น้ำใจศิลปินลูกทุ่ง ร่วมคอนเสิร์ตการกุศล "ข่าวสดลูกทุ่งพลังใจ" 

น้ำใจศิลปินลูกทุ่ง ร่วมคอนเสิร์ตการกุศล “ข่าวสดลูกทุ่งพลังใจ”

น้ำใจศิลปินลูกทุ่ง-ความสนุกยังคงต่อเนื่องกับคอนเสิร์ต “ข่าวสดลูกทุ่งพลังใจ” คอนเสิร์ตออนไลน์ที่ระดมนักร้องลูกทุ่งชั้นนำของประเทศ ซึ่งไลฟ์สดทางเฟซบุ๊กเพจ Khaosod – ข่าวสด หรือทางเว็บไซต์ยูทูบ ช่องข่าวสด Khaosod TV และ AIS Play เพื่อสร้างพลังใจและปลุกกระแสคอนเสิร์ตออนไลน์ และวงการเพลงลูกทุ่งให้กลับมาคึกคัก ช่วงที่วิกฤต โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย อีกทั้งยังตอกย้ำการเป็นผู้นำ “คอนเสิร์ตออนไลน์” ของข่าวสดบนแพลตฟอร์มโซเชี่ยลมีเดียอีกครั้ง

หลังจากที่ มนต์สิทธิ์ คำสร้อย ลงเวที แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ นักร้องลูกทุ่งชั้นครู คว้าไมค์ขึ้นโชว์ต่อกับเพลงอมตะ ชีวิตแสงสุรีย์, รักสาวเสื้อลาย และ หิ้วกระเป๋า

ต่อด้วย จินตหรา พูนลาภ กับเพลง เต่างอย, พื้นที่ทับซ้อน, สถานะหมอลำ และ น้ำตาย้อยโป๊ก

มันกันต่อกับ ปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ในเพลง น้ำตาลก้นแก้ว และ มนต์รักลูกทุ่ง

ตามมาด้วย อาภาพร นครสวรรค์ กับเพลง เชพบ๊ะ, น้องนอนไม่หลับ และ เลิกแล้วค่ะ ส่งไมค์ต่อให้กับ สุนารี ราชสีมา ที่มาโชว์ลูกคอในเพลง กราบเท้าย่าโม , สุดท้ายที่กรุงเทพ, มอเตอร์ไซค์นุ่งสั้น และ สิเทน้อง ให้บอกแน

ปิดท้ายกับการดวลไมค์ของ อาภาพร กับ สุนารี กับเพลง กระแซะเข้ามาสิ และ คนดังลืมหลังควาย
โดยนักร้องสาวจินตหรา พูนลาภ เผยความรู้สึกหลังจากลงเวทีว่า “รู้สึกตื่นเต้นมันเหมือนไม่ได้ออกงานตั้ง 4 เดือนอ่ะ เหมือนเข้าวงการใหม่ๆเลยด้วยปกติที่หนูเป็นคนไม่ค่อยออกงานสังคมบ่อย อยู่ดีๆมาร้องเลยหนูจะเป็นคนประหม่าด้วยบุคคลิก ตอนที่อยู่บนเวที ก็พยายามควบคุมตัวเอง เพราะเรารู้ตัวอยู่แล้วว่าเราเป็นอย่างไร ตอนแรกก็จะมีประหม่าบ้าง เหมือนกับว่ามันห่างไปนาน วันนี้ตื่นเต้นว่านี่คือที่สุดใน 4 เดือน งานแรกนี้เป็นงานแรกที่จินกล้าเสี่ยงที่มาอยู่ในฮอลล์ เพราะปกติจะไม่เอา ถ้ามีคนอยู่เกิน 2-3 คนไม่เอาเลย กลัว จริงๆ จินไม่ออกไปไหนเลย มีรายการทีวีติดต่อมา หนูบอกเลยเดี๋ยวก่อนให้มันชัวร์ที่สุดก่อน”

ทางด้านแสงสุรีย์ กล่าวว่า “งานนี้เป็นคอนเสิร์ตแรกหลังจากที่ผมออกจากโรงพยาบาล ดีใจครับ ก่อนที่จะป่วยเข้าโรคพยาบาล ก็มีเรื่องของโรคระบาดโควิด ผมไม่ได้ไปร้องเพลงที่ไหนเลย กลายเป็นคนที่ตกงานไม่มีเงิน ตอนขึ้นเวทีผมตกใจ จำไม่ได้ว่าร้องเพลงอะไร เพราะว่าไม่ได้ร้องเพลงมานานมาก จนเกือบจำเนื้อเพลงไม่ได้ ถามว่าตื่นเต้นมั้ย มันตื่นเต้นนะ เพราะว่าไม่เคยเล่นคอนเสิร์ตแบบนี้ ปกติเวลาไปเล่นคนเสิร์จชต จะมีคนมาดูเยอะ ปรบมือให้กำลังใจ
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าได้รับผลกระทบขนาดไหน กับวิกฤตโควิด แสงสุรีย์ เผยว่า ผมไม่ได้มีการเตรียมตัวมาก่อน ได้รับผลกระทบร้อยเปอร์เซ็นต์ ก่อนหน้านี้มีงานก็ไม่ได้เยอะ ได้พอใช้ แต่พอมีโควิดมางานทุกอย่างหยุดหมด ผมไม่มีรายได้ เงินที่ได้มาจากการร้องเพลง ก็เหมือนกับหามาใช้ไป ไม่มีเงินเก็บ และไม่มีรายได้จากไหนอีก

แล้วช่วงนั้นใช้ชีวิตอยู่อย่างไร นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง เผยว่า “อยู่ได้จากเงินที่เขาเอาไปแจกตามหมู่บ้านในช่วงนั้น และชีวิตมาดีขึน ตอนที่คุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ และพี่น้องทางบ้านส่งเข้าไปช่วย อย่างทางข่าวสด ก็ไปช่วยถึงที่บ้าน ก็ทำให้อยู่ได้ คือตอนนี้พออยู่ได้ จากทุกคนที่ส่งมาช่วยเหลือ ทั้งที่ไม่อยากให้ตนเอยชื่อ และจากคนที่มีนำใจช่วยเหลือครับ”

ปิดท้ายด้วย 2 นักร้องสาวเสียงคุณภาพ ฮาย อาภาพร กับ สุนารี ซึ่งทั้งคู่ได้เผยว่า “สุดีใจที่ได้มีส่วนร่วมกับงาน ขอบคุณมากที่เรียกพวกเรามา พวกเราก็พร้อมอยู่ละที่จะมางานการกุศลอย่างนี้ จริงๆแล้วช่วงนี้เราก็หนักทั้งการกุศล แล้วก็เรื่องบุญ มันอาจจะเป็นเพราะวัย มันเป็นช่วงที่แบบเหมือนต้องช่วยกัน ขอบคุณที่ได้ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมบุญในครั้งนี้”
ฮาย เสริมว่า “ครั้งที่สอง ก็ไลฟ์สดครั้งที่สอง ครั้งแรกไปช่วยพี่ตูน บอดี้สแลม ช่วยพี่โน้ตเขา ต้องบอกว่ามันเปลี่ยนไปแล้ว วิถีชีวิตมันเปลี่ยนไปแล้ว ไม่แน่เราอาจจะไลฟ์แบบนี้ไปตลอดก็ได้ คอนเสิร์ตอาจจะมีแต่มันอาจจะไม่เหมือนเดิม แล้วตามห้างต่างๆก็ติดต่อไลฟ์สด ตามห้างทองอย่างนี้ เราก็ว่ามันแปลกดี แบบว่ามันจะเปลี่ยนไปแล้วหรอ”
ถามต่อว่าพอมาเล่นคอนเสิร์ตแบบไลฟ์สดเป็นยังไงบ้าง สุนารี : “สำหรับพี่ พี่หยุดมาค่อนข้างนานแล้ว 4-5 ปีหลังพี่มีงานคอนเสิร์ตน้อย แต่นี่เขายังรับประจำอยู่”
“มันก็เปลี่ยนไป แต่ถามพี่ฮาย พี่ฮายว่ามันก็ต้องปรับให้เข้ากับเหตุการณ์ มันฟีลมันไม่เหมือนกันอยู่แล้วแน่นอน มันเป็นตัวเราดี ที่ได้ฟังเสียงผ่านจอกับการที่ได้ใกล้ชิดติดขอบเวที ความสนุกมันแตกต่างแน่นอน มันก็แห้งๆ สมองเรามันต้องทำงานมากกว่า

เราจะคิดหรือตอบโต้กับแฟนคลับยังไง แต่ถ้าอยู่บนเวทีมันตัวต่อตัว เหมือนเราคุยกันอ่ะ เราคุยกันเห็นหน้าอย่างนี้มันกว่า มันจะสนุกกว่าแล้วมันได้ฟีลกว่า มันแอ็กชั่นได้เยอะกว่า แต่เราก็ต้องใช้พลังเยอะขึ้น คือมันก็ปรับ ทุกคนต้องปรับ เพราะเราไม่รู้ว่ากี่วันกี่เดือนกี่ปี ทุกอย่างมันจะมีโอกาสกลับมาเหมือนเดิมหรือเปล่า ต้องดิ้นหาเพื่อความอยู่รอด ทุกช่องทาง ทำยังไงให้ปรับตามสถานการณ์” ฮาย อาภาพร กล่าวทิ้งท้าย

ดูคอนเสิร์ตย้อนหลังได้ที่นี่