คอลัมน์ กระแสร้อน
ข่าวสดบันเทิง
วีรนุช จันทำ
ฝากผลงานหนังระดับรางวัลเรื่อง “เคาท์ดาวน์” เอาไว้เมื่อ 5 ปีก่อน ตอนนี้ “บาส”นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กำกับฯ หนุ่มฝีมือดี กลับมาอีกครั้งกับงานภาพยนตร์ “ฉลาดเกมส์โกง” ที่ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กฉลาด กับภารกิจโกงข้อสอบ เปลี่ยนกระดาษคำตอบให้เป็นเงินล้าน เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับระบบการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรเพิกเฉย
หายไปหลายปี ทำไมเลือกกลับมาด้วยหนังเรื่องนี้
บาส – “ไอเดียเริ่มต้นจากเรื่องการโกงข้อสอบ ก่อนหน้าผมทำโฆษณา ทำเอ็มวี เราก็อยากทำหนังแต่ยังไม่เจอเรื่องที่สนใจ และพี่เก้ง (จิระ มะลิกุล) โยนไอเดียนี้มา รู้สึกว่าน่าสนใจ เรารู้อยู่แล้วว่าการลอกข้อสอบมันมี แล้ว เรารู้เรื่องไทม์โซน แต่ไม่คิดว่าจะมาบรรจบกันได้”
“ใช้คำว่าได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริง คือเหตุการณ์ที่เด็กนักเรียนจากที่ต่างๆ ทั่วโลก ลอกข้อสอบโดยใช้ไทม์โซนมีเยอะ ซึ่งอเมริกาเป็นทวีปใหญ่ที่มีไทม์โซนเวลาต่างกันในแต่ละรัฐก็จะใช้วิธีนี้ พอเรารู้ว่าเหตุการณ์มีอยู่จริง เราจะเล่ายังไงให้เป็นรูปแบบที่เราต้องการ เติมเรื่องของสังคมไทยเข้าไป หนังดูได้ทุกเพศทุกวัย ถือว่าเป็นความเข้มข้นไม่ได้เครียดถึงกับดูแล้วกุมขมับ การทำหนังของผมเรื่องนี้ คือการทำให้ดูสนุกตื่นเต้นและบันเทิง”
เรื่องนี้ต่างจากเคาท์ดาวน์อย่างไร
บาส – “ต่างมากครับ การทำงานทุกอย่างยาก ซับซ้อนขึ้น เรื่องนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่อยู่ ในห้องเรียนยันห้องสอบที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย โลเกชั่นก็เยอะขึ้น”
ไปถ่ายทำที่ซิดนีย์
บาส – “ไปถ่ายที่ซิดนีย์ราวสามสิบเปอร์เซ็นต์ เป็นหนังที่เดินเรื่องด้วยพล็อตก็ต้องเล่าตัวละครที่มีความซับซ้อนให้คนดูเข้าใจ และสุดท้ายก็เป็นหนังที่มีความตื่นเต้นผสมแอ๊กชั่น ต้องเล่าผ่านการที่เด็กนั่งทำข้อสอบในห้องเงียบๆ มันเป็นแอ๊กชั่น ที่อยู่ในใจของตัวละคร เราต้องเอาภาษาหนังทิศทางกล้องและลีลาพวกนี้เข้ามาช่วย เพื่อให้คนดูรู้สึกตื่นเต้นตามตัวละคร เลยผ่านการดีไซน์ที่ค่อนข้างยาก”
“ซึ่งถ้าถามว่าฉากไหนที่ยาก ก็คงเป็นฉากสอบนี่แหละ เพราะถ้ามองด้วยตาเปล่าก็จะเห็นแค่เด็กที่ก้มหน้าทำข้อสอบ แต่ผมต้อง ใช้ทางกล้องทุกอย่างต้องดีไซน์ให้ดูแอ๊กชั่น ดูลุ้นที่สุด”
แล้วฉากไหนที่รู้สึกประทับใจ
บาส – “หลายฉากเหมือนกัน อย่างซีนที่ถ่ายทำกันที่ซิดนีย์เป็นซีนกึ่ง ไล่ล่า ซึ่งไปถ่ายในสถานีรถไฟใต้ดิน เราก็ไปขออนุญาตทางรัฐบาลเขา ซึ่งเขาก็มีการปิดสถานีรถไฟใต้ดินเพื่อ ให้เราถ่ายทำ ซึ่งรู้สึกเหมือนทำหนังฮอลลีวู้ดไม่คิดว่าเขาจะให้ความร่วมมือ ไม่คิดว่าเขาจะเต็มที่กับการทำงานของพวกเรา รู้สึกดีใจและกดดันในเวลาเดียวกัน ซึ่งก็ต้องขอบคุณทีมงานทุกคนที่เต็มที่กับเรา สุดท้ายเลยกลายเป็นเหนื่อย ยาก กดดัน แต่ครบด้วยความประทับใจ”
ถือว่าเป็นหนังที่มีความแปลกใหม่ไหม
บาส – “อาจเป็นหนังที่แปลกใหม่ก็ได้ เพราะไม่ค่อย เห็นในบ้านเรา แต่สำหรับตลาดหนังโลกไม่แปลก ด้วยท่าทีของหนังที่เหมือนหนังโจรกรรมสำหรับฮอลลีวู้ดสร้างมาเยอะแล้ว แต่เรามีความต่างที่โจรกรรมแบบไม่ได้มีแอ๊กชั่น อะไรมาก แต่เราต้องการทำให้ได้อารมณ์แบบนั้น”
ดูหนังเรื่องนี้จะได้ข้อคิดอะไร
บาส – “เป็นจุดยืนในการทำงานหนังทุกเรื่อง ทุกครั้งที่ตัดสินใจทำงานหนัง จะมีข้อความที่เราอยากพูด หลังจากที่หนังฉายไปแล้วตัวหนังจะตอบทุกอย่าง คิดว่าจะเป็นการสอนวิธีโกงหรือเปล่าแต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่สื่อสารมันมีมิติที่มากกว่านั้น ซึ่งต้องให้หนังเป็นเครื่องพิสูจน์”
คาดหวังไหมว่าเรื่องนี้จะได้รางวัล
บาส – “ผมโฟกัสเรื่องหนังอย่างเดียว ไม่คาดหวังอะไรแบบนั้น รางวัลสำหรับผมคือขอแค่ตัวชิ้นงานออกมาแล้วแฮปปี้กับมัน ส่วนเรื่องที่ว่าคนดูจะชอบไม่ชอบนั่นถือเป็นโบนัส ผมบอกได้ว่าหนังเรื่องนี้สามารถดูได้ทุกเพศทุกวัย แม้จะพูดถึงวัยรุ่นแต่ประเด็นของหนังทุกวัยดูได้และสามารถคิดได้หมด”
“สำหรับตัวผมถามว่าพอใจกับหนังเรื่องนี้แค่ไหน คือถ้าถอยตัวเองออกมาเป็นคนดูหนังก็ค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์ที่ออกมา อยากฝากให้ไปดูความตั้งใจของนักแสดง 4 คน นน-ชานน, เจมส์-ธีรดนย์, ออกแบบ-ชุติมนต์, อุ้ม- อิษยา การแสดงของ พี่เอก- ธเนศร์ และนักแสดงสมทบทุกคน ซึ่งเรา ทำสิ่งที่ยากมาก มันมีความตั้งใจของหนัง และด้วยความตั้งใจก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากๆ ถ้าดูจะเห็นว่าความตั้งใจแสดงออกมาด้วยความชัดเจน อยากฝากให้ไปดูกันครับ”
ภาพยนตร์ “ฉลาดเกมส์โกง” เข้าฉายให้ชมกันแล้วตอนนี้
