ณวัฒน์ วิจารณ์ยิบ เหตุ การ์ดอย่าตก ทำปปช.เดือดร้อน วอนผู้ใหญ่รับผิดชอบสังคม
ณวัฒน์ วิจารณ์ยิบ – วันที่ 14 ก.ค.ที่ เมเจอร์ รัชโยธิน ผู้บริหารชื่อดัง ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ได้ให้สัมภาษณ์ในงานเปิดตัวภาพยนตร์ “รักข้ามคาน” ถึงเรื่อง การปล่อยหนัง “รักข้ามคาน” ภาพยนตร์เรื่องแรก ที่ทุ่มเงินกว่า 30 ล้าน จับจังหวะช่วงโควิด19 ที่มีแนวโน้มเกิดภาวะหลอนรอบ 2 พร้อมวิจารณ์ถึงมาตรการตรวจคนเข้าประเทศ
วันนี้ฤกษ์ดีเนอะหนัง?
“ก็ถือว่าฤกษ์ดีนะครับ เพราะว่าเราได้ทำงานเรา จนเสร็จสิ้น กระบวนการโปรดักชั่นก็เข้าสู่กระบวนการฉาย “รักข้ามคาน” ความยากลำบาก ความพยายาม ทุกสิ่งทุกอย่างกว่าจะมาเป็นวันนี้มันเหนื่อยมาก สู้กับภาวะเศรษฐกิจแล้วก็เรื่องที่เกิดขึ้นโควิดด้วยครับ ”
เราไม่ได้เลื่อนงาน?
“วันที่ 4 เมษายน คืองานที่เราจัดไว้ตั้งแต่แรก หลังจากนั้นเราก็รอจนทุกอย่างมันเริ่มคลี่คลาย ซึ่งพชร์ อานนท์ ก็โทรมาบอกว่า ณวัฒน์ ใจเย็นๆ รอก่อนไหมปลายปีเลย ผมก็รู้สึกว่าถ้าเกิดเรารอ งานก็ไม่เสร็จสักทีหนึ่ง เพราะผมว่าเราทำมาเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นไร ก็รับสภาพมันครับ ”
พี่พชร์มาเตือนแล้วตัดสินใจยังไง ?
“พี่พชร์ก็ ทั้งแมสเสจ ทั้งโทรมาเตือน ก็ตัดสินใจไม่นาน ไปฟังพี่เอกชัย พี่เขาบอกว่าไปเลย รีบๆเลย ผักบุ้งเขาก็ได้ดีใช่มั้ยครับ ส่วนคุณพชร์ เขาอาจจะรู้สึกว่าเหนื่อยหน่อย ก็ยืนหลักเหมือนเดิมครับ รักข้ามคานจะเป็นภาพยนตร์ ไม่มีการแย่งผัวแย่งเมีย ไม่มีการแย่งสมบัติ ไม่มีการตบตี แต่อยากจะทำภาพยนตร์ แนวคลีนให้ผู้ชมได้รับฟังกันบ้าง ”
สู้ไม่ถอย
มูเตลูบ้างมั้ย?
“มูเตลูไปเรียบร้อยครับ พี่ไข่ (หัวเราะ) ที่เดียวกับพี่พชร์ เอาเป็นว่าหนังเราไม่เลื่อนดีกว่าครับ เราอยากจะทดลองเหมือนกันว่าอุปสรรคมันจะเยอะแค่ไหน กำลังใจจะมาซักแค่ไหนก็เลยวัดดวงกันเลยครับ”
ลงทุนไปเท่าไหร่?
“เอาจริงๆนะครับประมาณซัก 30 ล้าน ถ้าคุ้มทุนก็ประมาณซัก 30-40 ล้าน ก็อยากจะคาดหวังประมาณนั้นแต่ไม่ได้คิดว่า เป็นร้อยล้านก็คงยาก ตอนนี้ภาวะเศรษฐกิจมันลำบาก หลายคนก็ไม่มั่นใจว่ามันนั่งอยู่รวมด้วยกัน มันจะสะดวกสบายมั้ย ก็ฝากประชาสัมพันธ์ด้วยว่า ทุกโรงภาพยนตร์ของเมเจอร์เรามีระบบดูแลความปลอดภัยดี อยากจะฝากทุกคนไปที่ไหนยังไงมันก็อันตรายเหมือนกันถ้าคิดว่ามันอันตราย ไปห้าง ไปร้านอาหารก็อันตราย เพราะฉะนั้นเนี่ย ให้แบ่งใจมาสนับสนุนหนังไทยบ้าง รักข้ามคานก็เป็นเรื่องแรกของมิสแกรนด์ที่ทำ เมื่อทำแล้วก็ต้องทำให้มันเรียบร้อยอย่าให้ใครมาตำหนิติเตียนได้ ก็อยากให้ทุกคนให้กำลังใจว่าพลังที่เราส่งไป มันมีการตอบรับกลับมาครับ”
ออกมาดูหนังกัน
โควิดรอบ2?
“รอบสองในใจจริงๆผมว่าคงจะไม่ถึงกับรอบสองถึงแม้จะมีกระแสอียิปต์ มีทั้งซูดาน ก็ต้องโทษ ผู้ใหญ่ในการดูแลความปลอดภัยเราก็พูดกันตรงๆ จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เหมือนผมเจ้าของมิสแกรนด์ต่อให้พนักงานของผม ทำผิดจะบอกว่าเป็นเรื่องของพนักงานคงเป็นไปไม่ได้ ต่อให้คนดูแล้วตกลงไปขาหัก จะบอกว่าเป็นเรื่องของคนๆนั้นที่ลงไปขาหักเอง คงเป็นไปไม่ได้ ยังไงก็อยากให้ผู้ใหญ่ทุกคนอย่างแรกคือ จะต้องใช้มาตรฐานเดียวกันและออกมารับผิดชอบ ออกมายอมรับว่านี่คือความบกพร่อง คนเราถ้าเกิดการ ปฏิเสธ มันต้องแก้ไขอ่ะ ไม่อยากจะต่อสโลแกน คือผิดก็ต้องแก้ไข เพราะถ้าแก้ตัวมันไม่เวิร์กอ่ะ ผมว่าตอนนี้คนไทยเข้าใจนะว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เราต้องช่วยกันทำมาหากินต่อไป หาความสุขและความปลอดภัยด้วยตัวเอง โฆษกก็บอกการ์ดอย่าตก เราก็ไม่เคยตกกันนะ แล้วก็ตามสเต็ป คนที่ตกคือผู้ที่ควบคุม เพราะฉะนั้น ต้องบอกไปอย่างผู้ควบคุมว่าการ์ดอย่าตก แล้วก็น้อมรับในความผิดพลาดไม่อยากให้ปฏิเสธ ถ้าปฏิเสธแล้วทำอย่างนี้ ครั้งต่อไปก็ปฏิเสธได้ กลายเป็นว่ามีซ้ำซ้อนมันจะยิ่งแย่ไปใหญ่ ครั้งนี้เป็นบทเรียนต้องยอมรับและจัดการกับมัน และต้องเป็นหน้าชื่นตาบานว่ามันเป็นความรับผิดชอบของผู้ใหญ่สูงสุดที่ดูแลบริหารด้านนี้อย่าปฏิเสธ ”
กระทบมิสแกรนด์ที่เรากำลังจะจัด ?
“ตอนนี้ทุกอาทิตย์ก็มีการจัดไฟนอลอยู่แล้ว ตอนนี้สำหรับใจผมผมสู้อยู่แล้วเฉยๆ ทุกอย่างมันต้องเดินหน้าแล้วพวกเราทำดีอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นมารัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบด้วยนะครับ พูดตรงๆปัจจุบันค่าเสียหายก็ไม่มีรายได้มานาน เศรษฐกิจถดถอยถ้าสมมุติดูแลเราไม่ดีอย่างนี้ มันก็ถือเป็นความไปเหมาะสมเพราะพวกเรา ช่วยกันดูแลอยู่แล้ว ก็อยากให้เข้มงวดมากขึ้นไม่อยากให้มีข้อยกเว้น เพราะการยกเว้นมันสร้างความเหลื่อมล้ำ สร้างช่องว่างทำให้เราลำบากได้”
รักข้ามคาน
วัดดวง?
“วัดดวงอยู่แล้วครับ ไม่หยุดได้ได้ทั้งสิ้น แต่รัฐบาลประกาศยังไง เราก็ปฏิบัติตามนะครับเพราะเราไม่สามารถฝ่าฝืนกฎหมายได้ แต่อย่างไรก็แล้วแต่ในใจไม่เคยถอยครับ เพราะว่าถ้าเราถอย ทุกอย่างก็ถอยทุกคนก็ถอย ถอยกันอยู่ทุกวันแล้วใครรับผิดชอบครับ ไม่เห็นมีใครรับผิดชอบเพราะต่างคนต่างถอยไปกันเรื่อยเรื่อยมันก็ไม่ไหว ”
กลับรอบสองเตรียมมือรับการยังไงบ้าง?
“แย่สุดคือมิสแกรนด์นะครับ คือปิดฮอล์หนึ่งไปเป็นสตูดิโอ แล้วไม่ให้คนเข้าก็ยังคงประกวดอยู่ นี่คือสุดยอดแล้วถ้าไม่ได้จริงๆก็ประกวดเป็นสตูดิโอ คือมีการเว้นระยะ อาจจะต้องใส่เฟซชิลแล้วเดินห่างกัน เต้นกันไกลๆ เสร็จเรียบร้อยก็ประกาศผลกันไกลๆ ออกอากาศช่องวันตามปกติ 21.15 น. วันที่ 19 กันยายน ไม่หยุดไม่มีวันถอยหลังเพราะผมบอก สัญญาณแห่งการถอยหลังคือสัญญาณแห่งความล่มสลาย เพราะฉะนั้นเราทุกคนทุกอาชีพ มันมีแต่เรื่องความถอยหลัง เรื่องของคนตกงาน ตอนนี้สิ่งที่น่าหวั่นใจก็คือมีการยื่นล้มละลายเยอะมาก ในประเทศไทยเดี๋ยวหลังวันที่ 31 สิงหาคม ผมว่าน่าจะมีเยอะเพราะเป็นหลังช่วงการปลดปล่อย ระหว่างนโยบายการช่วยเหลือหนี้ ทุกคนต้องไม่ประมาท อยู่กับบ้านไม่ได้นะทุกคนต้องออกมาทำมาหากิน สร้างเม็ดเงินสร้างเงินให้มันหมุนไปครับ ต้องช่วยกัน
สู้ข้ามอุปสรรค
ก็เห็นใจคครับ ก็อยากให้มันเคลียร์ถ้าเกิดมันไม่ได้จริงๆ มันเป็นเรื่องของการปกครองเราไม่สามารถฝืนได้ คาดว่าเหตุการณ์นั้นคงไม่เกิด ตอนนี้ผมอยากให้ผู้ใหญ่ยุตติกฎอนุญาตในกรณีพิเศษ ล็อกดาวน์ตรงนั้นทิ้งไปแล้วทุกอย่างมันจะดีนิ่ง สิ่งที่มีอยู่ตอนนี้ก็ไล่บี้มันให้จบแค่นี้เองครับ ถ้าเกิดมันไม่แก้ตรงนี้เราไม่รู้ว่ามันจะแลนด์ดิ้งตรงไหนอีก เพราะฉะนั้นมันก็เป็นปัญหา”
อ่านข่าวเพิ่มเติม : ณวัฒน์ แจงยิบ สาเหตุย้ายเวทีมิสแกรนด์ฯ ไปช่อง ONE31
