอมยอมได้ ชีวิตจริงผมเป็นคนประนีประนอมประมาณหนึ่ง เพราะรู้สึกว่าให้เขาเรียนรู้ด้วยตัวเองดีกว่า เราไม่รู้จะเถียงอะไรไป บางอย่างถ้าเราเชื่อว่าถูกแล้ว แล้วเหมือนทำดีไม่ได้ดีอ่ะ แต่เราก็จะทำดีต่อไป งั้นก็ให้เขาเอาเปรียบแล้วกัน เขาอาจจะเจอสิ่งอะไรมาที่เขารู้สึกว่าต้องทำแบบนี้เพราะเขาเคยโดนมาก่อนไง แต่เราขอไม่เป็นอย่างนั้นแค่นั้นเอง”

‘ซันนี่’ 15 ปีกับโลกมายา ใจภักดิ์รักแสดง-สุขทุกอย่างที่ทำ

ร่วมงานกับนางเอกเคมีใหม่ ‘ออกแบบ ชุติมณฑน์’ เป็นยังไงบ้าง?

ซันนี่ – “เรียกว่าเป็นคนละประเภทกันมาเจอกัน ไม่ต้องปรับจูน อะไรกันหรอก แต่คนส่วนใหญ่ชอบคิดว่าผมกับออกแบบเป็นคนประเภทเดียวกัน แต่ออกแบบเนี่ย แค่หัวเราะก็ต๊องและเป็นอีกแบบหนึ่งแล้ว อาจจะมีมาดนางแบบอยู่บ้าง แต่เวลาหัวเราะกลายเป็นอีกคนไปเลย แต่พอมาทำงานร่วมกันคือได้ เพราะทิศทางเราไปทางเดียวกัน มันคือการช่วยกันและทำด้วยกันเป็นทีม เหมือนหนังที่มันเป็นคู่อย่างลาลาแลนด์ คนจะชอบแบบคนนี้เล่นดีกว่าคนนี้ จริงๆ ไม่ใช่ ไม่ได้มีใครดีกว่าใคร แต่เพราะมันคู่กันเลยได้แบบนี้”

‘ซันนี่’ 15 ปีกับโลกมายา ใจภักดิ์รักแสดง-สุขทุกอย่างที่ทำ

ทำงานกับผู้กำกับฯ คนนี้เป็นเรื่องที่ 2 แล้ว คุณเป็นขวัญใจของเขาหรือเปล่า?

ซันนี่ – “เรื่องที่ 3 แล้วครับ ต่อจาก ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ ยังมี Die Tomorrow ด้วย แต่ลืม ไม่เป็นไร เพราะเรื่องนี้เห็นแต่นิ้วเท้าผม (หัวเราะ) ถามว่าผมเป็นขวัญใจของเขาหรือเปล่า บอกแล้ว…จะหานักแสดงนำชายที่ถูกใจเขาและดีขนาดนี้ เขาหาไม่ได้แล้ว เอ้อ! (ยิ้ม) นี่คือความโชคดีของคุณนะ…นวพล!”

‘ซันนี่’ 15 ปีกับโลกมายา ใจภักดิ์รักแสดง-สุขทุกอย่างที่ทำ

มาเจอกันอีกครั้งทำงานกันง่ายขึ้นไหม?

ซันนี่ – “ใช่ครับ ตอนหนังฟรีแลนซ์ฯ เราจะไม่เข้าใจเขาเลย แต่ตอนนี้เรารู้แล้วว่าเป็นยังไง ส่วนคนที่เครียดคือคนที่เพิ่งเจอเขาครั้งแรก แล้วเป็นทุกคนซึ่งผมจะชอบมาก”

ถูกยกให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการโดนทิ้ง เพราะโดนทิ้งมาหลายเรื่อง ตั้งแต่ เพื่อนสนิท, รัก 7 ปีดี 7 หน, มิสเตอร์เฮิร์ต, รักฉุดใจนายฉุกเฉิน?

ซันนี่ – “ไม่หรอก เรื่องมันต้องมีคอนฟลิกต์ ถ้าเป็นเรื่องความรักแล้วเปิดมาสมหวังเลยมันไม่ได้ (เสียงสูง) มันต้องมีคอนฟลิกต์อะไรเกิดขึ้นสักอย่าง ไม่อย่างนั้นเรื่องมันจะไปได้ยังไง ใครมันจะมานั่งเอาใจช่วย คือต้องมีอะไรมาก่อน แล้วจบด้วยสมหวังหรือผิดหวังค่อยว่ากันอีกเรื่องนี้”

‘ซันนี่’ 15 ปีกับโลกมายา ใจภักดิ์รักแสดง-สุขทุกอย่างที่ทำ

ฮาวทูทิ้ง…ในชีวิตเคยต้องทิ้งอะไร แล้วทิ้งยากทิ้งเย็นไหม?

ซันนี่ – “บางอย่างมันมีเวลาของมัน มันเหมือนวันหมดอายุครับ หนังสือบางเล่มที่เรารู้สึกว่า 3 ปีนี้เราไม่เคยคิดจะทิ้งมันเลย แต่พอปีที่ 4 อยู่ดีๆ ก็รู้สึกว่าทิ้งได้เลย แล้วมันจะเป็นอย่างนี้ในชีวิต แค่มันยังไม่ถึงเวลาของมันแค่นั้นเอง สุดท้ายเราไม่ได้วัดที่เหตุผลแล้วนะ เราวัดที่ความรู้สึก”

แล้วอะไรในชีวิตที่เจอแล้วแบบทิ้งได้ทันทีเลย แบบนี้คือไม่เก็บเอาไว้เลย?

ซันนี่ – “ที่จริงมันไม่อยากทิ้ง มันไม่ทิ้งมันไม่เก็บอ่ะ แต่เราอยู่กับมันได้ เพราะเข้าใจได้ ต่อให้คุณไม่ดีฉันก็เข้าใจคุณได้”

‘ซันนี่’ 15 ปีกับโลกมายา ใจภักดิ์รักแสดง-สุขทุกอย่างที่ทำ

ขอคำถามมงลงหน่อย ถ้าให้ต้องเลือกระหว่าง Privacy และ Security จะเลือกทิ้งอะไรและเก็บอะไร?

ซันนี่ – “ไพรเวซี่ (Privacy-ความเป็นส่วนตัว) มันคงทิ้งไม่ได้นะครับ ซีเคียวริตี้ (Security-ความปลอดภัย) ทิ้งไปก่อนชีวิตมันต้องเสี่ยง! ใช่มั้ย เพราะเราป้องกันตัวเองไง ใครมีเรื่องอะไรมาหาผม ปล่อยมัน บล็อก บล็อก (หัวเราะ) ยังไงก็ต้องเอาไพรเวซี่ไว้ก่อน เพราะซีเคียวริตี้มันหาได้”

วางตัวเองกับงานการแสดงไว้ยังไงบ้าง?

ซันนี่ – “ไม่เคยวางอะไรเลยครับ มันคืออาชีพเดียวที่เรารักและเป็นอาชีพเดียวที่เราทำจริงจังในการเป็นอาชีพ”

ไม่เคยมีอาชีพอื่นอยู่ในหัวเลยเหรอ?

ซันนี่ – “หลังจากเจอนะครับ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มี ตอนนั้นคิดอยู่ว่าซวยแล้ว…จบไปจะทำอะไรดี ไม่ๆ แต่ทุกอย่างเราต้องใช้เวลาในชีวิตว่าเราจะเจออะไร เหมือนกับความรู้สึก ถ้าเราอยากประกอบอาชีพนี้ ถ้าเราไม่ได้ชอบมัน แต่เราต้องมีอาชีพนะ มันก็เป็นเหตุผลเหมือนที่ผมเคยบอก สุดท้ายผมเจอด้วยความรู้สึก ผมคงโชคดีแหละ”

‘ซันนี่’ 15 ปีกับโลกมายา ใจภักดิ์รักแสดง-สุขทุกอย่างที่ทำ

● อยู่กับการแสดงนานเท่าไหร่ ถึงรู้สึกว่าเจอสิ่งที่รักแล้ว?

ซันนี่ – “ตั้งแต่เล่นหนังเรื่องแรกเลยครับ ที่นี่มันคือที่ของเรา เหมือนปล่อยปลาลงน้ำ มันรู้สึกว่าแบบทำไมเราถึงสนใจและคิดถึงแต่มันได้ หรือเพราะคนรอบตัวเราดีด้วยมั้ง ตอนที่มาเจอเรื่องแรกอ่ะครับ คนรอบตัวคือเขามุ่งมั่นและรักในสิ่งเดียวกันเลย แล้วเราก็อินไปกับสิ่งๆ นี้ แล้วกลับบ้านเราก็ยังคิดถึงพวกนี้อยู่ แล้วนี่ทำมาจะ 15 ปีแล้ว ไม่มีวันไหนที่ผมออกกองหนังแล้วรู้สึกขี้เกียจตื่นหรืออะไรเลย ไม่มีเลย ถ้าเป็นถ่ายโฆษณาหรือมาสัมภาษณ์แบบนี้อาจจะมีแบบรู้สึกขี้เกียจบ้าง (หัวเราะ) มันไม่มีแพสชั่นที่จะออกไปไง แล้วยิ่งมั่นใจกว่าเดิมคือเวลาเรามีเรื่องอะไรที่ยังแก้ไม่ตกและคิดวนเวียนในหัว บางทีตาลอยคิดถึงแต่เรื่องนี้เอาออกไม่ได้ แต่พอเข้าฉากปุ๊บหายไปเลย เราให้ความสำคัญกับมันโดยที่ลืมทั้งหมด ทั้งปวง เราเลยรู้สึกว่าโอ้โห ใช่แล้วแหละ แล้วที่น่าโมโหกว่าคือ…ยังเล่นดีอยู่เลยอ่ะ มันเหนือชั้นชัดๆ มันยังแรงดีอยู่เลยไม่ได้ตกอ่ะ (หัวเราะ)”

● แล้วอยากทำเบื้องหลังบ้างไหม?

ซันนี่ – “ชอบอันเดียวคือการแสดงนี่แหละครับ แต่อย่างอื่นถ้าสมมติเราไม่สามารถทำการแสดงได้แล้ว อะไรที่เราจะหาเป็นอาชีพก็อาจจะเป็นพวกนี้ เพราะเรามีความรู้และอยู่กับมันมาเป็น 10 ปี เรารันกองได้แล้ว รู้ตำแหน่งโน่นนี่แล้ว ต่อให้เราไม่ได้เรียนมา แต่เรามีประสบการณ์ไง”

● หลายคนยังมองว่าซันนี่เป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง จริงๆ เป็นอย่างนั้นไหม?

ซันนี่ – “ไม่แน่ใจเหมือนกัน แล้วแต่นะ บางเรื่องมันก็เหมือนทุกเรื่องในชีวิตที่เปิดเผยได้ บางเรื่องก็ไม่เปิดเผย เราไม่จำเป็นต้องไปบอกให้ใครรู้ทุกเรื่อง เราไม่ได้แบบอล่างฉ่าง ผมไม่ใช่คนแบบนั้นที่อวดทุกสิ่ง ถ้าเขาถามแล้วเรามีความไว้ใจเขาแค่ไหนก็บอกแค่นั้น เหมือนไปถามว่าที่ตูดมีไฝหรือเปล่า เราจะบอกทุกคนทำไม เราก็ต้องบอกคนที่เราไว้ใจใช่มั้ยครับ แค่นั้นเอง”

● เอาจริงๆ ซันนี่พอจะรู้ตัวหรือได้ยินมาก่อนไหม ว่าเป็นขวัญใจของสาวๆ เยอะเลย?

ซันนี่ – “ใช้คำว่ารู้ตัว (หัวเราะ) ก็ไม่แน่ใจนะ เขาอาจจะแบบชอบในผลงานเราแล้วก็อาจจะเป็นกระแสอ่ะๆๆ มีซันนี่ มีใครอยู่ในสังคม เห็นว่าตอนนี้มีผลงานอยู่ก็เลยพูดขึ้นมา เขาอาจจะไม่ได้ชอบขนาดนั้นก็ได้ บางทีเวลามีโผผู้ชายแบบนั้นแบบนี้ที่ผู้หญิงชอบแล้วมีชื่อผมติดไปด้วย เขาอาจจะคิดไม่ออกก็ได้ว่าเอาใครดี เหมือนแบบจับสลากมั่วขึ้นมาเอาไอ้นี่แล้วกัน”

● ตอนนี้มีความสุขกับอะไรที่สุด?

ซันนี่ – “ทุกอย่างในชีวิตที่เราทำเลยครับ เพราะเราเลือกมันจากความรู้สึกที่อยากทำและมีความสุขกับมัน สิ่งที่อยากทำแล้วยังไม่ได้ทำ คืออยากไปเที่ยวรอบโลก ไปที่ที่เราไม่เคยไป แล้วก็ไปไม่ได้สักทีเพราะต้องทำงาน บางประเทศเราสามารถไปคนเดียวได้ แต่บางประเทศถ้าไปคนเดียวน่าจะตาย (หัวเราะ) เลยต้องหาพวกก่อนครับ ประเทศที่อยากไปมากๆ ตอนนี้คืออเมริกาใต้ อยากไล่ตั้งแต่เปรูลงมาเลย ตอนนี้รอซีซั่น 2 ของรายการ ‘เดอะ ซัน ฮันเตอร์’ ที่ทำอยู่ เราคิดไว้แล้วว่าอยากไปอเมริกาใต้ เลยตั้งชื่อว่า เดอะ ซัน ฮันเตอร์ เอ็กซ์ตรีม แต่ยังไม่รู้จะได้ทำเมื่อไหร่ ใครอยากร่วมงานกับเราก็ติดต่อมานะครับ”

● ความรักของซันนี่เป็นยังไง?

ซันนี่ – “ความรักจริงๆ ก็เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว เคยดูเรื่อง The Fifth Element มั้ย ความรักนี่คืออีเลเมนต์ที่ 5 นะครับ มันดีและมันสวยงาม แต่มนุษย์ชอบทำให้มันซับซ้อนในทุกเรื่อง ว่ามันควรจะเป็นอย่างนี้เท่านั้น แล้วก็ปลูกฝังกันมา ทั้งที่มันควรจะเพียว (Pure) ชอบก็ทำแบบนั้นจริงใจ ไม่ควรจะเอาความรักมาเป็นข้ออ้างของอันโน้นอันนี้ ที่จริงทุกเรื่องมันง่าย ชอบจบ รักกัน”

● ตอนนี้ก็ยังสบายๆ กับเรื่องนี้อยู่?

ซันนี่ – “ไม่ได้คิดอะไร เพราะผมรู้สึกว่ามันต้องเป็นทูเวย์ส คือมี 2 ทาง ถ้าเราคิดว่าฉันอยากมีความรัก กลายเป็นว่านี่คือที่เราต้องการฝั่งเดียว แล้วเราก็ไปหาคนอื่นมาเพื่อความต้องการของเรา แต่มันควรจะเป็นมาเจอกันด้วยเดสตินี่ หรืออะไรสักอย่างที่ทำให้เรารู้สึก ใครทำอะไรสักอย่างให้มันอยู่ด้วยกันได้ในเวลาที่ถูกต้อง สำหรับผมคือแบบนั้นมากกว่า”

จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน