ดีเจ พล่ากุ้ง ฟ้องหุ้นส่วนธุรกิจกล้วยทอด หลังถูกโกง1ล้าน

ดีเจ พล่ากุ้ง ฟ้อง-วันที่ 7 ก.ย. ที่ ศาลแขวงพระนครเหนือ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ดีเจ.พล่ากุ้ง วรชาติ ธรรมวิจินต์ พร้อมด้วยทนายความ นายศิริชัย สากล่ำ และนายชัยสิทธิ์ ลักษณะศิริศักดิ์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องหุ้นส่วนธุรกิจกล้วยทอด ข้อหาฉ้อโกงเงิน จำนวน 1,000,000 บาท

ดีเจ พล่ากุ้ง ฟ้อง

ดีเจ พล่ากุ้ง ฟ้อง

จากกรณี เมื่อ 2 ปีก่อน ทางดีเจ.พล่ากุ้ง ได้มีการเซ็นสัญญาเพื่อร่วมธุรกิจเกี่ยวกับกล้วยทอดภายใต้ชื่อสินค้าแบรนด์หนึ่ง พร้อมจ่ายเงินร่วมลงทุนกับหุ้นส่วนรายหนึ่งเป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาท แต่หลังจากนั้นทางพล่ากุ้งกลับไม่ได้ผลกำไรในส่วนแบ่งตามที่ตกลงไว้ ตลอดจนทางหุ้นส่วนรายดังกล่าวเองก็หยุดผลิตสินค้าโดยไม่ได้เเจ้งล่วงหน้า ก่อนที่ทางพล่ากุ้งจะเดินทางไปสอบถามถึงรายละเอียดพร้อมเรียกร้องเงินจำนวน 1 ล้านบาทที่ลงทุนไป แต่กลับโดนบ่ายเบี่ยงและไม่ทำตามสัญญา จึงนำมาสู่การฟ้องร้องในครั้งนี้

โดย ดีเจ.พล่ากุ้ง เผยว่า “วันนี้มาขึ้นศาลครั้งแรกในชีวิตครับ ผมโดนฉ้อโกง จำนวนเงินประมาณ 1 ล้านบาทครับ จากเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ไปเจอกับน้องคนหนึ่งในรายการที่เอาผลิตภัณฑ์ของตัวเองไปแข่งในรายการ ว่าของใครดี ผมเป็นกรรมการฝ่าย เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ ปรากฎว่าเป็นกล้วยทอดยี่ห้อ เซ็กซี่ บานาน่า มาแข่ง เราหยิบกินแล้วก็อร่อยมาก คิดว่าชนะแน่นอน ปรากฎว่าชนะในรายการจริงๆ หลังรายการเราก็เลยไปคุยกับเขา ว่าเป็นใครมาจากไหน ทำไมอร่อยจังเลย คุยไปคุยมา เป็นรุ่นน้องที่ศิลปากร เรียนที่เดียวกัน พี่เป็กกี้เป็นกรรมการด้วย เดินมาบอกว่าทำไมไม่ทำธุรกิจร่วมกันเลย เป็นรุ่นน้องรุ่นพี่กัน เราก็ลองคุยดู ว่าสนใจมั้ยน้อง พี่มาเติมเต็มให้ ในส่วนที่เอ็งขาดอยู่ ทางนั้นก็บอกว่าดีครับ ได้เลยครับ ก็เลยมานั่งคุยกัน ศึกษางานกันนิดหนึ่ง จากนั้นประมาณ 3-5 เดือน ก็เลยหุ้นกัน เขาก็ร่างสัญญามาว่าให้ลงเงิน ผมก็ไว้ใจ คุยกันเรียบร้อย สูตรเรียบร้อย มีวางขายเรียบร้อย บอกผมว่ามีวางขายที่กูร์เมต์ พารากอน ที่เดอะมอลล์ เราก็ไปเช็คของมีขายจริงๆ ติดป้ายว่าเป็นสินค้าขายดีด้วย ก็เลยหุ้นไป เป็นเงินจำนวน 1 ล้านบาท สดๆ ถอนมาให้เลย เอาเงินของคุณแม่มาให้”

“ทำไปทำมา ในช่วงนั้นผมก็พยายามเอาไปแจกพี่ๆ เพื่อนๆ ในวงการบันเทิง แจกเป็นเบื้องหลังนะ ไม่ได้บอกว่ามีส่วนร่วม ทุกคนก็กินแล้วว้าว อร่อยโน่นนั่นนี่ แล้วเราก็หาโอกาสดีๆ มาให้หลายครั้งมาก เช่นติดต่อนักธุรกิจจากอเมริกามาเรียบร้อย เขากินแล้วเขาก็บอกว่าอร่อย ชอบดีลเลย ผมก็บอกว่าไปทำสัญญามาหน่อยว่าจะส่งออก ปรากฎว่าก็หายไป 5 เดือน ในไลน์กรุ๊ปก็เงียบ เราก็ถามว่าไปไหน ทำไมไม่ส่งสักที เขาก็บอกติดโน้นติดนี้พี่ ยังขอไม่ได้ แล้วสุดท้ายนักธุรกิจคนนี้ก็ส่งมาบอกว่าได้เจ้าใหม่แล้ว ไม่เอาแล้ว ของคุณช้ามาก แล้วก็ส่งรูปมาให้ดูว่ามีแบรนด์ใหม่ขายที่อเมริกาจริงๆ ก็เสียโอกาสไป”

“แล้วผมก็ไปคุยกับนักธุรกิจใหญ่ๆ มาเลย พี่ทรงพล เจ้าของทีวีไดเร็คมาให้นั่งคุย พี่เขาก็กินแล้วบอกว่าอร่อยดี ชอบ พี่เขาก็แนะนำว่าต้องทำอย่างนี้ๆ ถึงจะดีที่สุด แกให้ความรู้เยอะแยะมากมาย ผ่านไปอีก 3-4 เดือน ก็ไม่ทำอะไรอีก จนเราไปตามว่าทำไมคุณถึงไม่ทำอะไรเลย ทำไมถึงเงียบ เขาก็ตอบกลับมาว่าตอนนี้ผม ไปทำอสังหาริมทรัพย์พี่ ไปทำกับที่บ้าน ทางนี้ก็เลยไม่ค่อยได้ทำ แต่ก็ทำอยู่นะ ผมก็เลยถามว่ามันยังมีวางขายอยู่ไหม เขาก็บอกมีพี่ ขายดี ล่าสุดประมาณปีกว่า ผมก็เลยไปเช็ค ไปหาก็ไม่มี เลยถามน้องพนักงานว่ากล้วยทอดยี่ห้อนี้ยังมีขายไหม เขาก็ไปคีย์คอมหาให้ ปรากฎว่ายังมีชื่ออยู่ แต่สินค้าไม่ส่งมา 3-4 เดือนแล้ว น้องเขาก็บอกว่ากรณีที่ไม่ส่งสินค้ามีหลายกรณี อาจจะเปลี่ยนแบรนด์ เปลี่ยนชื่อ หรืออาจจะของไม่พอ หรืออาจจะไม่สั่ง ผมก็เลยไม่รู้ว่ากรณีไหน แต่ว่าของไม่มา”

รู้ตัวตอนไหน ว่าโดนหลอกแล้ว?
“ก็ตั้งแต่เราติดต่อไปเรื่อยๆ หาโอกาสมาให้เรื่อยๆ ด้วยความเป็นหุ้นส่วนกัน ปีใหม่ก็คือจะให้ผมเอาขนมไปแจก ถ้าปกติก็ต้องโทรมาหาผม บอกว่าเอาขนมไปแจกหน่อย แต่นี่โทรมา พี่พล่ากุ้งเอาขนมไปแจกไหมพี่ 100 ถุง โอนให้ผม 25,000 บาทด้วยนะพี่ค่ากล่องกับค่าขนม ผมก็งงว่านี่ขนมกูมั้ย แต่ก็โอนให้เขาไป 25,000 บาทนะ แล้วก็เอาขนมไปแจก ก็คือเงินเราเอง”








Advertisement

2 ปีที่ผ่านมา มีการทำอะไรบ้าง?
“ในสัญญาบอกว่าจะแบ่งเงินกันด้วย ปรากฎว่า 2 ปีที่ผ่านมา ผมไม่ได้เงินจากการขายขนมยี่ห้อนี้เลยแม้แต่บาทเดียว เราก็เอะใจนะ แต่เราก็ทำงานของเราไปเรื่อย จะบอกว่าผมโง่ก็ได้ ผมไม่ค่อยได้ตาม ก็คือโดนเลย”

เราติดต่อเขาไปก่อนไหมว่าจะฟ้อง?
“เราติดต่อไปเมื่อประมาณ 5-6 เดือนที่แล้ว ไปเจอกัน ไปนั่งไกล่เกลี่ย ว่าจะเอายังไง นี่คุณโกงผมนะ ผมก็พาทนายสองคนไปด้วย แต่ฟอร์มว่าเป็นผู้ลงทุน ทำทีว่าจะมาช่วยเสริมตรงนี้ ช่วยเล่าประวัติมาหน่อย ว่าทำไมคุณถึงไม่ทำต่อ เขาก็เล่าว่าขอโทษทีพี่ ผมแบ่งเงินไปทำอสังหาริมทรัพย์ส่วนหนึ่ง เขาพูดเลยว่าแบ่งเงินผมไปทำส่วนหนึ่ง ผมก็แอบบันทึกคลิปเสียงไว้ด้วย แล้วก็เล่ามาว่าเงินหาย เงินไม่พอ คุยไปคุยมาทนายก็เปิดเผยตัวออกมาในโต๊ะนั้นเลย”

“วันนั้นคุยกันเขาบอกมาจะใช้ 5 แสนบาท ปรากฎว่าหลังจากนั้น เราพาเขาไปลงบันทึกประจำวันที่สน. หลังจาก 5 เดือน วันนั้นถึงวันนี้ไม่มีโทรศัพท์แม้แต่สายเดียวมาถึงผม เงินก็ยังไม่ได้เลย จนผมต้องฟ้องแล้ว ก็เลยทำเรื่องฟ้องไป ก่อนจะถึงวันนี้ประมาณ 3 วัน เขาโทรศัพท์มา ตอนแรกผมโทรไปก่อนแล้วเขาไม่รับ ประมาณ 15 นาทีเขาโทรกลับมา คำแรกที่พูดกับผม ว่าไงเฮีย ผมบอกคุณอีกสามวันเราเจอกันที่ศาล เขาบอกโอเคเฮียเดี๋ยวเจอกัน เหมือนนัดไปกินข้าว ชิลจัง ผมไม่รู้ว่าด้วยความที่เราไม่มีลุกส์อำมหิตหรือว่าเราชิลๆ สบายๆ ทำให้เขารู้สึกชิลกับเรา หรือว่าเขารู้สึกสำนึกแล้วแต่ก็ยังทำสบายๆ หรือยังไม่สำนึกเราก็ไม่รู้ เมื่อกี้ได้เจอกันนิดนึง ก็เลยนั่งไกล่เกลี่ย ทนายบอกอยากให้ไกล่เกลี่ย ซึ่งเขาก็พูดเหมือนในวันที่ไปเจอกันที่ร้านกาแฟ ทำตัวเหมือนกันเลยเดี๋ยวผมใช้ให้ครับ เดือนนี้จะให้ 5 แสน”

จะยื่นฟ้องเรียก 5 แสน หรือหนึ่งล้านเท่าไหร่?
“ทนายบอกหนึ่งคือยื่นฟ้องเต็มจำนวน สองคือคุณใช้ต้องมีดอกด้วยนะ คุณจะผ่อนกี่เดือนก็แล้วแต่ต้องมีดอกด้วย แต่ผมก็ไปคิดแทนเขาว่ายุคนี้เงินทองหายาก ยังไม่รู้จะจบยังไง เขายังไม่ได้บอกอะไรมา ถ้าคิดจะฟ้องอาจจะไม่เต็มจำนวน คิดว่าช่วยกัน เงินแม่ปรึกษาแม่แล้ว”

ทนายศิริชัย “เราฟ้องคดีฉ้อโกง ยอมความได้สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ ค่าเสียหายที่เขาโกงไป 1 ล้านบาท รอเขาต่อรองก่อนครับ ถ้าต่อรองกันได้ก็ถอนฟ้องได้ถ้าเขาจ่ายเงิน”

ถ้าเขาจ่าย 5 แสน เรายอมจบเลยไหม?
“ไม่จบ ถ้าเขาจ่าย 5 แสน เงินผมหายไป 5 แสน แต่เงินก็ส่วนหนึ่ง สำหรับผมคือความรู้สึกมันเยอะมาก ผมให้ใจกับน้องเขาเยอะมากจริงๆ หาโอกาสมาให้น้องเยอะสุดๆ มาทำกันแบบนี้ผมรู้ไม่แฮปปี้ คนเรามันก็อยากได้เต็มจำนวนแหละ มันเสียความรู้สึกด้วย ถามว่าแนวโน้มจะไกล่เกลี่ยกันได้แค่ไหน มันอยู่ที่เขาแล้ว เพราะครั้งที่แล้วเขานั่งตัวเล็กมาก ไปโรงพักด้วยกันให้เขาเซ็นกำกับจะผ่อนเดือนเท่าไหร่เท่านั้นเท่านี้”

ถ้าไกล่เกลี่ยไม่ได้ เขาไม่ให้เงินจะยังไงต่อ?
ทนายชัยสิทธิ์ “เราก็ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ถ้าเขามีสิทธิ์ต่อสู้คดี ปฏิเสธหรือรับสภาพก็แล้วแต่เขาตามกระบวนการ”

พล่ากุ้ง “แต่น่าจะไม่ต่อสู้แล้วล่ะ เพราะหลักฐานแน่นขนาดนี้ ผมมีทั้งคลิปและไลน์ที่คุยกันทั้งหมด ผมคิดว่าเขาอาจจะไม่ได้โกงเรา ด้วยความเป็นเพื่อนทำด้วยกันมา ใช้คำว่า พลั้งเผลอ ไม่มีหรอ ถ้าคนมีเงินก็คงใช้ไปแล้ว หรือว่าเขาเหนียวหนี้ ก็หวังจะได้เงินคืน จริงๆผมไม่ใช่คนใจไม่ไส้ระกำ จะต้องให้เขาติดคุก ผมไม่อยากให้มาถึงจุดนี้ด้วยซ้ำ แต่เขาบิดพลิ้วกับเรา ไม่รู้จะใช้ไม้ไหนแล้ว เงินมันตั้งล้าน มันไม่ใช่น้อยๆ ยุคนี้เงินล้านมันหาไม่ได้ง่ายๆ แล้วมันเงินแม่ผมด้วย ผมมาตามเงินแม่ผมอยู่”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน