ปุ้ย ผอ.กองมิสยูฯ เคลียร์ประเด็นดราม่าเดือดมงกุฎฟ้าใส ฟาดกลับ ผู้จัดการฟ้าใส คิดดีแล้วเหรอที่เปิดประเด็น

ไม่ปล่อยให้เหล่าแฟนนางงามเม้าธ์กันไปเองนาน หลังจาก เอส อนุสิทธิ์ ผู้จัดการส่วนตัวของ ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น Miss Universe Thailand 2019 และ Top 5 Miss Universe 2019 ออกโรงแฉกลางเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงเหตุการณ์วันรอบตัดสิน มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ว่า ตนได้ประสานงานกับสตาฟเพื่อขอมงกุฎให้ฟ้าใส ซึ่งสตาฟไลน์บอกผู้ใหญ่ท่านนึงที่กำลังให้คนไปเอามาให้จากที่บ้าน​ พอฟ้าใสอำลาตำแหน่งเสร็จน้องสตาฟขอเก็บมงกุฎทันที ตนจึงต้องไปขอให้ฟ้าใสใส่มงกุฎถ่ายรูปคู่กับแฟนคลับก่อน ซึ่งระหว่างนั้นสตาฟท่านนึงเดินถือกล่องมงกุฎประกบน้อง​ตลอดเวลาและคอยบอกน้องว่าหมดเวลาแล้ว

รวมถึงออกมาตอบคอมเมนต์แฟนคลับว่าทำไมฟ้าใสไม่เซ็นสัญญากับ TPN ทั้งที่รางวัล มงกุฎ เงินรางวัล รถยนต์ ร่วม 10 ล้าน แต่ตอนเป็นรองMUT ยุคคุณแดงของรางวัลน้อยกว่านี้ฟ้าใสถึงยอมเซ็น

ล่าสุด ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก หรือ ปุ้ย TPN ผู้ถือลิขสิทธิ์การจัดประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ บริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด ออกมาชี้แจงทีละประเด็นว่า จะไม่พูดถึงเรื่องนี้ เพราะคิดว่าการพูดมากไปก็ไม่เกิดผลดีอะไรกับใครเลย แต่มีคนส่งข้อความมาถามไถ่มามากมาย ในเรื่องที่ผจก.ของฟ้าใสได้โพสต์อะไรต่อมิอะไร ก็เลยขอตอบตรงนี้ค่ะ
-เรื่องมงกุฏในวันงานที่น้องต้องอำลาตำแหน่ง ทางกองจัดเตรียมอย่างดีเพื่อให้น้องใส่อำลานำส่งขัดทำความสะอาดอย่างเรียบร้อย มงกุฎได้เตรียมไปและอยู่ในรถ เพื่อนำไปใช้ในเวลาที่ฟ้าใสต้องใช้ ถ้าบอกว่าอยู่ที่บ้านคงไม่สมเหตุสมผลกระมังค่ะ เพราะมันคงไปเอาไม่ทันแน่ๆ ช่วงบ่ายค่ำฝนตกหนักมากในวันนั้น และรถก็ติดมหาโหดมากๆ
-เรื่องกองไม่ให้น้องใส่มงกุฎถ่ายรูปกับแฟนคลับนั้น อันนี้ยิ่งไม่น่าจะเป็นจริง เพราะได้สอบถามและฟังจากผู้ที่ดูแลมงกุฎในวันนั้น ได้รับคำตอบไม่เหมือนกันค่ะ
-เรื่องของการเซ็นหรือไม่เซ็นสัญญานั้น ในการตกลงกันทุกอย่างนี้ เป็นข้อตกลงที่ทำขึ้นพร้อมกันระหว่างฟ้าใส และกอง ต่อหน้าทนายความทั้งสองฝ่าย และญาติผู้ใหญ่ของฟ้าใส และลงบันทึกข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างเรียบร้อย ย้ำนะคะ เป็นข้อตกลงและเป็นความพอใจร่วมกันทั้งสองฝ่าย (ซึ่งเกิดก่อนหน้าที่ผู้จัดการคนใหม่นี้จะมาทำงานกับฟ้าใส)

โดยก่อนหน้านี้ได้คุยไลน์กับฟ้าใสเมื่อสองวันที่ผ่านมา ฟ้าใสบอกว่าไม่เคยเล่าเรื่องข้อตกลงต่างๆนี้ให้ผู้จัดการท่านนี้ฟังเลย น้องยังบอกว่าถ้าเราไม่ชอบใจให้โทรไปเคลียร์กับผู้จัดการเองเลย เราบอกว่า ไม่ต้องหรอกไม่ใช่ธุระของกองที่ต้องไปคุยอะไรให้วุ่นวายเวิ้นเว้อ

ที่ผ่านมากองไม่เคยออกมากล่าวว่าอะไรฟ้าใสทั้งสิ้น เรามีแต่บอกว่าให้มองในแง่ดีเข้าไว้ ฟ้าใสเองก็ทำหน้าที่ของเขาอย่างดีแล้ว และในช่วงของการประกวดในปี 2019 ก็เป็นที่พิสูจน์แล้วว่า TPN ไม่มีการล็อคมงแต่อย่างใด ผลงานใครเป็นที่ประจักษ์ ใครเหมาะสมที่สุดก็เป็นไปตามที่สายตาคนส่วนใหญ่มองเห็น ผลก็ออกมาตามนั้น

-เรื่องทำไมกองไม่ออกมาพูดความจริง นี่คิดแบบผู้ใหญ่นะคะ มันจะดีเหรอคะ เรื่องการทำสัญญาก็มีรายละเอียดมากมาย ที่ตกลงกันเพียงสองฝ่าย เราต้องเคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน และวันนี้ที่ออกมาโพสต์อะไรแบบนี้ก็เพราะกองถูกพาดพิงในประเด็นนี้
ขอย้ำตรงนี้ว่า กองไม่มีประเด็นใดๆกับฟ้าใสทั้งสิ้น เธอก็ทำหน้าที่ของเธอแล้ว กองก็ทำหน้าที่ของกองแล้ว มีหลายคนกังวลว่าฟ้าใสจะไม่ได้มาอำลาตำแหน่ง จะไม่ได้มามอบมงกุฎ ซึ่งการเตรียมงานเหล่านี้จะเรียกตัวมากะทันหันไม่ได้หรอกนะคะ ต้องมีการวางแผน ต้องมีการซ้อมคิว มากมายหลายอย่างคงได้เห็นแล้ว

พร้อมทิ้งท้าย ฝากประเด็นไว้ให้กับผู้ที่โพสต์เรื่องราวนี้ขึ้นมา อยากแค่ถามว่า คิดดีแล้วเหรอค่ะว่าการเปิดประเด็นเหล่านี้เป็นเรื่องที่ดี คุณรับรู้เรื่องราว หรือได้เห็นข้อตกลงต่างๆในเอกสารด้วยตาตัวเองหรือเปล่า นี่มีความคิดเห็นส่วนตัวว่าเมื่อน้องครบวาระแล้ว น้องก็จะเป็นตำนานตลอดไป เธอก็จะเดินไปบนเส้นทางแห่งตนเองต่อไปอย่างงดงามตามครรลองของตัวเธอเอง เพราะเธอเป็นคนสวย เก่ง ฉลาด สำหรับทุกท่าน เราจะขอโพสต์เรื่องนี้ครั้งนี้แล้วพอ เพราะมองแล้วไม่เห็นประโยชน์อันใดที่จะต่อความยาวสาวความยืดค่ะ

โดยหลังจาก ปุ้ย TPN ออกมาชี้แจงได้ไม่นาน ผู้จัดการฟ้าใส เอส โพสต์เฟซบุ๊กถึงข้อคิดสำหรับเช้าวันนี้ เวลาเราจะทำข้อตกลงอะไรกับใครบางอย่าง​ มันมักจะมาจาก 3​ เหตุผล คือ ยอม , ต้องยอม และ ถูกบีบให้ยอม

ที่มา PUI Sankosik MUT และ เฟซบุ๊ก Ed Anusit

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน