โบวี่ อัฐมา แจงไลฟ์แจกเงินช่วยคนตกงาน แก้ปัญหาได้ตรงจุด-ทันการณ์มากกว่า

ถือเป็นอีกหนึ่งคนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิดไม่ใช่น้อย สำหรับ โบวี่ อัฐมา ชีวนิชพันธ์ ดาราสาวชื่อดัง เนื่องจากงานในวงการทั้งหมดต้องหยุดชะงักลง ทำให้ขาดรายได้มาร่วมเดือน ในขณะที่ยังมีภาระเรื่องบ้านและครอบครัวต้องดูแล แต่ทั้งนี้เจ้าตัวก็ยังมีน้ำใจนึกถึงคนที่ได้รับความเดือดร้อนมากกว่า ด้วยการไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กมอบเงินช่วยเหลือผู้รับจ้างรายวันที่ตกงาน

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

“ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” มีโอกาสได้พูดคุยกับสาว โบวี่ ถึงการช่วยเหลือที่กล่าวไปข้างต้น พร้อมเคลียร์ดราม่าต่างๆ ที่มีเข้ามา รวมถึงถามไถ่ผลกระทบจากวิกฤตโควิดที่เกิดขึ้นกับตัวเอง

ถามถึงเรื่องที่ไลฟ์มอบเงินช่วยเหลือผู้ที่รับจ้างรายวันที่ตกงาน?

“ไม่ใช่จู่ๆ จะลุกขึ้นมาทำนะคะ โบต้องมีข้อมูลก่อน ก่อนหน้านี้โบเป็นจิตอาสาช่วยธรรมสถานของโบแพ็กกล่องยังชีพส่งให้กับคนที่เดือดร้อนประมาณ 12,000 กล่อง ต้องเกริ่นให้ฟังก่อนว่าช่วงที่เกิดวิกฤตนี้แรกๆ คนส่วนใหญ่ให้ความช่วยเหลือกับโรงพยาบาลและหน่วยแพทย์ อันนั้นมันคือคลื่นลูกแรกไง

“แต่ว่าคนส่วนใหญ่ยังไม่ได้ตระหนักว่าตอนนี้คลื่นลูกที่สองมันกำลังถาโถมเข้ามาแล้ว คือคนที่โดนให้หยุดงานเกิน 1 เดือนขึ้นไปแล้ว เงินเก็บเขาเริ่มไม่พอ แล้วหลายๆ คนทำงานรายวัน เขาก็เริ่มไม่มีอะไรจะกิน ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้อง ไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ อันนี้มันคือคลื่นลูกที่สองที่ถาโถมเข้ามา แล้วคนทั่วไปยังเกิดการรับรู้ในปัญหาตรงนี้น้อยอยู่”

“ธรรมสถานของโบแพ็กล่องยังชีพช่วยไป 12,000 กล่อง แล้วตอนหลังก็เริ่มมีการใช้วิธีการโอนเงินช่วยเหลือฉุกเฉิน จำนวนคนละ 500 บาท โดยทำไปแล้วประมาณ 2,000 คน เพราะว่าการให้เป็นกล่องยังชีพเนี่ยบางทีมันไม่ทันการณ์ กว่าเราจะซื้อของ กว่าจะมานั่งแพ็ก กว่าจะส่ง ต้องใช้เวลาอย่างต่ำ 4-5 วันกว่าจะไปถึงมือเขา แล้วบางทีมันไม่ทันการณ์”

แล้วบางทีของที่เราส่งไปมันอาจจะไม่ตรงกับความต้องการของผู้รับ เช่นบางคนเป็นแม่อยากได้นมเป็นหลัก แต่ในกล่องยังชีพเรามันก็เป็นข้าวสารอาหารแห้งที่มันอาจจะไม่ได้มีนม ในขณะที่บางคนไม่มีลูกก็ไม่อยากได้นม บางคนอาจจะไม่มีตังค์จ่ายค่าแก๊ส อะไรแบบนี้ โบเลยคิดว่าตรงนี้ถ้าอยากทำส่วนตัวของเราเองใช้เป็นวิธีโอนเงิน เขาสามารถนำเงินไปแก้ปัญหาของเขาได้ตรงจุดมากกว่า”

“อันนี้คือเป็นเงินส่วนตัวของโบเอง แต่ในส่วนของมูลนิธิก็ยังทำอยู่นะคะ แค่ว่าอันนี้โบกำหนดงบของตัวเองอยู่ที่ 50,000 บาท งบน้อยๆ เพราะช่วงนี้เราก็ไม่มีงานเหมือนกัน แต่โบก็คิดคิดว่ามี 50,000 ตรงนี้ช่วยคนละ 500 ก็ยังได้ตั้ง 100 คน ยังดีกว่าไม่ช่วยอะไรเลย”

หลายคนก็มีความเป็นห่วงว่าแล้วจะตรวจสอบได้อย่างไรกับคนที่เข้ามาขอเงิน?

“อย่างแรกเลยโดยวิธีการของโบจะให้คนโทร.เข้ามาตอนไลฟ์ เพื่อที่จะได้มีการพูดคุยกัน คนเราพอคุยกันไปสักพักหนึ่งจะเริ่มมีเซ้นส์ว่าคนนี้พูดจริง คนนี้แปลกๆ แล้วก็โดยประสบการณ์ที่เป็นจิตอาสาช่วยทางธรรมสถานมาก่อนอยู่แล้วก็จะมีโอกาสได้พูดคุยกับคนที่ลำบาก ถ้าได้คุยกันก็พอจะรู้ว่า จริงๆ พี่ลำบากแต่มีคนลำบากกว่าพี่อีก เราก็จะดูในความลำบากว่าถ้าคนนี้ลำบากน้อยโบก็ช่วยน้อย คนนี้ลำบากเยอะกว่าก็ให้เยอะกว่า

“สองคือถ้าเรามัวแต่ไปคิดว่าจะรู้ได้ไงว่าคนนี้ลำบากจริง ไม่ลำบากจริง เท่ากับว่าเราจะไม่ได้ช่วยใครเลย เราก็จะเป็นแค่หนึ่งคนที่ได้แต่นั่งวิจารณ์การทำงานของคนอื่น แต่ไม่ได้ลงมือทำ ในความคิดโบสมมุติโบมีงบช่วยได้ 100 คน ถ้าใน 100 คนมีคนที่ลำบากจริง 60 คน โบก็ถือว่าพอใจแล้ว อีก 40 คนอาจจะไม่ได้ลำบากจริงหรือลำบากไม่มากก็ไม่เป็นไร ถือว่าอย่างน้อย 60 คนที่ลำบากจริงเขาได้รับการช่วยเหลือ พรุ่งนี้จะเงินหมดอยู่แล้วไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อข้าว เรามีเงินไปต่อยอดให้เขาได้อันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจแล้วค่ะ”

อยากเป็นกระบอกเสียงช่วยคนตกงาน-ไม่มีกิน

เท่าที่ไลฟ์ไปเป็นยังไง ราบรื่นดีไหม?

“ราบรื่นเรียบร้อยดีค่ะ คนโทร.มาเยอะมาก สงสารคนที่โทร.ไม่ติดเหมือนกัน แต่ก็บอกแล้วว่าโบมีเงินเท่านี้ แต่โบมีใจที่อยากจะให้ก็ช่วยเท่าที่โบจะช่วยได้ แต่สิ่งที่โบคาดหวังต่อจากนี้คือวิธีการที่โบทำมันจะเป็นหนึ่งกระบอกเสียงที่ทำให้คนเกิดการรับรู้ว่ามันมีคลื่นระลอกสอง มีคนเกินครึ่งประเทศที่เดือดร้อนแล้ว เราหันมาช่วยทางนี้บ้างดีกว่า

แล้วพอเริ่มไลฟ์แจกเงินแบบนี้ นอกรอบมีคนมาขอเงินเราเยอะไหม?

“โบรู้ทันค่ะ เพราะว่าเคยได้ช่วยงานที่ธรรมสถานมาก่อน ฉะนั้นก็ปิดไดเร็กต์แมสเสจก่อนไลฟ์เลยเพราะรู้ว่าเดี๋ยวจะโดนถล่ม ต้องบอกว่าใจโบก็อยากช่วยเยอะๆ แต่เรามีเท่านี้ก็เลือกช่วยเท่าที่เราช่วยได้ค่ะ”

เห็นตอนไลฟ์มีคนอยากจะร่วมบุญด้วยการโอนเงินมาสมทบด้วย?

“ตอนแรกโบก็เปิดให้โอนมา แต่ตอนนี้คิดแล้วว่าไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวโบทำไม่ไหว ไลฟ์แจกเมื่อวาน(21เม.ย.63) ก็แจกไปได้แค่ 20 คน เดี๋ยววันนี้ก็ไลฟ์อีก คือเอาเป็นว่าของโบคงทำภายใต้งบประมาณเท่าที่ทำ แต่ที่นี้ถ้าคนที่อยากจะร่วมด้วยช่วยกัน โบแนะนำว่าอยากให้โอนเข้าไปที่ทางธรรมสถานโบ เพราะว่าเดี๋ยวพอโบไลฟ์หมดตรงนี้ 50,000 โบก็กลับไปเป็นจิตอาสาช่วยธรรมสถานเหมือนเดิม ซึ่งถ้ายังมีเงินบริจาคเข้ามาธรรมสถานก็ยังสามารถช่วยเหลือต่อไปได้เรื่อยๆ ไม่ว่าจะโดยทำกล่องยังชีพหรือว่าโอนเงินเหมือนกัน ใครที่อยากช่วยสามารถโอนเงินได้ที่ บัญชี มูลนิธิโรงเรียนแห่งชีวิต 003-2-41586-7 ธนาคารกสิกรไทยค่ะ

ในส่วนของตัวเราเองล่ะได้รับผลกระทบขนาดไหน?

“อ่วมมากค่ะ โบอยากบอกเลยว่าคนที่ตกงานอ่ะ คุณมีเพื่อนนะ เนี่ยเพื่อนอยู่ตรงนี้หนึ่งคน โบไม่มีงานเลย แต่โบมีภาระผ่อนบ้านเดือนละประมาณเกือบแสน แล้วโบเป็นหัวหน้าครอบครัว ดูแลค่าใช้จ่ายอ่านทั้งหมด แล้วก็ให้พ่อกับแม่ด้วย อันนี้เฉพาะภาระเดือนหนึ่งต้องจ่ายเป็นแสนกว่าบาท ยังไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายส่วนตัว”

“งานที่ค้างอยู่ตอนนี้ก็มีละครที่หยุดถ่ายไป ปกติมันก็จะมีงานใดใดอย่างเช่นไปออกรายการสัมภาษณ์ อีเวนต์ รีวิว คือมันก็จะมีอยู่ได้เรื่อยๆ แหละ แต่ว่าตอนนี้คือมันไม่มีเลย เดือนที่แล้วเหมือนมีรายได้เข้ามา 5,000 มั้งคะ ถ้าจำไม่ผิดเป็นงานช่วยอะไรแบบเนี้ยค่ะ”

หนักสุดเลยไหมตั้งแต่ทำงานในวงการมา?

“ใช่ค่ะ จำได้เลยว่ามันจะมีช่วงน้ำท่วมกรุงเทพฯ หรือช่วงปัญหาการเมืองหนักๆ ก็ยังไม่ได้กระทบถึงขนาดนี้นะคะ อันนี้คือแบบไม่มีงานเลย ถามว่ามีภาวะความเครียดมั้ย มีบ้าง แต่การจัดการความเครียดของโบก็ง่ายมากเลยคือเราปฏิบัติทำอยู่แล้ว ใช้วิธีนั่งสมาธิฝึกจิตปล่อยวางไป(หัวเราะ) มันช่วยทำให้เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็กไปได้เหมือนกัน”

อยากให้ช่วยให้กำลังใจทุกคนที่กำลังประสบความยากลำบากกับวิกฤตโควิดนี้?

“อดทนอีกอึดใจเดียว โบว่าไม่นาน อีกเดือนสองเดือน รัฐบาลปิดประเทศไม่ได้นานหรอก พอคลื่นลูกสองมาเนี่ย รัฐบาลต้องคิดนโยบายผ่อนปรนให้คนออกมาทำมาหากินแล้ว เอาเป็นว่าพยายามเอาตัวรอดในช่วงเดือนสองเดือนนี้ไปก่อน อย่าเพิ่งคิดสั้นกันสำหรับคนที่คิดว่าหาทางออกไม่ได้ เดี๋ยวก็จะได้คลี่คลายกันต่อไป”

“อีกหนึ่งอย่างที่อยากฝากบอกเอาไว้มากๆ เลย คือในการที่โบไลฟ์มอบเงินช่วยเหลือ มันก็มีคนมาคอมเมนต์ประมาณว่าแล้วมันจะเข้าถึงคนที่เดือดร้อนจริงๆ ได้ยังไง คนที่เดือดร้อนจริงๆ เขาไม่มีโทรศัพท์หรืออินเตอร์เน็ตใช้หรอก โบอยากจะบอกว่าโบเล็งเห็นว่าความคิดนี้เป็นความคิดที่ดีมาก แต่ว่ากำลังโบคนเดียวโบเข้าถึงได้แค่นี้ เพราะโบก็ไม่รู้ว่าคนที่เดือดร้อนขนาดนั้นไปอยู่ที่ไหน โบไม่รู้จักเขา”

“เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ยสิ่งที่จะทำได้ก็คือว่า ถ้าทุกๆ คนที่ยังพอมีกำลังอยู่กระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศ ทำตัวขึ้นมาเป็นผู้ให้ แล้วลองสังเกตดูคนในซอยบ้าน หรือในหมู่บ้าน ดูเพื่อนบ้านเราว่ามีใครที่ลำบากอยู่ตรงนั้นมั้ย แล้วเราไปช่วยเหลือกัน ถ้าทุกคนที่ยังพอมีกำลังทั่วประเทศทำได้แบบนี้ การช่วยเหลือจะเข้าไปถึงคนที่เดือดร้อนมากๆ จริงๆ แน่นอน

“ส่วนตัวไม่ได้ซีเรียสเรื่องดราม่า แต่อันนี้เป็นไอเดียที่โบอยากฝากว่า ถ้าทุกคนลุกขึ้นมาช่วยดูแลเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียง รับรองว่าเราจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้แน่นอนค่ะ”

ขอบคุณภาพ IG : bowie_atthama และ FB : โบวี่ อัฐมา ชีวนิชพันธ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน