สายป่าน อภิญญา เอาจริง ฟ้องมือดีโจมตีธุรกิจ หลังได้รับความเสียหายหลายล้าน

สายป่านฟ้องแน่-จากกรณีที่นักแสดงสาวติสต์ สายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข ออกมาโพสต์ผ่านไอจีส่วนตัว ประกาศลั่นจะไม่ขอทนอีกต่อไปแล้ว หลังเจอคนให้ร้ายโจมตีธุรกิจตีนกบที่ตนเองกำลังเริ่มทำ โดยหอบหลักฐานที่มีทั้งหมดเข้าปรึกษาทนายเตรียมดำเนินคดี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด (13 ส.ค.63) นักแสดงสาวคนดัง พร้อมทนาย เกรียงชัย วิศิษฏ์สรอรรถ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงกรณี ดังกล่าว ณ สโมสร หมู่บ้านยิ่งรวยนิเวศน์ เนื่องจากเรื่องนี้ทำให้มีความเสียหายหลายล้าน

สายป่านฟ้องแน่

สายป่านฟ้องแน่

เล่าให้ฟังหน่อยว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร?
สายป่าน : ต้องบอกก่อนว่าหลายท่านอาจจะเห็นว่าช่วงหลังตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ป่านค่อนข้างคลุกคลีกับวงการดำน้ำ เพราะตัวป่านเองก็ชอบดำน้ำมากๆ เลยอยู่ในวงในของการดำน้ำมาสักระยะหนึ่ง แล้วป่านมีความสนใจในด้านธุรกิจ ซึ่งช่วงหลังมานี้ก็ได้ทำธุรกิจธุรกิจหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับอุปกรณ์ดำน้ำเป็นฟิน ตีนกบยี่ห้อ Alchemy จริงๆ ตัวป่านเองศึกษามาสักระยะหนึ่งแล้ว ค่อนข้างมั่นใจในแบรนด์นี้ก็เลยนำเข้ามา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องราวที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นวันที่ 16 มิ.ย.63 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กยูสเซอร์หนึ่ง สืบทราบภายหลังว่าเขาเป็นครูสอนว่ายน้ำที่สระแห่งหนึ่งในย่านรังสิต โพสต์เฟซบุ๊กเพื่อโจมตีธุรกิจที่ป่านทำอยู่

ทนาย : เขานำภาพซึ่งไม่ได้รับอนุญาต จากคนที่ซื้อของของสายป่านด้วย แล้วเขาก็เอาไปบิดเรื่องอีกเรื่องจนเกิดความเสียหาย ตัวป่านเองก็เป็นดารา ต้องใช้ชื่อเสียงในการทำมาหาได้ต่างๆ รวมถึงกิจการร้านกาแฟและกิจการที่ได้รับผลกระทบจริงๆ คือบริษัทนี้ที่ป่านประกอบกิจการ เดี๋ยวให้ป่านเล่าต่อ

สายป่าน : บริษัทนี้ เป็นบริษัทที่ป่านทำขึ้นมาเพื่อที่จะขายอุปกรณ์ดำน้ำโดยเฉพาะ การที่เขาโพสต์ภาพนั้นออกไปทำให้ประชาชนทั่วไป ความเข้าใจผิดว่าสายป่านหลอกขายของ ทำให้มีการรุมคอมเมนต์ ว่าเราไม่น่าเชื่อถือ สร้างความไม่น่าเชื่อถือและสร้างความเคลือบแคลงใจให้กับลูกค้าใหม่ และลูกค้าที่เคยซื้อของของเราไปแล้ว

สิ่งที่เขาพูดคืออะไร
สายป่าน : เป็นภาพถ่ายฟินกบดำน้ำ
ทนาย : ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการใช้งานไม่ได้เกิดจากตัวสินค้า จากสายป่านหรืออะไรเลย แต่เขาเขียนในทำนองว่าของที่ซื้อจากร้านนี้มีปัญหา ซึ่งจะทำให้คนเข้าใจผิด ในส่วนของบุคคล ซึ่งผมได้ตรวจเอกสารบางส่วนแล้วแต่ขออนุญาตไม่เอาให้ดู เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมตัวที่เราจะฟ้องภายในเดือนนี้ครับ พบว่ามีการยกเลิก สอบถามต่างๆ ทำให้ยอดขายเสียหายหลายแสนหลายล้าน

สายป่าน : หลังจากนั้นก็มีพี่ๆ ทักเข้ามาถามป่านหลายคนเหมือนกัน คือหลังจากเกิดเรื่องวันที่ 16 มิ.ย. ป่านยังไม่เห็น แต่ลูกค้าส่งเข้ามาให้ดูถามว่าเห็นไหมมีคนเข้าไปโพสต์แบบนี้ ป่านก็เลยตามเข้าไปดู ก่อนหน้านี้ป่านไม่เคยรู้จักเขามาก่อน ไม่เคยเห็นเขามาก่อน เพิ่งมาสืบทราบภายหลังว่าเขาเป็นครูสอนดำน้ำที่สระแห่งหนึ่ง และไม่ได้มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ดำน้ำสักเท่าไหร่หรืออาจจะมี อันนี้เราไม่ทราบ แต่การไปทางวิจารณ์หรือโพสต์ข้อความอะไรแบบนั้นเป็นข้อมูลที่ไม่ใช่ความจริง อย่างที่พี่ตั้มบอกว่ามันไม่ได้เกิดจากการกระทำของเรา แต่เกิดจากการใช้งานของลูกค้าจริงๆ ป่านเลยรู้สึกว่าเรื่องนี้ป่านต้องชี้แจงแถลงไข ต้องบอกว่ามันไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของป่าน สิ่งที่เขาโจมตีค่อนข้างส่งผลกระทบต่อชีวิตของป่านและบริษัทด้วย

ทนาย : ต้องบอกว่าป่านเหมือนสวมหมวก 2 ใบ ใบแรกคือบุคคลธรรมดา คือตัวสายป่านเองที่เป็นดารา อีกอันหนึ่งก็คือในส่วนที่เป็นกรรมการของบริษัท เพราะว่ากิจการเพิ่งตั้งต้น การที่เขายอดขายตกลง ไม่ได้เกี่ยวกับช่วงโควิด-19 เพราะตอนช่วงโควิดที่มีการคลายล็อกดาวน์ ก่อนจะเกิดเรื่องนี้ สินค้าของป่านขายดีมาก พอตรวจสอบเอกสารอันนี้ เรามีให้ดูได้เลย แต่พอเกิดเรื่องในช่วงเดือนถัดมา คือถูกแคนเซิลหมดเลย เสียหายค่อนข้างมาก แล้วถูกโจมตีหลายอย่างเลยทีเดียว การกระทำครั้งนี้เหมือนความผิดมันสำเร็จไปแล้ว เพราะว่าเขาก็ได้เขียนโจมตีใส่ร้ายขึ้นมา บุคคลภายนอกก็หลงเชื่อ มีคอมเมนต์ต่างๆ มากมาย ตรงนี้เดี๋ยวเราจะตรวจสอบเพิ่มเติมอีกว่า มีใครที่เข้าค่ายอีกบ้าง นอกจากคนนี้

เขาทำไปเพื่อต้องการดิสเครดิตเราหรือว่าอย่างไร
ทนาย : อันนี้ก็ยังไม่แน่ใจนะครับ เดี๋ยวยังไงต้องดูเจตนาของเขาด้วย แต่เจตนาที่เขากระทำการหมิ่นประมาทตรงนี้มันชัดเจนแล้ว แล้วก็เป็นการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วย โทษก็จะหนักขึ้นไปอีก เพราะว่าในส่วนที่เขาโพสต์เฟซบุ๊ก เขาโพสต์เป็นสาธารณะด้วย เปิดพลับบลิค มีคนเข้ามาคอมเมนต์ เข้ามาแชร์ ต่างๆ มากมาย แล้วภายหลังจากวันที่ 17 มิถุนายน ทางสายป่านก็มีคนส่งเข้ามาให้อีก ก็เพิ่งจะมาทราบภายหลัง ว่ามีการไปคอมเมนต์ข้อความลักษณะแบบนี้ ที่โจมตีทางสายป่านกับบริษัทอีก ก่อนหน้านี้ด้วย เพิ่งทราบ

เขาไม่ได้ใช้เอง แต่นำภาพของบุคคลอื่นมา
ทนาย : เหมือนกับว่าไปเห็นคนวางของไว้ แล้วมีรอยก็ถ่ายมา แล้วก็พิมพ์ข้อความ

เราได้ติดต่อเขาไหม
สายป่าน : หลังจากเกิดเรื่อง คือหลังจากสืบค้นแล้วว่าเป็นใคร ก็มีส่งข้อความไปบอกเขา ว่าการกระทำแบบนี้ของเขาคือไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของตีนกบที่แท้จริง แล้วก็บอกเขาว่าการกระทำแบบนี้ ทำให้คนหลงเชื่อ แล้วก็เข้าใจผิดได้ ป่านขอแจ้งให้ทราบเพียงเท่านี้ ป่านบอกเขาแบบนี้ เขาก็บอกโอเคครับ แล้วหลังจากนั้นมาก็มีการลบโพสต์ ซึ่งไม่ได้แก้ไขข้อมูล ไม่ได้กอบกู้ชื่อเสียงที่มันเสื่อมเสียไปแล้ว ป่านจำได้ว่าตอนนั้นคอมเมนต์มันประมาณ 65 คอมเมนต์ ที่มีการเข้ามาเมนต์กันอย่างสนุกสนาน
ทนาย : ต้องเข้าใจด้วยว่าพอเป็นการคอมเมนต์สนุกสนาน แล้วเป็นสาธารณะแบบนี้ แล้วเป็นดาราด้วย คนก็เข้ามาอ่านค่อนข้างมาก เรื่องมันก็ไปไกล ทั้งวงการดำน้ำและอื่นๆ ครับ เสียหายเยอะเลยทีเดียว

มูลค่าที่เสียค่าทั้งหมดเท่าไหร่
ทนาย : ที่ยกเลิกจริงๆ ถ้าฟ้องก็ยอดเยอะครับ เป็นแสนเป็นล้านอะ จริงๆ มันมีความเสียหายในส่วนอื่น ที่เกิดขึ้นจากเรื่องนี้ด้วย

เราจะฟ้องเขาข้อหาอะไรบ้าง
ทนาย : ที่แน่ๆ เลยก็คือหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาครับ เรียกค่าเสียหายด้วย ก็เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องอาญาอยู่แล้ว ตอนนี้คือกำลังสรุปยอดอยู่ครับ เพราะมันมีความเสียหายอื่นๆ ด้วย เนื่องจากแบรนด์ที่ป่านนำเข้ามา เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในประเทศกรีซด้วย ถ้าใครเป็นนักดำน้ำก็จะทราบ ว่าเขาเป็นตัวแทนจัดแข่ง แล้วก็เป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างแข็งแรงมีชื่อเสียง ก็กระทบหลายส่วนเลยทีเดียวครับ

เป็นล้านเลยใช่ไหม
ทนาย : เป็นล้านครับ แล้วก็ความผิดคือถึงเขาลบไปแล้ว แต่ความผิดมันสำเร็จไปแล้ว แทนที่เขาจะแสดงความรับผิดชอบต่างๆ ก็ไม่เลย กลับปล่อยให้ความเสียหายมันกระจายเป็นวงกว้างไปอีก”

จะเอาเรื่องถึงที่สุด
ทนาย : คือเหมือนทางน้องเขาต้องกอบกู้ชื่อเสียงกลับมาครับ เพราะเขาก็มาเวลานานแล้วนะที่จะเข้ามาดำเนินการตรงนี้ รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องต่างๆ ด้วย

เราได้คุยกับเจ้าของภาพฟิน(ตีนกบ) แล้วใช่ไหม ว่ามันเกิดความเสียหายจากตัวเขาจริงๆ
สายป่าน : ใช่ค่ะ
ทนาย : เรามีส่งตรวจแล็บด้วย

หลังจากข่าววันนี้ออกไป แล้วครูคนนั้นเขาติดต่อกลับมา เราจะเจรจากันไหม
ทนาย : ทางครูและบุคคลที่เกี่ยวข้อง จากที่ได้คุยกับทางน้อง และครอบครัวน้อง รวมถึงเรื่องของฟินในบริษัท ก็คิดว่าคงต้องไปคุยกันในศาลครับ

สายป่านรู้สึกอย่างไรบ้างที่ทำธุรกิจแล้วก็เจออะไรแบบนี้
สายป่าน : คือพี่ๆทุกคนจะรู้อยู่แล้วว่าหนูเป็นคนไม่ค่อยมีปัญหาอะไรกับใคร ป่านก็จะอยู่ของป่านแบบนี้มาตลอด เรื่อยๆ พยายามไม่ยุ่งกับเรื่องดราม่าต่างๆ แต่ว่าอันนี้มันไม่ได้กระทบกับแค่ตัวป่านคนเดียว ป่านเลยบอกว่าชื่อเสียงป่าน ป่านสะสมมาตลอดระยะเวลาการทำงาน ทำป่านคนเดียว ป่านไม่เคยโกรธเลยนะ ใครว่าป่าน ป่านไม่เคยโกรธเลย แต่ว่าในกรณีที่เป็นบริษัท และป่านมีคนอื่นๆ ที่ป่านต้องรับผิดชอบอีก ในบริษัทมันมีหลายคน ดังนั้นมันเสื่อมเสีย เวลาที่เขาทำแบบนี้ มันเสียทั้งองค์กร ถ้าเกิดป่านไม่ออกมาเพื่อที่จะทำให้ทุกคนรู้ว่า ฉันออกมากอบกู้ชื่อเสียงนะ อย่างน้อยคุณทำลายแต่ว่าฉันรู้สึกนะ ฉันกอบกู้นะ มันก็จะสนุกกับแค่การโพสต์ของคนบางคน ป่านรู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับป่าน ป่านเลยต้องออกมาทำอะไรแบบนี้ เพื่อเป็นเคสตัวอย่าง
ทนาย : เหมือนเคสนี้ก็ฝากเป็นตัวอย่างว่าเวลาจะโพสต์อะไร คือสังคมมีกฎหมายเป็นกติการูปแบบหนึ่ง ก่อนโพสต์อะไรก็อยากจะให้คิดนิดหนึ่ง เพราะบางทีภายใน 2 นาทีของคุณมันทำลายอะไรหลายๆ อย่างเกิดขึ้นได้ อย่างน้องเป็นหัวเรือแบกรับพนักงานไว้ต่างๆ ค่าใช้จ่ายต่างๆ โควิดก็ไม่อยากจะเลย์พนักงานออก ถ้าพี่เปิดกิจการสักกิจการหนึ่งกำลังรุ่ง อยู่ๆ โควิดก็แย่ประมาณหนึ่งแล้ว ก็ยังขายได้ขายดี แล้วอยู่ๆ มาเจอเรื่องนี้แล้วขายไม่ได้เลย มันหนักเหมือนกันนะครับ เพราะเขาก็สั่งของมาเพิ่มเยอะ จะลงทุนอีก โอเปอร์ชั่นคอร์สก็เยอะ

แต่ยังไม่คิดจะถอดใจ

สายป่าน : ไม่ถอดค่ะ คือป่านทำดำน้ำเพราะทำจากความชอบ ป่านพูดตรงๆ ว่าป่านรัก ป่านชอบ เป็นกิจกรรมที่ป่านมีความสุขมากๆ แล้วป่านก็ไม่เคย ฟิน(ตีนกบ) ที่ป่านเอาเข้ามา เพราะป่านดูตลาดแล้วว่ายังไม่มีใครเอาเข้ามา ถึงเอาเข้ามาก็เป็นการหิ้วเอาเข้ามา ซึ่งป่านก็อยากทำทุกอย่างให้มันถูกต้อง และไม่ได้รวบรัดขั้นตอนเะไร ทำทุกอย่างตามขั้นตอนทั้งหมดเลย อยากให้คนไทยได้ใช้ของดีๆ เลยตัดสินใจนำเข้า แต่พอมาเจอแบบนี้ ป่านก็รู้สึกว่า เอาวะ เราก็ต้องสู้ เราต้องพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเราจะทำให้ดีที่สุด
ทนาย : เพราะแพลนของน้องเขาที่เอาแบรนด์ตัวนี้เข้ามา เพราะแบรนด์มีชื่อเสียง และมีจัดแข่งด้วย และน้องเป็นคนรักทะเล เริ่มจากความชอบ เขาก็ตั้งใจว่าเผื่ออนาคตว่าแบรนด์นี้จะมาสร้างชื่อเสียง ทำจัดแข่ง จัดรายการท่องเที่ยวในประเทศไทย คือเขาวางแผนเป็นบิ๊กโปรเจ็กต์เลย ที่ค่อนดี แต่อยู่ๆมาเจอแบบนี้ ทำให้หลายๆอย่างหยุดชะงักด้วย

อยากฝากบอกลูกค้าที่หมดความเชื่อถือไหม ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นความผิดจากเรา
ป่าน : คือลูกค้า ตัวป่านเองได้คุยส่วนตัวไปบ้างแล้ว คือจริงๆ หลังเกิดเรื่อง ป่านเที่ยวไล่เช็กความรู้สึก คือที่ป่านทำ เพราะป่านแคร์ เพราะป่านไม่อยากให้ลูกค้าของป่านเค้ารู้สึกว่าป่านหลอกขาย เพราะคำพูดที่เขาใช้อ่ะ มันค่อนข้างสื่อไปได้ในแบบนี้ ป่านก็เลยพยายามไล่ถามลูกค้าทุกคนในระยะ 1-2 อาทิตย์หลังจากเกิดเรื่อง ป่านถามลูกค้าทุกคนว่า ของของลูกค้ามีปัญหาไหม ยังมั่นใจในสินค้าเราอยู่หรือเปล่า ซึ่งไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน ซึ่งถ้าหากมี เรายินดีที่จะดูแล แต่หนูคิดว่าไม่มี เพราะว่ามันอยู่ที่ลักษณะของการใช้งานของแต่ละคนด้วย เพราะว่าแต่ละคนก็จะมีคู่มือการใช้งานอยู่แล้วว่าควรจะใช้งานยังไง แล้วเคสนี้ก็คือเป็นเคสแรก ที่เกิดปัญหาขึ้น ดังนั้นป่านเชื่อว่า ลูกค้าหลายคนที่ได้ใช้ก็จะต้องมีความเชื่อมั่นว่าเป็นฟิน (ตีนกบ) ที่ดีจริงๆ
ส่วนในกรณีของลูกค้าที่ยกเลิกไปแล้ว จริงๆ หนูก็อยากจะบอกว่าหนูก็เสียใจ ที่ตัดสินเราจากโพสต์ๆ หนึ่ง ไม่เป็นไรค่ะ แต่ยังไงหนูก็จะพยายามทำแบรนด์นี้ต่อไปเรื่อยๆ นะคะ ถ้าเกิดในอนาคต มีความมั่นใจในตัวหนูก็ค่อยกลับมาว่ากันใหม่ แต่ว่าตอนนี้ก็ต้องแล้วแต่ผู้บริโภค ถ้าเกิดผู้บริโภคไม่เลือกเรา เราก็น้อมรับค่ะ ไม่เป็นไร

ป่านรู้สึกยังไงบ้าง พอมาทำธุรกิจจริงจังครั้งแรกก็โดนแบบนี้
สายป่าน : ใช่ อย่างที่ป่านบอกว่า ป่านไม่ค่อยได้ทำธุรกิจ ที่เป็นธุรกิจจ๋าขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ป่าน เพราะว่าก่อนหน้านี้ป่านมีร้านกาแฟเป็นธุรกิจแรก ก็เป็นธุรกิจครอบครัวน่ารักๆ เป็นอาหารซื้อมาขายไป การที่ป่านตัดสินใจทำ ป่านก็ศึกษาเยอะมาก ป่านใช้เวลา 2 ปีที่ดูที่มาที่ไปของแบรนด์ ดูความน่าเชื่อถือ แล้วก็ใช้เงินทุนประมาณหนึ่งเลยเหมือนกัน ก่อนที่จะตัดสินใจทำได้ เพราะฉะนั้นป่านก็ค่อนข้างชัวร์ ว่าเราอยากทำมันจริงๆ

ลงทุนไปเท่าไหร่เปิดเผยได้ไหม
ทนาย : ก็หลายล้านอยู่ครับ ก็ด้วยความที่ แบรนด์ alchemy มันเป็นอุปกรณ์ที่เพียวคาร์บอน มันก็จะน้ำหนักเบา แล้วน้องเขาเลือกของค่อนข้างดีจริงๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค ผมก็อยากฝากถึงลูกค้าที่ยกเลิกไป ให้ลองเช็กชื่อของสินค้าตัวนี้ในต่างประเทศก่อนก็ได้ เพราะมันค่อนข้างดีจริงๆ ปัญหามันไม่ได้เกิดจากสิ่งที่โพสต์ แต่โอเคว่าตอนนี้ความผิดมันสำเร็จไปแล้ว แล้วน้องก็เสียหายค่อนข้างมากแล้ว อยากจะให้ช่วยกลับมาอุดหนุนน้องหน่อย

ตั้งแต่ที่มันเกิดตั้งแต่ที่ทำธุรกิจมายังไม่เคยมีเคสไหน ที่เกิดจากปัญหาจากการขนส่งหรือการประกอบอะไรจากของทาง
สายป่าน : ไม่เคยค่ะ คือก่อนรับสินค้ามันจะมีการตรวจเช็คสินค้าอยู่แล้ว ก็ก่อนออกจากร้านไป ก็จะให้เขาดูน่าดูหลัง แล้วก็เซ็นรับสินค้าก่อนที่จะเอาของออกไปนอกร้านอยู่แล้ว ซึ่งคู่นี้มันก็ไม่ได้มีปัญหา แล้วเจ้าของฟิน(ตีนกบ)เอง ก็ได้ใส่ใช้งานจริงๆ แล้วในทะเล เราก็ยังมีรูปถ่ายคู่กันอยู่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน