BOMBSHELL แฉกระฉ่อนโลก
คอลัมน์ หนังเด่น
โดย…กฤษฎา
Bombshell เป็นหนังที่นำเสนอประเด็นทางสังคมที่ท้าทายให้เกิดการแสดงความคิด และมีชื่อเสียงกับเสน่ห์ของ 3 ผู้แสดงหญิงเป็นแรงดึงดูด แต่น่าเสียดายที่รอบและโรงที่ผมเลือกดูมีจำนวนคนดูพอๆ กับจำนวนดาราผู้แสดงนำบวกผู้แสดงสมทบอีก 2-3 คน
อาจเป็นเพราะว่าผมเลือกดูโรงที่นั่งพิเศษ และดูหลังจากหนังเข้าฉายได้หลายวัน
ที่บอกว่าหนังนำเสนอประเด็นทางสังคม ที่ท้าทายให้เกิดการแสดงความคิดนั้น เพราะสิ่งที่เป็นประเด็นสำคัญของหนังคือ การคุกคามทางเพศในที่ทำงาน
หนังนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงมาปรุงแต่งให้เป็นหนังเพื่อความบันเทิง เหตุการณ์นั้นก็คือกรณีผู้บริหารระดับสูงของ ฟ็อกซ์ นิวส์ ถูกผู้ประกาศข่าวสาวฟ้องด้วยข้อกล่าวหาว่าเขาคุกคามทางเพศ
ประเด็นสำคัญต่อมาก็คือเมื่อเธอกล่าวหาและดำเนินคดี ไม่มีพนักงานผู้หญิงคนใดที่ ฟ็อกซ์ นิวส์ สนับสนุนเธอหรือเข้าร่วมฟ้องร้องเพิ่ม
ในขณะเดียวกัน หนังก็บรรยายให้เห็นภาพชัดเจนว่าผู้บริหารคนนั้นเคยทำกับพนักงานคนอื่นมาแล้ว
ฉากที่คนดูได้เห็นเป็นตอนที่เขาขอให้พนักงานสาวคนหนึ่งเลิกกระโปรงขึ้นสูงจนเขา (และคนดู) เห็นชุดชั้นใน
ช่วงนี้เองที่ทำให้เกิดประเด็นนอกเหนือจากเรื่องการคุกคามทางเพศ โดยหนังทำให้มองเห็นว่า ในสถานการณ์นั้นแม้แต่สื่อมวลชนก็ยังคิดถึงงาน รายได้ และความมั่นคงในอาชีพของตนมากกว่าการทำหน้าที่ของสื่อ
หนังยังมีการสอดแทรกประเด็นสิทธิสตรีและการดูถูกทางเพศ ผ่านทางการปะทะกันของผู้ประกาศข่าวสาว กับผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี (ณ ขณะนั้น – ก็คือ ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน)
เมื่อนำประเด็นทั้งหมดมารวมกัน Bombshell จึงมีทั้งการคุกคามทางเพศ สิทธิสตรี การเมือง การทำหน้าที่ของสื่อ และ สื่อในฐานะองค์กรทางธุรกิจ
นอกจากนั้น หนังเรื่องนี้ยังเป็นอีกหลักฐานที่ตอกย้ำว่า ภายใต้แนวคิดเสรีภาพของการแสดงออก หนังในฐานะสื่อมวลชนสามารถนำเสนอประเด็นทางสังคมที่ส่งผลกระทบต่อสาธารณชน แม้มีการพาดพิงเกี่ยวข้องกับบุคคลและองค์กรสื่อ และนักการเมือง
ซึ่งต้องยอมรับว่าในบางประเทศ ในบางสังคม การนำเสนอเรื่องลักษณะนี้ ในหนังนั้น แทบเป็นไปไม่ได้
นอกเหนือจากประเด็นที่กล่าวไป Bombshell เป็นหนังที่มีงานการแสดงของกลุ่มผู้แสดงเป็นจุดเด่น
หนังได้เข้าชิงออสการ์ 3 สาขารางวัล ได้แก่ ผู้แสดงนำหญิง ผู้แสดงสมทบหญิง และ แต่งหน้าทำผม โดยได้ 1 รางวัล คือ แต่งหน้าฯ