สีดา พัวพิมล เปิดใจ สู้ชีวิตเพียงลำพังนับ 10 ปี ท่ามกลางหนี้รอบตัว

สีดา พัวพิมล-ชีวิตสุดรันทดมาต่อเนื่อง สำหรับ อดีตดาราดัง สีดา พัวพิมล แม่ของอดีตพระเอก อ๊อฟ อภิชาติ หรือ คีอานูรีฟส์เมืองไทย ที่เสียชีวิตกะทันหันไปแล้ว ก่อนหน้านี้ แม่สีดา อดีตดาราที่มีผลงานไม่ต่ำกว่า 60 เรื่อง ชีวิตพลิกผัน พยายามดิ้นรนเลี้ยงตัวเอง อย่างยากลำบาก รวมทั้งผ่านมรสุมต่างๆ นานา ก่อนที่ล่าสุด แม่สีดา พัวพิมล ได้กลับเข้าวงการอีกครั้ง โดยกลับมารับงานเล่น MV เพลงของนักร้อง “ปราโมทย์ วิเลปะนะ” เพลง MOVE ON ซึ่งก็ถือว่าเป็นงานแรกในรอบ 10 ปีที่หายไป

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน
ล่าสุด (6 ส.ค.63) แม่สีดา พัวพิมล ได้เปิดใจกับข่าวสดออนไลน์ว่า “สภาพจิตใจตอนนี้ดีขึ้นแล้วแต่ถ้าพูดถึงความลำบาก มันก็คงยังลำบากอยู่ยิ่งช่วงมาเจอโควิด ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่เพราะลำพังที่ไม่มีโควิด ก็แย่อยู่แล้ว แต่ก็ยังมีงานทำเพื่อประทังชีวิตไป โดยก่อนที่จะโควิดระบาด ตนได้ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ที่ร้านอาหาร ซึ่งตนไม่ได้เลือกงาน จะให้ทำอะไรก็ได้ เพื่อที่จะได้เงินมาประทังชีวิต แต่พอมาเจอช่วงโควิดทุกอย่างก็หยุดหมด ทำให้ตนต้องหยุดตามไปด้วยจนถึงกระทั่งตอนนี้ ซึ่งมันก็ทำให้ตัวเองลำบากมากๆ เพราะมีตัวคนเดียว อยู่คนเดียว หาเงินคนเดียว”

ถามว่ามาทำงานงานแบบนี้นานแค่ไหนแล้ว “แม่สีดาบอกว่าก็ไม่นานมาก เพราะงานมันหายาก ไม่รู้ว่าจะด้วยวิบากกรรม หรือชะตากรรมอะไรก็ไม่รู้ คนจะไม่ค่อยกล้าจ้างตน หรือเพราะสื่อด้านลบที่เคยออกไป หรือเพราะอะไร ตนก็ตอบไม่ได้ แต่ว่าก็ยังมีเพื่อนฝูงยื่นมือเข้ามาช่วยบ้าง แล้วตอนนี้ไม่ว่าใครจะจ้างทำอะไรตนก็ทำหมดทุกงาน ”
“ตอนนี้ก็เริ่มกลับเข้ามาในวงการบันเทิง โดยกลับมารับงานเล่น MV เพลงของนักร้อง ปราโมทย์ วิเลปะนะ เพลง MOVE ON ซึ่งก็ถือว่าเป็นงานแรกในรอบ 10 ปีที่หายไป ก็รู้สึกว่าดี มีความสุข ได้เจอนักแสดงรุ่นเก่าๆ รุ่นน้องรุ่นลูก คนที่เคยได้รู้จักกัน ก็เข้ามากอดกัน ในกองอาหารการกินก็อร่อย สะอาด ดูดี แล้วก็ทีมงานทุกคนก็ดูแลตนดีมาก พร้อมอ้าแขนรับอย่างดี ให้เกียรติ ตนก็เลยมีความรู้สึกว่า ก้าวเข้ามาไม่มีใครทำตัวแน่นิ่งหรือไม่อยากคุยกับตน ซึ่งทำให้ตนเหมือนมีความรู้สึกว่าเป็นคนใหม่ที่ได้ก้าวเข้ามาในวงการ และการที่ได้เข้ามาเล่นเอ็มวี ก็ถือว่าดีได้เงินไปจ่ายค่าเช่าห้อง ที่ทุกวันนี้ก็เช่าห้องอยู่ลำพังเพียงคนเดียว เป็นห้องเล็กๆ เช่าไว้2 ห้องราคาตกต่อเดือนก็ประมาณ 6000 นิดๆ ซึ่งในบางเดือนก็รู้สึกว่าช็อตบ้าง บางเดือนก็ค่าใช้จ่ายเยอะทำเครียด”


“อย่างบางคนถามว่าทำไมดูผอม นี่เป็นสาเหตุ เพราะตนเป็นโรคเครียดนอนไม่ค่อยหลับ ค่อนข้างคิดมาก คิดวนอยู่คนเดียวว่าทำไมชีวิตถึงกลายมาเป็นแบบนี้ แต่ที่ผ่านมาก็จะแก้ปัญหาด้วยตนเองและแก้ปัญหาอย่างถูกต้อง เช่นการเอาของใช้นั่นนี่ของตัวเองไปขาย”

“ที่ผ่านมาคนในวงการที่เคยรู้จักก็มียื่นมือเข้ามาช่วย แต่ว่าส่วนใหญ่ก็จะติดต่อตนไม่ได้ เพราะไม่มีเบอร์ตน และตนก็ไม่ได้ติดต่อใคร ไม่ได้ไปมาหาสู่อะไรกับใคร รวมถึงตัวเองก็ไม่อยากจะไปรบกวนใคร ไม่อยากโทรไปหาใคร เพราะว่าอยู่ในสภาพแบบนี้ตนไม่อยากให้คนอื่นมีความรู้สึกว่าตนจะไปรบกวน ก็คือมีความเกรงใจ”








Advertisement

“แต่ในขณะเดียวกันทางเพื่อนบางคนบางกลุ่ม นักแสดงบางกลุ่มเก่าๆ ก็จะคิดถึงตอนชวนไปกินข้าวพาไปเลี้ยงแล้วก็ มีเพื่อนๆ ที่เคยคบกันตั้งแต่สมัยอายุ 17-18 ก็จะยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือกันบ้างในด้านของการให้ความอบอุ่น ให้คำว่าเพื่อนมันยังคงอยู่เหมือนเดิม แต่ตนก็จะไม่ได้ไปรบกวนเรื่องเงินเรื่องทองอะไร ของเพื่อนๆ”

“รวมถึงช่วงนี้ที่กำลังมีข่าวว่าลำบาก ก็มีเพื่อนทักเข้ามาหามากมาย ตนก็รู้สึกว่าสื่อนี่ดีนะ มีทั้งทั้งทางบวกแล้วก็ทางลบ คือในส่วนที่ดีก็คือเพื่อนได้กลับเข้ามาหาเราบ้าง เข้ามาถามไถ่ว่าทำไมเราถึงลำบากขนาดนี้ เพราะว่าบางคนก็ไม่คิดว่าเราจะลำบากขนาดนี้ ก็มีความรู้สึกอยากจะยื่นมือเข้ามาช่วยเรา ส่วนสาเหตุว่าที่ผ่านมาที่ไม่ค่อยออกไปข้างนอกหรือติดต่อใครเลยนั้น เป็นเพราะว่าอยากจะอยู่เงียบๆ และดูจังหวะและโอกาสที่จะลุกขึ้นมาสร้างตัวเองได้ ตนไม่ได้เงียบเพื่อหายไปไหนแล้วไม่ได้หายไปร่ำรวยตรงไหนก็อยู่แบบระทมทุกข์กับชีวิตตัวเอง เพราะบางทีก็ไม่อยากจะไปบอกใคร หรือต้องไปอธิบายกับใคร ให้มากใน คิดแค่ว่าเมื่อเราล้มเอง เราก็ต้องลุกเอง ต้องยืนด้วยตัวเองให้ได้ ซึ่งตนก็ล้มมาเป็น10 กว่าปีแล้ว แต่ก็คิดว่าช่วงนี้น่าจะดีขึ้น เพราะว่าข่าวที่ออกไปก็มีน้องน้องๆลูกๆในวงการให้ความสนับสนุน ก็เลยคิดว่าบุญกุศลของเราก็คงยังมีอยู่เหมือนกัน ไม่งั้นก็คงไม่ได้มาเจอพวกเขาอีก”

“ส่วนเรื่องของหนี้สินตนก็ยังมีอยู่ ซึ่งไม่เป็นหนี้เดิมๆ หนี้นี่เก่าๆ และตนก็ไม่อยากจะไปสร้างนี่หนี้อีก ตอนนี้คิดอย่างเดียวว่าจะสร้างตัว ตอนนี้อยากจะเก็บหอมลอมริบ ทำอะไรเล็กๆ เพื่อที่จะได้มีเงินเอาไปใช้คืนจ่ายคนโน้นคนนี้ให้มันหมดๆไปก่อนที่ตัวเองจะตาย เพราะว่าตอนนี้ก็ไม่ได้อายุน้อยๆแล้วก็คงมีชีวิตอยู่อีกไม่เท่าไหร่ เพราะฉะนั้นการที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบันนี้ แถมยังมีหนี้ ก็อยากจะใช้หนี้ให้หมดจะได้ตายตาหลับ”

“ที่ผ่านมาถามว่ามีคนเข้ามาทวงหนี้ไหม ก็ยังมีตลอด แต่ตนนั้นไม่สนใจว่าจะทวงหรือไม่ทวง แต่ตนไว้ในใจแล้วว่า ถ้าวันนึงตนมีหนทางที่จะกลับมาสร้างเนื้อสร้างตัวได้อีก เจ้าหนี้จะได้รับเงินคืนกันทุกคน ซึ่งที่ผ่านมาถามว่ามีคนเข้ามาทวงหนี้เลยได้ไหมก็ยังมีแต่ในจิตของตนนั้นไม่สนใจว่าจะกลัวหรือไม่ตัดต้นตั้งในใจไว้แล้วว่าถ้าวันนึงตอนมีหนทางที่จะกลับมาสร้างแล้วสร้างตัวได้อีกเจ้าหนี้จะได้รับเงินกันทุกคน ขออย่าเพิ่งใจร้อนกัน ตนจะใช้คืนทุกคนทุกบาททุกสตางค์อยู่แล้วเพราะไม่ได้เกิดมาเพื่อโกงใคร หรือหลอกลวงใคร ซึ่งหนี้ยืมมาหลายเจ้า รวมแล้วก็ทั้งหมดหลักหลายแสน”

“ซึ่งส่วนใหญ่ต้นก็กู้มาจากเพื่อนๆที่รู้จัก และที่กู้มาก็เพื่อเอาไปใช้จ่ายหนี้นอกระบบ ไม่ได้เอาไปเล่นการพนันหรือเล่นยาอย่างที่เคยมีกระแสข่าว ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าข่าวตรงนี้ไปเอามาจากไหน แต่ตนยืนยันเลยว่าไม่เคยเล่นการพนัน และไม่เคยเล่นยา ตนฟังแล้วเห็นแล้วก็เรียกว่ามันคือเรื่องไร้สาระมา คนที่พูดเหมือนตัวตลก ใครจะมารู้ดีเท่าตัวเราเอง”

แม่สีดา เล่าต่อว่า “ตนเป็นคนชอบทำบุญอยู่แล้วในช่วงโควิด ตนก็เลยไปแจกข้าวช่วย ต่ายสาย ธารอดีตคนรักของลูกชายผู้ล่วงลับ เพราะตนว่างก็คิดว่าไปทำประโยชน์ให้สังคมดีกว่า และอีกอย่าง ต่าย สายธาร ก็ดีกับตนมาโดยตลอด ดูแลตนดีมาในระดับหนึ่ง ไม่เคยทิ้งขว้าง และวันแม่นี้ก็เห็นบอกว่าจะมารับไปทานข้าว สำหรับตน ต่ายสายธาร เป็นคนน่ารักเสมอ”

“ส่วนข่าวที่ออกมาว่าในช่วงพี่ตนไปแจกข้าวและตกอับจนต้องกินข้าวแจกนั้น ตนก็ยอมรับว่าใช่ แต่ในขณะที่แจก ตนก็ไม่ได้กล้าไปหยิบโดยภาระการ แต่ด้วยที่ว่าข้างแจกมันเยอะ บางครั้งแจกแล้วเหลือ ก็เอามาทาน เพราะบางทีมันเหลือเยอะจริงๆก็เสียดาย”


“ส่วนเรื่องคดีฉ้อโกงที่ถูกฟ้องโดย โก้ ธีรศักดิ์ พันธุจริยา เมื่อหลายปีก่อนนั้นตอนนี้ทุกอย่างมันจบไปหมดแล้ว ซึ่งตนชนะคดีความทั้ง3ศาล ชนะอย่างขาวสะอาด และทั้งคู่ก็ต่างฝ่ายต่างอยู่ ไม่มีอะไรมาเกี่ยวข้องกันอีก และตนก็ไม่ได้ฟ้องกลับที่ทำให้เสียชื่อเสียง เพราะตนไม่ค่อยฝังใจกับอะไรอภัยให้กันไป ซึ่งถามว่าตอนนั้นที่กู้ยืมเงินอีกฝ่ายไปนั้น ตนเอาไปทำงาน ซึ่งขอแจงแค่นี้ เพราะมันเป็นอดีต ไม่อยากจะไปหรือฟื้น ตอนนี้อยากจะเดินหน้า เพราะยังมีสิ่งที่รับผิดชอบ”

“แล้วหลังจากนี้หากใครคิดว่าตนเหมาะสมกับบทอะไร หรือจะแม่ตาให้ทำอะไรในวงการก็นินดีที่จะรับ และขอขอบคุณล่วงหน้าด้วย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน