หนิง ปณิตา ออกโรงป้อง เข้ม-มุก ในวันที่เจอดราม่า แนะวิธีรับมือ เตือนอย่าหลงแสงสี

กระแสคู่จิ้นคู่ใหม่จากวิกหมอชิต เข้ม-มุก หรือ เข้ม หัสวีร์ และ มุกดา นรินรักษ์ กำลังมาแรง แม้ละคร โซ่เวรี ที่ทั้งคู่เล่นด้วยกันจะลาจอไปพักใหญ่แล้ว แต่ความฮอตของทั้งคู่กลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แฟนๆส่วนใหญ่อินจัดกับเคมีที่เข้ากัน บางคนถึงกับเชียร์ให้เป็นคู่รักกันจริงๆ

แต่แล้วกลับมีกระแสดราม่าถล่ม นางเอก มุกดา หลังเธอให้สัมภาษณ์ว่ามีคนคุยอยู่ ซึ่งหนุ่มที่ถูกโยงคือ ไต้ฝุ่น ตากเพชร นักแสดงร่วมช่อง สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนคลับบางคน เข้ามาคอมเมนต์ต่อว่า เธอไม่ชัดเจนกับเข้ม ร้อนถึง หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ ผู้จัดละครฯ โซ่เวรี ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของทั้งคู่ ต้องออกโรงปกป้องพร้อมชี้แจง

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

กับเรื่องดราม่า เข้ม-มุก ที่เกิดขึ้น ด้วยความที่เราเป็นคนสร้างคู่นี้ขึ้นมา รู้สึกยังไงบ้าง?
“ถ้าจะตอบว่าไม่รู้สึกอะไรเลยก็คงไม่ใช่ ถามว่าเครียดมั้ย แอบเครียดเบาๆแทน แต่หนิงเชื่อมั่นในน้องทั้งสองเดี๋ยวเขาก็จะผ่านเหตุการณ์ตรงนี้ไปได้ หนิงว่าคนที่เกิดมาแล้วต้องมาเป็นดารา มันไม่มีดาราคนไหนที่จะไม่เจอเรื่องประเด็นดราม่า มันอาจจะเป็นเรื่องใหม่สำหรับพวกเขา แต่หนิงเชื่อว่าพวกเขาต้องผ่านไปได้ค่ะ”

จุดที่ทำให้รู้สึกว่าต้องออกมาปกป้องน้อง เข้าไปคอมเมนต์ตอบกลับคนที่เข้ามาถล่มมุกดา?
“หนิงรู้จักน้องทั้งสองคนค่อนข้างดีประมาณนึง คงไม่ใช่ว่ารู้ทั้งหมดในชีวิตเขา และค่อนข้างมั่นใจว่าเด็กทั้งสองคนเป็นเด็กน่ารักและเป็นเด็กที่ดีมากๆ ตั้งใจทำงาน ไม่งั้นเราคงจะไม่ได้รักเขาขนาดนี้ ในหลายๆคอมเมนต์ เรารู้สึกว่ามันเป็นคอมเมนต์ที่เข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของน้องเขามากเกินไป มันเลยรู้สึกว่า ถ้าสามารถจะพูดคำพูดไหนหรือประโยคอะไรสักประโยคหนึ่งให้เขาเหล่านั้นได้เข้าใจบ้างก็อยากที่จะพูด เพราะหนิงเชื่อว่าน้องเองก็คงจะไม่ได้เข้าไปเขียนหรือพูดอะไรอยู่แล้ว แต่ก็พอจะรู้ว่าน้องคิดอะไรยังไงอยู่”

เราเลือกจะอธิบายให้เขาเข้าใจ?
“ในส่วนของหนิงเวลาที่เข้าไปคอมเมนต์ในข้อความ จะเขียนเลยว่า ขออนุญาตนะคะและก็ขอโทษที่เข้ามาคอมเมนต์ เราก็ขออนุญาตเข้าไปอย่างมีมารยาท เพราะเอาจริงๆแล้วในเรื่องของคู่เขา แต่ละคนจะต้องมีพื้นที่ที่เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนด้วยเหมือนกัน เรื่องของงานก็มีส่วนในเรื่องของงาน ฉะนั้นมันจะต้องมีมุมส่วนตัวของแต่ละคน หนิงว่าทุกคนบนโลกใบนี้ก็คงอยากจะมีพื้นที่ที่รู้สึกว่าเราเสร็จงานแล้ว เราเหนื่อยแล้วมันเป็นพื้นที่ของเรา หนิงรู้สึกว่าตรงนั้นไม่อยากให้ใครเข้าไปทำให้เขาต้องไม่สบายใจ”

ได้คุยกับมุกดาไหม เพราะเขาโดนหนักเหมือนกันทั้งในไอจีและทวิตเตอร์?
“ได้คุยค่ะ ส่งกำลังใจให้และจะสอนว่าเราต้องรับมือกับมันยังไง คิดบวก อะไรก็แล้วแต่บนโลกใบนี้ให้เราคิดบวกเข้าไว้ ในโลกใบนี้มันจะมีด้านที่รักเราและคนที่ไม่รักเรา มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ทุกคนรักเราและเข้าใจเราในทุกๆเรื่อง มันเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นคิดบวกเข้าไว้และเสพแต่คนที่เขาเข้าใจเรา แต่คนที่เขาไม่เข้าใจไม่ใช่ว่าเราไม่สนใจเขานะ เราก็สนใจเขาหยิบในประเด็นบางประเด็นที่คิดว่ามันมีประโยชน์กับเราแล้วเอามาปรับปรุงพัฒนา น้องเป็นคนคิดดีทั้งคู่ เราก็รู้สึกรักและเป็นห่วง”

วันนี้เขามีภูมิคุ้มกันมากแค่ไหนกับความเป็นคู่จิ้น?
“หนิงว่าต้องค่อยๆเริ่มเรียนรู้ซึ่งหนิงจะบอกกับเขาทั้งสองคนตลอดเวลา หรือแม้กระทั่งถ้าหนิงได้มีโอกาสเจอแฟนคลับบ้านคู่หรือกลุ่มใครก็แล้วแต่ หนิงจะบอกว่า อย่าไปคาดหวังว่าจะให้เขาเป็นคู่จริง ณ วันนี้ หนิงจะบอกเขาทั้งคู่ว่าวันนี้กระแสคู่จิ้นฟีเวอร์มาก เรายังเด็กอยู่ เรายังต้องต่างคนต่างทำงาน โฟกัสงานที่จะต้องเดินไปข้างหน้า ถ้าเป็นคำพูดคนสมัยโบราณอย่างเราอย่าเพิ่งไปหลงแสงสีมันมากมาย ให้โฟกัสเรื่องงาน จับมือกันทำงานและรักกันดูแลกัน เราไม่รู้หรอกว่าหนทางข้างหน้ามันจะเป็นยังไง แต่ถ้าวันนี้เราทำงานให้ดี เรารักกัน เราดูแลกันข้างหน้ามันก็จะมั่นคง ความรักมันอาจจะเกิดขึ้นได้แต่อย่าให้มันเกิดขึ้นเร็วคือจากประสบการณ์เราทั้งหมดก็จะเล่าให้น้องฟัง ความรักมันเกิดขึ้นได้แต่อายุเท่านี้ทำงานโฟกัสงาน

สิ่งที่น้องเขาเป็นในตัวเขาที่ทำให้คนรักเขาเป็นคู่จิ้น มันไม่ใช่จากการสร้าง มันคือธรรมชาติของเขาทั้งคู่เวลาเขาอยู่ด้วยกัน คู่นี้มันจะมีเคมีอะไรบางอย่างที่ลงตัวเวลาทำงานด้วยกัน คนหนึ่งที่ล้นกับอีกคนที่นิ่งๆ พอมันอยู่ด้วยกันมันก็เป็นธรรมชาติที่ลงตัว ก็อยากจะให้ทุกคนรักในงานของเขา หนิงจะบอกบรรดาแฟนคลับทั้งหลายว่า ถ้ารักน้องเวลาน้องไปทำงานกับใครเราก็ต้องสนับสนุนผลงานของน้องที่แยกกันไปทำงานด้วย เวลาที่เรามีความรักกับใคร เราก็อยากให้เขาประสบความสำเร็จก้าวหน้าต่อไป เรามองกันอย่างนี้ดีกว่า”

กระแสแรงเชียร์ให้ เข้ม-มุก เป็นแฟนกันสักที ได้คุยกับทั้งคู่ไหมเขากดดันหรือเครียดไหม?
“พวกเราค่อนข้างคุยกันทุกเรื่อง สมมติว่าพอมันมีอะไรมาเยอะๆมากมายมากระทบ หนิงก็จะนัดน้องทานข้าว น้องคนนี้รู้สึกยังไงอีกคนรู้สึกยังไง แล้วเราจะทำยังไงให้ในอยู่ในกรอบหรือในสิ่งที่มันควรที่จะเป็น สุดท้ายแล้วในวันนี้เขาเพิ่งจะประสบความสำเร็จกัน แต่ถามว่าเขาเดินไปถึงเส้นทางที่อยากจะไปแล้วหรือยังมันก็ยังไม่ได้ไปสุดขนาดนั้น ฉะนั้นสิ่งที่เขาต้องทำมันคืองานใช่มั้ยล่ะ แต่ถ้าเขาไปโฟกัสเรื่องความรัก แล้วถ้างานไม่ประสบความสำเร็จ ใครจะเลี้ยงพ่อแม่เขาทั้งคู่ เขาต่างคนต่างต้องดูแลครอบครัว ยังต้องมีอะไรอีกหลายอย่าง ปัจจัยในการใช้ชีวิตมันยังมีองค์ประกอบอีกเยอะ ก็อยากจะฝากทุกคนว่าถ้ารักคู่นี้จริงๆ ก็ซัพพอร์ตเขาไม่ว่าเขาจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ หนิงเชื่อว่าความรักถ้ามันมาจากความรู้สึกที่มันบริสุทธิ์ใจ ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไง เราก็รักเขาถ้าเขาเป็นคนดี เป็นเด็กดี ทำไมหนิงทำงานกับเด็กสองคนนี้ทำไมถึงรักเขาขนาดนี้ ทำไมเราถึงจับมือกันมาได้ถึงทุกวันนี้เพราะว่าความเป็นเด็กดี เด็กตั้งใจของเขาทั้งคู่ เป็นคนคิดดี

คิดไหมว่าเพราะอะไรอยู่ดีๆคู่นี้ถึงได้ดังขนาดนี้ ในวันที่เราจับเคมีทั้งคู่มาชนกันแล้ววันนี้เขาดังมาก เป็นคู่จิ้นของช่อง7ในเวลานี้?
“เชื่อมั้ยว่าวันที่จับคู่นี้มาเจอกัน กระแสดราม่าเยอะมากโดนด่ามันไม่ใช่ น้องทั้งสองคนก็จิตตกแม้กระทั่งตัวหนิงเองและทีมงานทุกคนก็จิตตก บางทีคนไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงเกาะกลุ่มกันขนาดนี้เพราะเราเริ่มจากที่ทุกอย่างโดนมองว่ามันไม่ใช่ แล้วเมื่อมันโดนมองว่ามันไม่ใช่เราก็จะมารวมกลุ่มกัน ตัวหนิงเองเป็นผู้นำของงาน เราก็จะต้องสร้างพลัง ลุกขึ้นมาอย่าเครียดอย่าจิตตกนะ ในระหว่างทางมันโดนมาตลอดละครไม่น่าดังอย่างนั้นอย่างนี้ เราก็จะสร้างพลังให้กันและกัน ทุกคนผ่านอุปสรรคมาด้วยกัน แล้วมันเกิดจากความตั้งใจดีของทั้งคู่ เกิดจากความน่ารักเป็นธรรมชาติของทั้งคู่ที่พยายามซัพพอร์ตงานโซ่เวรีงานชิ้นนี้มันเลยออกมาประสบความสำเร็จ คือถ้าไม่มีเขาทั้งคู่ ไม่มีทีมงาน ไม่มีพลังดีๆที่เราคอยสร้างพลังให้กันมันก็จะไม่มีวันนี้ ที่สำคัญพอเราสร้างพลังให้กันแล้ว แฟนคลับเห็น แฟนคลับรับรู้เขาก็มาสนับสนุนเรา จนวันนี้มันเกิดประเด็นดราม่า หนิงเจอน้องแฟนคลับเขาก็เดินเข้ามากอดเหมือนเป็นการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กัน”

ภาพจาก ningpanita

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน