ไอซ์ อามีนา ถูกทักระวังอุบัติที่หน้า ผวาไฟกองถ่าย

วันที่ 19 ต.ค. ไอซ์ อามีนา กูล เดินทางมาร่วมพิธีบวงสรวงละครเรื่อง บังเกิดเกล้า ที่ ช่อง อัมรินทร์ หลังจากจบพิธีนักแสดงสาว ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องฟาดเคราะห์เบญจเพส ถึงขั้นเสียเลือด แถมถูกทักระวังเกิดอุบัติเหตุที่ใบหน้า

ไอซ์ อามีนา

หนูโอเค

โดยนักแสดงสาวเผยอุบัติเหตุตกบันได เป็นแผลใหญ่ที่ส้นเท้าว่า “เรียกว่าฟาดเคราะห์ หลังจากที่เรามีเรื่องดีๆ เราก็ต้องโดนโน้นนี่บ้าง เหตุที่เกิดขึ้น มันอาจจะเกิดจากความซุ่มซ่ามของเราด้วย โทษดวงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องโทษตัวเราเองด้วย ตอนนี้ทำงานทุกวัน เวลาที่โฟกัสก็จะโฟกัสอยู่แค่อย่างเดียว อย่างอ่านบทก็จะอ่านบทอย่างเดียว ไม่ได้ยินเสียงรอบข้าง พอเราตัดทุกอย่างไป มันก็เลยลืมดูแลตัวเอง

มีคนเพิ่งทักมาว่าระวังอุบัติเหตุที่ใบหน้า หนูก็ระวังแค่ใบหน้า พวกไฟ เวลาถ่ายละครให้ระวังนะ เราก็โอเคจะระวังเรื่องใบหน้า แล้วหนูก็ลืม ระวังแค่ใบหน้า ตอนนี้ที่ขาก็มีแต่รอยขูดยาว ที่เท้าด้วย ที่เท้านี่ทำเองตกบันได แต่แผลรอยขูดนี้เกิดขึ้นในกอง เวลาใส่เสื้อผ้าที่กอง หนูลืมแกะคลิปออก มันก็ขูดยาว แล้วตอนนี้ก็เป็นแผลเป็นเรียบร้อย ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเป็นแผลเป็น”

ไอซ์ อามีนา

แผลจากการตกบันได

พอเป็นแบบนี้เรารู้สึกอย่างไรบ้าง
“ถ้าโมเมนต์ที่เราเหนื่อยๆ มันก็ร้องไห้นะ มันรู้สึกว่าทำไมต้องเจออะไรแบบนี้ด้วย เหมือนบ่นกับตนเอง วันนั้นกลับไปหนูก็ร้องไห้กับตัวเอง คือมันแอบเซง ก็โทรไปหาแม่ มันแค่เหนื่อย ความรู้สึกมันปนกันหลายอย่าง”

เราเชื่อว่ามันเป็นเพราะเบญจเพสไหม
“มีคนบอกว่า อาจจะเป็นเบญจเพสก็ได้นะ เพราะตอนเราอายุ 25 ไม่ได้เจออะไรมา ตอนนี้อายุย่างเข้า 27 อาจจะเกี่ยวด้วย เพราะว่ามันไม่ใช่ที่เท้า มีปากแตกด้วย ถ่ายละครเหมือนกัน ก็ปากบวมมากอง แล้วก็หัวไปฟาด เป็นอุบัติเหตุในกอง”

โดยเยอะเหมือนกัน
“ตอนแรกก็ไม่ได้เอะใจ แต่พอพี่เขามาถามว่านั่งคำนวนมันก็เยอะเหมือนกันนะ มีหัว ปาก เท้า ขา ยังไม่รวมพวกรอยช้ำต่างๆ ซึ่งรอยช้ำเดียวมันก็หาย”

ที่เราร้องไห้ ร้องเพราะอะไร
“มันจะมีโมเมนต์ที่บางคนกินแล้วจะหาย บางคนที่รู้สึกดาวน์ๆ แล้วจะหาย แต่หนูเวลาดาวน์ หนูจะร้องไห้ มันเป็นวิธีการระบายของเรา พอได้ร้องไห้ หนูก็จะรู้สึกว่าโล่ง มันไม่ได้รู้สึกเก็บแผล เพราะว่ามันชามากกว่า”

ไอซ์ อามีนา

เจ็บอีกแล้ว

ที่ร้องไห้ เพราะคิดว่าทำไม เราซวยขนาดนี้
“ไม่ได้คิดว่าทำไมเราซวยขนาดนี้ มันแค่ดาวน์ส่ะมากกว่า หนูไม่อยากคิดว่าชีวิตมันแย่ เพราะชีวิตหนูมันไม่ได้แย่ หนูแฮปปี้มาเรื่องงาน มันอาจจะเป็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ มันเป็นอะไรที่สะดุดนิดหน่อย หนูกลับคิดในทางที่ดี ถ้าไม่มีเรื่องนี้ มันอาจจะมีเรื่องที่ใหญ่กว่านี้เกิดขึ้นก็ได้

เพราะว่ามันมีเรื่องนี้เกิดขึ้น แล้วมันก็เสียเลือดไปแล้ว ฟาดเคราะห์ เหมือนกับที่เขาบอกว่าให้ไปบริจาคเลือด เพื่อเอาสิ่งไม่ดีออก นี่หนูก็บริจาคไปเจอ เพราะเลือดที่เท้าออกเยอะมาก เวลาเดินเลือดก็หยด”

เรากลัวเลือดไหม
“ตอนแรกเป็นคนไม่กลัวเลือด ตอนแรกที่มาถ่ายละครเรื่อง บังเกิดเกล้า พี่ผู้กับบอกว่าในเรื่องต้องเป็นคนที่กลัวเลือด เราก็คิดว่ากลัวเลือดมันจะต้องเล่นยังไง หลังจากที่หนูเป็นแผลตรงเท้า หนูรู้สึกกลัวเลือดมาก มันไม่ได้กลัว เห็นแล้วไม่อยากทำแผลให้ตัวเอง มันรู้สึกแยะๆ ด้วยว่าแผลมันใหญ่ แล้วก็มีไขมันให้เราเห็น มันลึก เขาถึงไม่เย็บให้ เขาก็ทำความสะอาด ให้แผลสมานเอง ตอนนี้แผลก็ตื้นขึ้นมา แต่พอไปโดนมัน มันก็จะแตก ก็พยายามไม่ไชนกันอะไร”

แต่ว่าในละครต้องใส่รองเท้าส้นสูง
“ทุกวันนี้เวลาถ่ายละคร ถ้าเลี่ยงใส่รองเท้าได้ ก็จะพยายามเลี่ยง เกรงใจผู้กำกับ เกรงใจคนอื่นเหมือนกัน เพราะเขาจะถ่ายรับเราแค่ครึ่งเดียว แต่มีบางฉากที่ต้องใส่รองเท้าส้นสูง เราก็ขอเขาว่าขอเป็นรองเท้าที่เปิดส้นได้มั้ย โชคดีว่าหลังจากที่เป็นแผล วันถัดมาเป็นฉากที่ต้องใส่รองเท้าแตะวิ่งร้องไห้บนสะพาน ยังโชคดีที่เป็นรองเท้าแตะ แต่ก็ต้องวิ่งบนสะพาน อีกวันหนึ่งเป็นไข้ อาจจะด้วยว่าแผลมันอักเสษ แต่ว่าไปฉีดยาแล้วมันก็ดีขึ้น”

มีไปเช็คดวงอีกรอบไหม
“เขาบอกว่าระวังอุบัติเหตุที่หน้า แต่พอดีหนูอาจจะดวงดีไง เลยไม่เกิดขึ้นที่หน้า มันก็เลยผ่านไปแล้วตอนนี้”

รู้สึกว่ามันสวนทางไหมเรื่องงานดี แต่โดนเจ็บตลอด
“พอเราออกมาเป็นนักแสดงอิสระ งานเราก็ดี แต่เราต้องมาเจ็บตัวกับเรื่องพวกนี้ หนูว่ามันต้องแลกกัน คือหนูเชื่อว่าชีวิตคนเราไม่มีอะไรทุกอย่างที่เพอร์เฟ็กต์ มันต้องมีดีบ้าง ไม่ดีบ้างมันถึงจะสมบูรณ์ ถ้าเราเพอร์เฟ็กต์ไปเสียทุกอย่างอันนั้นน่ากลัว มันต้องมีดีบ้าง ไม่ดีบ้าง มันสนุกดี แบบนั้นมันไม่มีอะไรที่น่ากลัวรออยู่ข้างหน้า ชีวิตเป็นแบบนี้ต่อไปข้างหน้าเรื่อยๆ มันถึงจะดี”

เรียกว่ามันคุ้มกับการแลก
“คุ้มค่ะ งานโอเคแลกมากับการเจ็บตัว หนูโอเค”

เรายังห่วงหน้าอยู่ไหม
“ยังห่วงอยู่ค่ะ ทุกวันนี้เวลาถ่ายละครหนูยังต้องมองไฟก่อน แต่โชคดีมากเลยนะ แต่อันนี้มันเป็นเหตุการณ์อีกกองหนึ่ง หนูยังพูดเล่นๆ กับผู้กำกับ เจ้าที่อาจจะช่วย เพราะว่ามันมีขอบเตียงหล่นลงมา คือหนูนั่งอยู่ที่พื้น พอนับ 5 4 3 มันเป็นจังหวะที่หนูถอยไปข้างหลังพอดี

ไม้อันนี้ก็หล่นฟาดลงมาที่พื้น คือจังหวะหนูยกมือไหว้เลย เพราะว่าถ้าหนูไม่ได้ถอยไปข้างหลังด้วยธรรมชาติ ไม้อันนั้นคงฟาดหน้าไปแล้ว ซึ่งขอบเตียงนั้น ก็มีเหล็กที่เป็นสนิมอยู่ด้วย ถ้าโดนหัว หัวแตกแน่นอน วันนั้ถือว่าโชคดีมากๆ”

มันมีวิธีสะเดาะเคราะห์ยังไงไหม
“หนูว่าต้องระวังที่ตัวเอง เพราะว่าเป็นคนซุ่มซ่าม เป็นคนไม่ระวัง เวลาเล่นก็ชอบเล่นจริง เวลาเล่นฉากแอคชั่น กั๊กไม่เป็น หลายๆ คนที่เล่นคิวบู๊กับหนู เขาบอกว่าหนูต้องไปฝึกเพิ่มนะเรื่องวิธีการกั๊ก เพราะว่าเราทำไม่เป็น ถ้าทำเป็นสกีลอาจจะดีกว่านี้นิดนึงค่ะ”

จะเพิ่มความระวังตัวมากขึ้นไหม
“หลังจากนี้จะเพิ่มแล้วค่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาที่จะคิดว่าเพิ่ม กลับไปบ้านก็นอน”

อายุย่าง 27
“อายุเข้า 27 ปีแล้วค่ะ ไม่น่าจะเป็นเบญจเพส ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้”

ปีชงหรือราหูเข้า
“ราหูเราต้องดีซิ ไปทำบุญมาเขาบอกว่าดี เขาบอกว่าดีแค่นี้เราก็โอเคแล้วค่ะ”

ขอบคุณรูปจากไอจี : ice_amena

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน