โอ๊ต ปราโมทย์ แจงดราม่า แซวสาวเกมเมอร์ ถูกชาวเน็ตโจมตี คุกคามทางเพศ จนปิดทวิตเตอร์

โอ๊ต แจงดราม่า – เป็นเรื่องราวดราม่าอีกครั้ง สำหรับ โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน ที่ได้แซวเกมเมอร์คนหนึ่ง ด้วยคำพูดว่า “ข้างบนมีไข่ด้วย ขอจับไข่ได้ไหมครับ” จนชาวเน็ตนำมาเป็นเรื่องดราม่า ว่าพูดจาไม่เหมาะสม หรือหลายๆคนมองว่าเป็นการพูดคุกคามทางเพศ จนเกิด #โอ๊ตปราโมทย์ พุ่งขึ้นอันดับหนึ่ง ในโลกทวิตเตอร์

(วันที่ 22 ธ.ค.) นักร้องสายฮา โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน เดินทางมาร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์ My Boss Is Serial Killer บอสฉัน ขยันเชือด ที่ ชั้นเอ็ม ศูนการค้า Terminal 21 หลังเสร็จงานได้ให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ ถึงเรื่องดราม่าดังกล่าว

ถามถึงกรณีที่ #โอ๊ตปราโมทย์กลับมาอีกรอบ? “หมายถึงดราม่าที่ผ่านมาสบายมากเลยค่ะ ชินแล้วครับ (หัวเราะ)”

อยากให้เล่าเหตุการณ์วันนั้นให้ฟังนิดนึงที่เราไปแซวเกมเมอร์คนหนึ่ง? “จริงๆเป็นเรื่องเข้าใจผิดมากกว่า ตอนกลางวันผมกับน้องเอก ฮาร์ดร็อกเกอร์ พี่เผือกและน้องปอเต้ เป็นตัวแทนคนไทยไปแข่งกอล์ฟ ขอแข่งเสร็จแล้วตอนเย็นน้องก็เลยชวนมาเล่นเกมกัน ผมก็ไม่เคยเล่น พอเข้าไปเล่นก็เป็นซีนแนะนำตัวทีละคน แล้วคาแรกตอร์ในเกมจะมีไข่ดาวแปะหัวแต่ละคน ผมเห็นแบบนั้นก็พูดว่ามีไข่ดาวอยู่บนหัวพี่ขอจับไข่หน่อยครับ แค่นี้เลย แต่ว่าคนเอาไปตีความ ว่าเป็นการคุกคามทางเพศ แต่ผมรู้สึกเฉย ๆ เพราะเราไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอยู่แล้ว เรารู้ว่าขอบเขตของการเล่นได้แค่ไหน อีกอย่างคนที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ก็ไม่ได้มีใครเดือดร้อน นอกจากบุคคลที่ 3 ที่ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ด้วย”

กับน้องคนนั้นได้มีการพูดคุยกัน? “คุยครับ เดี๋ยวมีนัดกินข้าวกัน จริงๆคุยกันตั้งแต่ตอนเล่นแล้วว่าไม่ได้มีอะไรนะ พี่ไม่ได้เหยียดแบบนั้น ถ้าเขารู้สึกอะไรแบบนั้น ต้องเกิดอะไรขึ้นตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่เวลาล่วงเลยไปชั่วโมงหนึ่งถึงผู้เห็นว่ามีดราม่าแบบนี้ด้วยเหรอ เลยคุยกันขอโทษในเกมเลยครับ”

รู้สึกยังไงที่เวลาเราพูดสองแง่สองงามแต่คนมองแง่ลบ? สบายมาก ผมชินแล้ว(ยิ้ม) จริงตอนนี้ทวิตเตอร์ผมไม่ได้เล่นเลย ตอนนี้ไม่มีการเคลื่อนไหวไป 30 วัน การเล่นทวิตเตอร์การขึ้นไหวไปอีก 1 ปี

เหตุผลที่ไม่เล่นเป็นเพราะอะไร? “ผมรู้สึกว่าเราโตขึ้น ในวัยที่เราอายุขนาดนี้แล้ว เรามีจุดมุ่งหมายในชีวิตชัดเจน มีเจตนาในการทำงานชัดเจน ไม่ว่าทุก ๆ อย่างอะไรที่ขึ้นรอบตัวเรา เป็นสิ่งที่เราคัดกรองแล้วว่าโอเค คือผมเป็นคนมีเส้นของตัวเอง ฉะนั้นการที่คนอื่นเอาเส้นของคนอื่นมาตัดสินเรา แล้วมาด่า โดยที่เราไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร อาจจะเด็กกว่าเราก็ไม่รู้ ผมรู้สึกว่าเราไม่ควรอยู่ในสถานที่ที่คนจะด่าโดยที่ไม่มีเหตุผล แล้วมานั่งคุยกันตอนนี้กลายเป็นว่าทุกคนใช้เรื่องของความรุนแรงทางเพศ ใช้การ บูลลี่เป็นอาวุธในการโจมตีคนอื่น ชอบไม่ชอบไม่รู้ ขอด่าไว้ก่อน และพยายามประดิษฐ์คำพูดต่าง ๆ เพื่อจะว่าคนนั้นคนนี้ ฉะนั้นเราเองรู้สึกว่าเหตุการณ์ตอนนั้น เราไม่ได้เจตนาไม่ดี แล้วก็รู้สึกว่าไม่อยากให้คนมานั่งด่า เลิกเล่นดีกว่า”

คำพูดนี้ทำให้หลายคนเข้าใจผิด ต่อไปมันทำให้เราต้องคะวังคำพูดของเรามากขึ้นไหม? “ผมเป็นแบบนี้ ผมระวังไม่ได้หรอกครับ ผมก็เป็นโอ๊ต ปราโมทย์เหมือนเดิม อยู่ที่ว่าทุกคนจะชอบหรือไม่ชอบมันเท่านั้นเอง ผมไม่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง ก็ยังมีคนที่ชอบเราที่เราเป็นลักษณะแบบนี้ ฉะนั้นผมก็ต้องเคารพคนที่เขารักเราด้วย”

พอปิดไปมันสบายใจขี้นไหม? “สบายครับ คือตอนมีมันก็สบาย เพราะหลังๆผมไม่ค่อยได้เล่นอยู่แล้ว จริงๆเพื่อนศิลปินในวงการ หรือดาราหลายคนก็เลิกเล่นไปหลายคน เพราะบางทีมันก็กระทบกับจิตใจเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราก็อยู่ในพื้นที่ที่เราสบายใจมากกว่า ไม่ใช่ทวิตเตอร์ไม่ดีนะ ทวิตเตอร์ก็ดี มีทั้งเรื่องราว อัพเดตมันเร็วมาก ทุกคนสามารถเข้าไปเสพข่าวต่างๆได้รวดเร็ว แต่บางทีมันก็ถูกใช้ผิดวิธีไปนิดนึง”

แสดงว่าเราก็ยอมรับว่าตอนแรกเราก็รู้สึกเหมือนกันกับการที่ถูกวิจารณ์ จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์? “ก่อนหน้านี้รู้สึกเยอะเลยครับ แต่ตอนนี้เฉยๆแล้ว พอเห็นปุ๊บก็เลิกเล่นเลย เพราะจริงๆผมแพลนไว้ว่าปีหน้าจะเลิกอยู่แล้ว แต่พอมันมีเหตุการณ์นี้ก็เลิกเร็วขึ้น และจริงๆผมบอกเพื่อนหลายๆคนไว้ว่าปีหน้าเราอาจจะไม่ได้เล่นทวิตเตอร์แล้วนะ เพราะรู้สึกว่าข่าวเราก็ตามที่อื่นด้วย แต่ว่าตอนนั้นเรามีไว้ เพราะอยากอัพเดตข่าวสารตลอดเวลา แต่พอตอนนี้มันมีอะไรมากระทบ เราก็พอดีกว่ากับมัน แอ็กหลุมยังไม่มีครับ ถ้ามีแอ็กหลุมส่วนใหญ่เอาไว้ดูหนังโป๊ ผมไม่ค่อยอะไรครับ(ยิ้ม) ”

มีแพลนจะเลิกเล่นโซเชียลอื่นๆไหม? ผมว่าที่อื่นเขาไม่ค่อยมีปัญหา อาจจะด้วยเพราะว่าอวตารสูง มันไม่ได้เป็นตัวเองมันก็เลยจะพูด จะคิดอะไรก็ได้ แต่อย่างในแอพลิเคชั่นอื่น มันต้องทีการยืนยันตัวตนอะไรหลายๆอย่าง ก็รู้สึกว่าคำพูดอาจจะดีมากกว่า ไม่ใช่โอ๊ต ปราโมทย์ ด่าไม่ได้นะ ด่าได้ แต่ก็ต้องมานั่งคุยกันว่าด่าเพราะอะไร ใช้คำพูดที่เข้าใจกัน คนโตแล้วคุย ไม่ใช่โอโหด่ากระแนะกระแหนหรือประชดประชัน คือเขาไม่ใช่ญาติเราอ่ะ”

พอเราปิดไปมีคนเข้ามาถามบ้างไหม ว่าเพราะเราหนีดราม่าหรือเปล่า? “ไม่เลยครับ ไม่มีคนมาถาม เพราะทุกคนก็รู้ พอมันเกิดเรื่อง คนก็รุมด่า แล้วพอคนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็ด่ากลับ คือมันก็ด่ากันไป ด่ากันมา มันก็ไม่จบ ฉะนั้นเรารู้สึกว่าถ้าเราอาจจะเป็นตัวปัญหาของใครหลายๆคน เราก็ถอนออกมา มันก็สบายใจกับทุกคนด้วย พอไม่มีโอ๊ต ปราโมทย์ แล้วทุกคนก็ไม่ต้องด่าโอ๊ต ปราโมทย์ไง ก็เล่นกันเค็มที่ สนุกสนาน”

มีไดเร็กในไอจีไหม? “ไม่มีครับ แปลกมาก ที่อื่นไม่มีใครด่าผมเลย ชิวๆมาก ก็เลยงงมาก แต่สุดท้ายแล้วทุกๆแอพพลิเคชั่นมันมีข้อดีและข้อเสียของมัน ก็อยากให้ทุกคนใช้มันในทางที่ถูกต้องและเหมาะสม บางทีเราไม่รู้หรอกว่าเราพิมพ์ไปสนุกๆแล้ววันหนึ่งพอมันขึ้นโรงขึ้นศาลมา แล้วบางคนเขาไม่โอเค ผมบอกเลยนะว่า ก็อย่าไปว่าเขาว่าใช้กฏหมายเป็นเครื่องมือในการไปไล่ฟ้อง ฉะนั้นก็ด่าได้ แต่ด่าแบบปัญญาชน ติติงได้ เห้ย..พี่โอ๊ต อันนี้ไม่เหมาะสม ไม่ใช่ผมไม่อ่านนะ ผมก็อ่าน บางอันที่มันมากเกินไป หรือบางอันที่ด่าแล้วรู้สึกว่ามันก็นิดนึง เพราะผมเองก็ไม่เคยไปด่าหยาบคายในโซเชียลให้คนอื่นฟังไง เราอาจจะด่าเพื่อน แต่เรารู้ว่าคนนี้ใช้คำพูดได้แค่นี้ คนนี้ใช้ได้แค่ไหน”

เคยคิดที่จะฟ้องบ้างไหม? ไม่เคยครับ แต่แคปไว้หมดเลย คือไม่คิดจะฟ้อง แต่แคปเอาไว้ หนึ่งเป็นเครื่องเตือนใจ สองถ้าฟ้องจริงๆผมก็อาจจะออกจากวงการไปเลย เพราะผมก็จะฟ้องแบบรวยๆเยอะๆ ผมก็จะไปซื้อบ้าน ซื้อของ ซื้อรถ ก็สนุกดี แคปไว้เยอะไหม โอโหเป็นร้อยครับ ตั้งแต่เหตุการณ์แรกๆผมแคปไว้หมดเลย ทุกอันที่ด่า อันไหนหนาบคายผมแคปไว้หมด ผมไม่ได้ขู่ ถ้าฟ้องผมฟ้องไปแล้ว ผมยังไม่ได้ฟ้อง แต่เคยมีความคิดเหมือนกัน แต่พอมันผ่านไปแล้ว เราโตขึ้น เราพยายามคิดถึงตัวเองถ้าในวันหนึ่งที่เราเป็นเด็กเราอาจจะทำแบบนี้มั้ง ก็เลยไม่เป็นไร หยวนๆสนุกๆครับ”

หลายคนมองว่ายิ่งมีดราม่า ยิ่งดัง เรามองว่ายังไง? “ถ้าดังแล้วด่าเยอะๆก็ไม่ไหวครับ คือถ้าเป็นพี่ ถ้าดังขึ้นมาแล้วมีคนด่าพี่ทุกวัน พี่ก็ไม่โอเคหรอก คือไม่มีใครโอเคกับการโดนด่าหรอก คือโดนตำหนิได้ แต่พอมันใช้คำว่าด่ามันมากกว่านั้น”

คำพูดนี้ทำให้หลายคนเข้าใจผิด ต่อไปมันทำให้เราต้องคะวังคำพูดของเรามากขึ้นไหม? “ผมเป็นแบบนี้ ผมระวังไม่ได้หรอกครับ ผมก็เป็นโอ๊ต ปราโมทย์เหมือนเดิม อยู่ที่ว่าทุกคนจะชอบหรือไม่ชอบมันเท่านั้นเอง ผมไม่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง ก็ยังมีคนที่ชอบเราที่เราเป็นลักษณะแบบนี้ ฉะนั้นผมก็ต้องเคารพคนที่เขารักเราด้วย”

พอปิดไปมันสบายใจขี้นไหม? “สบายครับ คือตอนมีมันก็สบาย เพราะหลังๆผมไม่ค่อยได้เล่นอยู่แล้ว จริงๆเพื่อนศิลปินในวงการ หรือดาราหลายคนก็เลิกเล่นไปหลายคน เพราะบางทีมันก็กระทบกับจิตใจเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราก็อยู่ในพื้นที่ที่เราสบายใจมากกว่า ไม่ใช่ทวิตเตอร์ไม่ดีนะ ทวิตเตอร์ก็ดี มีทั้งเรื่องราว อัพเดตมันเร็วมาก ทุกคนสามารถเข้าไปเสพข่าวต่างๆได้รวดเร็ว แต่บางทีมันก็ถูกใช้ผิดวิธีไปนิดนึง”

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน