วันที่ 3 ส.ค. ที่ บ.ไฟว์สตาร์ฯ ย่านพระราม 9 ป๊อก-ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ ศิลปินและนักธุรกิจหนุ่มทายาทเซ็นทรัล ให้สัมภาษณ์ในงานบวงสรวงหนังโปรเจ็กต์ใหญ่ “ตี 3 ภาค 3” ถึงการมารับเล่นหนังครั้งแรก รวมถึงเรื่องที่ล่าสุดไปออกรายการ “3 แซบ” คู่กับว่าที่เจ้าสาว มาร์กี้-ราศรี บาเล็นซิเอก้า แล้วโดนคนแซวว่ายังไม่ทันแต่งก็เริ่มจะเข้าสมาคมกลัวว่าที่เมียแล้ว

ถามถึงงานหนังเรื่องแรก “ตี 3 ภาค 3” ป๊อก-ภัสสรกรณ์ บอกว่า “ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาเล่นหนัง แล้วก็เป็นหนังผีด้วย ทั้งที่ตัวเองเป็นคนกลัวผีในระดับหนึ่ง แต่ที่ตัดสินใจรับเพราะกี้(มาร์กี้-ราศรี)บอกว่าตอนถ่ายจริงๆ แล้วมันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น แล้วก็สว่างมาก และคนก็เยอะแยะ ถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์แบบใหม่ซึ่งก็ต้องลองดู การเตรียมตัวก็น่าจะเป็นเรื่องการแสดงเพราะพี่ที่เป็นผู้กำกับบอกว่ามันไม่เหมือนกับละครเลย ละครจะมี 3 กล้อง ถ้าเล่นผ่านครั้งเดียวก็อยู่เลย แต่หนังต้องเล่นซ้ำๆ กันเพราะมีกล้องเดียว ฉะนั้นต้องทำการบ้านเยอะ อย่างตัวละครที่ผมเล่นก็แตกต่างจากตัวจริงมาก คาแร็กเตอร์จะเป็นคนที่นิ่งมากๆ ไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ แต่จะสื่อสารด้วยหน้าตาและการแสดงออกมากกว่า”

กลัวผีแบบนี้เวลาไปถ่ายจริงๆ ต้องพกเครื่องรางไปด้วยไหม “ไม่ครับ ปกติผมเป็นคนไม่ใส่สร้อยพระอยู่แล้ว แต่ก่อนนอนสวดมนต์ทุกวัน ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเจอและก็ไม่อยากเจอด้วยครับ(หัวเราะ)”

ดูจะมาลุยงานในวงการบันเทิงเยอะ แล้วกับธุรกิจของครอบครัว “ผมชอบงานแบบนี้มากกว่าที่จะนั่งอยู่ในออฟฟิศ เวลาอยู่ออฟฟิศ ผมจะหันมาดูนาฬิกาตลอดว่ากี่โมงแล้ว ใกล้จะได้เวลาเลิกงานหรือยัง ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้มันก็ไม่น่าจะใช่สิ่งที่ผมอยากทำ แต่การทำงานในวงการบันเทิงมันได้ออกข้างนอก เจอคนนั้นคนนี้มันก็พาให้รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วดีและก็สนุกด้วย ส่วนธุรกิจครอบครัวทุกวันนี้ก็เหลือแค่อาทิตย์ละครั้งเพราะไม่มีเวลาเลย ผมเคลียร์กับที่บ้านชัดเจนแล้ว คุณพ่อบอกว่าขอแค่เข้ามาประชุมด้วยกันเพื่อที่อย่างน้อยจะได้อยู่ในวงโคจรตรงนี้บ้าง ถ้าเกิดมีไอเดียอะไรที่อยากจะเสนอเขาก็จะได้มุมมองจากคนที่ต่างรุ่นนิดนึง”

ก่อนหน้านี้เคยบอกว่าปีนี้จะทุ่มให้กับธุรกิจครอบครัวเยอะหน่อย “แต่เท่าที่ดูจากตอนนี้กลับกลายเป็นตรงกันข้ามไปแล้ว(หัวเราะ) เดี๋ยวลองดูว่าจะยังไงเพราะชีวิตตอนนี้ก็แฮปปี้ดี”

ถามถึงเรื่องที่ล่าสุดไปออกรายการ “3แซบ” คู่กับมาร์กี้ หลายคนบอกว่ายังไม่ทันแต่งก็เริ่มจะเข้าสมาคมกลัวว่าที่เมียแล้ว “จริงๆ ผมว่าต้องคิดเป็นอีกแบบหนึ่ง(หัวเราะ) ไม่ได้กลัวแต่เคารพและเกรงใจซึ่งกันและกัน ผมเป็นคนเชื่อเรื่องกรรมด้วย อะไรที่ไม่อยากเจอหรือเสียใจตัวเราก็ไม่ควรไปทำให้เขารู้สึกแบบนั้น ถ้าผมไม่ทำ เขาก็คงจะไม่ทำอย่างนั้นกับผมเหมือนกัน”

ความคืบหน้าเรื่องงานแต่งงานไปถึงไหนแล้ว “ถ้าเป็นเรื่องชุดแต่งงาน ในส่วนของผมได้มาเรียบร้อยแล้ว 2 ชุด แต่ว่าชุดไทยที่ใช้ในงานหมั้นยังไม่ได้ติดต่อ ต้องรอให้กี้ติดต่อให้ แต่ของกี้ยังไม่ได้ เท่าที่ทราบเหมือนเขาจะดูทั้งที่เมืองไทยและต่างประเทศ แต่ไม่ได้โซนยุโรปอะไรขนาดนั้น น่าจะเป็นแถวๆ บ้านเรานี่แหละครับ”

วางงบไว้เท่าไหร่ดีสำหรับชุดเจ้าสาว เพราะหลายคนคิดว่าจะสูงถึงสิบล้านไหม “อู้ย…ไม่ไหวมั้ง(หัวเราะ) ผมว่าเอาตามความเหมาะสม ครั้งหนึ่งในชีวิตเขาก็อยากให้เขาแฮปปี้ แต่ก็ไม่ใช่แบบเวอร์วัง เพราะถ้าเอาเงินไปใช้กับตรงนั้นในเวลาไม่กี่ชั่วโมงและใช้ครั้งเดียวด้วยก็ไม่ได้คุ้มกัน ฉะนั้นเอาเท่าที่ตัวเองแฮปปี้และมีความสุขก็พอ”

ตอนนี้เหลือกระบวนการไหนที่ต้องรีบทำ “ตอนนี้ทำการ์ดแล้ว แต่ยังไม่ได้สรุปแบบอะไรกัน ของชำร่วยติดต่อแล้ว รายชื่อแขกของผมเสร็จแล้ว แต่ของคุณแม่ยังไม่เสร็จ อะไรที่ผมจะเคลียร์ในส่วนของตัวเองได้ก็พยายามรีบทำเพราะรู้สึกเครียดเหลือเกิน เรียกว่าตอนนี้ก็คุยกันเรื่องแต่งงานทุกวันเลยครับ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน