ไม่ธรรมดาจริงๆ สำหรับ ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล ดารานักร้องชื่อดัง แม้ช่วงนี้จะได้กลับเมืองไทยหลังจากไปทำงานที่จีนมาพักใหญ่ ล่าสุดเจ้าตัวได้รับเชิญไปร่วมรายการ “Zhong can ting” (จง ชาง ทิง – Chinese Restaurant) ซึ่งยกกองมาถ่ายทำที่เมืองไทย โดยมี ‘เจ้า เหว่ย’ นางเอกชื่อดังจากซีรีส์ชุด “องค์หญิงกำมะลอ” ร่วมเป็นหนึ่งในพิธีกร
งานนี้หนุ่มไมค์ได้เสียงตอบรับจากแฟนๆ ชาวจีนที่ติดตามชมรายการ จนขึ้นท็อปฟีดและท็อปเสิร์ชของเว็บไซต์ชื่อดังของเมืองจีนอย่าง “เว่ยป๋อ” อีกด้วย
ข่าวสดออนไลน์ มีโอกาสพูดคุยเรื่องนี้กับหนุ่มไมค์ รวมถึงอัพเดตชีวิตส่วนตัวกับลูกชายสุดน่ารัก น้องแม็กซ์เวลล์ ซึ่งใกล้จะเข้าโรงเรียนแล้ว
ไปร่วมรายการที่มี เจ้าเหว่ย เป็นหนึ่งในพิธีกร
เป็นรายการ Zhong can ting เกี่ยวกับร้านอาหารจีน เขายกกองมาถ่ายที่เมืองไทย พอดีละคร Delicious Destiny ที่ไมค์เล่นอยู่เป็นของช่องที่ท็อปที่สุดในจีน คือช่องหูหนาน รับบทเป็นเชฟ ทีมงานเลยอยากให้ไปร่วมรายการเพื่อโปรโมตละครด้วย เลยมีโอกาสได้ไปร่วมและในฐานะของคนไทยที่เป็นแขกรับเชิญในร้านอาหารของเขา
วันนั้นก็จะได้ทำทุกอย่าง ไม่ว่าอาหาร ล้างจาน รับออเดอร์ เสิร์ฟอาหาร ร้องเพลง ตอนแรกไมค์ไม่รู้เลยว่าดาราที่จะไปร่วมงานด้วยเป็นใครบ้าง แต่พอไปเจอก็ตกใจ เพราะตัวใหญ่ๆทั้งนั้น อย่างตอนที่ได้ไปเจอเจ้าเหว่ยคือดีใจมาก ปลื้มอยู่แล้วเพราะโตมากับละครจีน ซึ่งซีรีส์ชุด “องค์หญิงกำมะลอ” เป็นหนึ่งในนั้น ไม่น่าเชื่อว่าคนที่เคยเห็นในทีวีตอนเด็กๆ วันนึงจะมีโอกาสได้ร่วมงานกันแบบกระทบไหล่เลย แรกๆก็เกร็ง แต่พอได้คุยกันคือเจ้าเหว่ยเป็นกันเองสุดๆ และที่สำคัญตัวจริงเขาสวยมาก มีช็อตที่เจ้าเหว่ยป้อนข้าวผมด้วย
ฟีดแบ๊กหลังไปออกรายการมาเป็นยังไงบ้าง
ดีทีเดียว ขึ้นท็อปฟีดและท็อปเสิร์ชของเว็บไซต์เว่ยป๋อของที่เมืองจีน เรียกว่าช่วงนี้จะเห็นตัวเองในสื่อจีนเยอะหน่อย อันนี้แค่ไปออกรายการ แต่เดี๋ยวเดือนหน้าละคร Delicious Destiny ที่ไมค์เล่นเป็นเชฟจะออกอากาศทางช่องหูหนานเหมือนกัน ถามว่าคาดหวังแค่ไหน มีเพื่อนคนจีนบอกไมค์ว่า ถ้าละครเรื่องไหนก็ตามที่ได้ออกอากาศช่องนี้ การันตีได้ว่าชีวิตหลังจากนี้จะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ มันเป็นช่องใหญ่มากจริงๆ ของที่โน่นครับ
เป้าหมายเรื่องงานที่วางไว้
ตอนนี้ผมไม่ได้มองแค่อยู่ในจีน แต่มองเรื่องของฮอลลีวู้ดด้วย อย่างเวลาถ่ายละครที่จีนก็จะพูดอยู่ 2 ภาษาคือ อังกฤษกับจีน เพราะผมต้องการฝึกภาษาอังกฤษเนื่องจากมันยังไม่ค่อยดี แล้วการที่ผมจะฝึกได้คือต้องใช้ทุกวัน ส่วนภาษาจีนตอนนี้ดีขึ้นมาก เวลาเล่นละครผมพูดภาษาจีนหมดเลยทั้งที่ไม่เคยเรียน เพราะผมต้องการที่ทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วย ในเมื่อผมไม่มีเวลาไปเรียนก็เลยจะเรียนระหว่างการทำงานนี่แหละ แล้วมันก็ได้ผล เพราะตอนนี้เริ่มฟังภาษาจีนค่อนข้างรู้เรื่องและพูดได้นิดหน่อย ขอกำลังใจแฟนคลับทั้งชาวไทยและชาวจีนด้วย อยากให้มารอดูกันว่า ผมจะไปได้สุดแค่ไหน จะพยายามทำให้เต็มที่ ไม่ให้เสียชื่อคนไทย แลจะเอาคนไทยไปอยู่ที่จีนให้ได้ครับ
กลับมาเมืองไทยสักพักนึงแล้ว
ประมาณ 2 เดือนนิดๆ แต่วันที่ 22 ส.ค. จะบินกลับจีนแล้ว จุดประสงค์หลักของการกลับมาเมืองไทยครั้งนี้เพื่อ ‘แม็กซ์เวลล์’ คือไมค์ตัดงานทุกอย่างหมดเลยเพราะอยากจะกลับมาจัดการเรื่องโรงเรียนของลูกด้วย ความตั้งใจของไมค์คือทำงานที่เมืองจีนเป็นหลัก แต่พอกลับมาเมืองไทยก็จะไม่โหมรับงาน เพราะอยากจะให้เป็นเวลาของครอบครัวไปเลย สำหรับเรื่องโรงเรียนก็ลงตัวแล้ว ไปดูมาหลายที่มากแล้วก็มาสรุปกัน ไมค์ให้สิทธิ์ซาร่า (คาซิงกินี) ตัดสินใจ เพราะเขาคือคนที่อยู่เมืองไทยเป็นหลัก ต้องเอาที่เขาสะดวก ขณะที่หลักสูตรการเรียนจะต้องดีที่สุดสำหรับลูกด้วยครับ
ต้องทำงานหนักมากขึ้นอีกไหม
ใช่ครับ ตอนนี้ไมค์วางอนาคตตัวเองใหม่ จากที่คิดถึงแต่ตัวเองคนเดียว คือมีชื่อเสียงและกอบโกย มันก็ไม่ใช่แล้ว แต่ไมค์มองว่านอกจากมีชื่อเสียงแล้วจะทำยังไงให้ไปต่อยอดได้เพื่อความมั่นคงในอนาคต ไมค์ตั้งใจว่าอยากจะลุยงานเต็มที่อีก 5 ปี แล้วก็เพลาลงแล้วเพื่อไปทำธุรกิจที่กำลังคิดเอาไว้อยู่ ต้องบอกว่าพอมีแม็กซ์เวลล์ชีวิตของผมก็เหมือนมีเป้าหมายชัดเจนขึ้น ตอนนี้ผมต้องการความมั่นคงครับ”
พัฒนาการของเแม็กซ์เวลล์หลังจากเจอกันครั้งนี้
พูดไม่หยุดเลย หูผมแทบดับ คือผมเอามาเลี้ยงเองเป็นซิงเกิลแด๊ดเต็มตัว กระเตงกันไปเที่ยวข้างนอกสองคนพ่อลูก วันก่อนก็ไปเล่นสไปเดอร์แมนกัน แล้วก็ป้อนข้าวลูกเอง คือเหนื่อยมาก เชื่อมั้ยผมไม่ได้นอนมาอาทิตย์หนึ่ง คือนอนวัน 1-2 ชั่วโมงเพราะตื่นมากลางดึกตลอด ตื่นมาวันละ 5-6 รอบเพราะพะวงมาก พอแม็กซ์เวลล์ขยับนิดนึงผมก็ตื่น แล้วพอตื่นก็นอนต่อไม่ได้ แต่เรียกว่าเป็นความเหนื่อยที่เป็นความสุข แต่ละวันหมดไปแบบมีความสุขดี ไม่มีอะไรเครียด ไม่ต้องไปไหนก็ได้ อยู่กับลูกก็สนุก แต่วันที่ 22 ส.ค. ต้องกลับจีนแล้ว เลยบอกลาเขาตั้งแต่ 20 ส.ค. เขาไม่รู้เรื่องหรอก เพราะห่วงแต่ของเล่น แต่ผมจะใจหายนิดนึง ดราม่าหน่อย ไม่อยากห่างกัน จริงๆ ผมต้องเอาลูกไปส่งคืนซาร่าตั้งแต่เมื่อวาน แต่ขอไว้อีกวัน เพราะเดี๋ยวจะกลับแล้ว
แฟชั่นล่าสุดที่ถ่ายคู่ ออม-สุชาร์ กระแทกต่อมจิ้นน่าดู
(หัวเราะ) ที่เมืองจีนนี่เป็นข่าวเยอะมากจนผมงง เขาชมกันว่าดูโรแมนติกดี ถามว่าเป็นการถ่ายแบบคู่กันที่ดูเซ็กซี่ที่สุดมั้ย อาจจะที่สุดเพราะสถานที่มันเป็นที่ทะเลด้วย ปกติถ่ายเล่มอื่นจะใส่เสื้อผ้าธรรมดา แต่เล่มนี้คือฟีลแบบไปทะเลจริงๆ ไม่ได้แต่งหน้าเลย ผมที่เห็นก็ทำเองคือปล่อยให้เซอร์ๆ ตอนแรกบอกทีมงานด้วยว่า ไม่ถอดนะ เพราะไม่ได้ฟิตเนสมานานมาก แต่สุดท้ายไปถึงทะเลแล้วจะไม่ถอดก็ไม่ได้ ช่างภาพก็บิลต์จนผมยอมถอดเสื้อ (หัวเราะ) โชคดีที่ผมยังมีซิกซ์แพ็กอยู่เพราะระบบเผาผลาญดี ต่อให้กินยังไงก็ไม่อ้วน
หลายช็อตดูหวานมาก ยังมีความเขินกันไหม
ไม่เขินแล้วครับ ถ่ายกันมาเยอะแล้ว แต่เรื่องที่คนจิ้นกันมากก็ห้ามไม่ได้ ไปจิ้นกับคนอื่นไม่ได้แล้วด้วย อาจเพราะเคมีต้องกัน แฟชั่นครั้งนี้ผมพอใจเพราะค่อนข้างมีส่วนร่วมเยอะในการเลือกรูป ส่วนเรื่องการโพสท่า ทางหนังสือเขาหามาให้ดูอยู่แล้วครับ