รอน ภัทรภณ โควิดทำกระทบธุรกิจ เตือนตนเองตั้งรับอย่างมีสติ และอยู่กับปัจจุบัน พร้อมอัพเดตอาการคุณแม่ หลังจากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ และเรื่องที่มีคนเอารูปไปใช้ทำไอจีปลอม

รอน ภัทรภณ โควิดทำกระทบธุรกิจ / นักแสดงหนุ่ม รอน เอเอฟ หรือ ภัทรภณ โตอุ่น ได้ออกมาให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ อัพเดตเรื่องต่าง ๆ ทั้งเรื่องผลกระทบธุรกิจ ที่เกิดจากสถานการณ์โควิดในปัจจุบัน รอน ภัทรภณ โควิดทำกระทบธุรกิจ

ผลกระทบโควิด-19 ทำธุรกิจอยู่ด้วย เป็นยังไงบ้างผมเชื่อว่าทุกคนโดนกันหมด อย่างผมเป็นนักแสดง ตอนนี้ก็มีคิวละครที่จะถ่ายช่วงกลางเดือน ก็ต้องรออยู่ว่าสถานการณ์เป็นยังไงบ้าง โลเคชั่นยังสรุปไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ มาตรการต่างๆ หรือความเข้มข้นของตัวโควิดจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง ก็ต้องรอติดตาม ช่วงปีใหม่ก็เพิ่มทำธุรกิจผมไม้แบรนด์พรีเมียม ก็ถือว่าโดนไปตามๆกัน รวมถึงสตูดิโอโยคะด้วย ตอนครั้งแรก ๆ ก็มีให้ครูมาไลฟ์นะ แต่ตอนนี้เป็นเหมือนการรีรัน เพราะว่าเราโดนมาสองครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ใช่แค่เราคนเดียว โดนกันหมดถ้วนหน้า

เกาะติดข่าว กดติดตามข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

อ่านข่าว : ‘รอน’ภูมิใจ!! จบป.ตรีอายุ27-เหตุทำงานเลี้ยงครอบครัว ปลื้มละครกระแสดี ยันไม่โรคจิต(คลิป)

อ่านข่าว : ตะลึงครูหน้าตาดี! รอน ภัทรภณ ผันตัวเป็นครูสอนโยคะ นาน 3-4 ปี

ตัวเลขพอบอกได้ไหม ว่าเสียหายไปเท่าไหร่ “ตอนนี้ยังไม่ได้เคาะออกมาเป็นตัวเลข แต่ด้วยความที่ว่า เราเหมือนมีประสบการณ์แล้วจากตอนรอบแรก พอมันเกิดขึ้นมาใหม่หมดเลย เรื่องการปรับตัวพอเจอแล้วมันเครียด แต่พอรอบสอง ถามว่าความเครียดยังอยู่ไหม ยังอยู่นะ แต่เราคุ้นชินกับการที่ว่าถ้าเราหยุดเราจะเจ็บตัวยังไง แต่ก็เชื่อว่ากระทบกันหมดทุกคนครับ”

ท้อเลยไหมต้องสู้ครับ สุดท้ายสิ่งนี้เกิดขึ้นแล้ว เราต้องมีสติ เราตั้งรับได้ดีมากขึ้น แต่ผลกระทบมันยังคงมี และเชื่อว่ายังมีมากขึ้นด้วยซ้ำ แต่การตั้งรับการตั้งสติก็มีมากขึ้น มีท้อแต่ต้องอยู่กับปัจจุบัน”

วิธีตั้งรับ เราทำยังไงบ้างอยู่กับปัจจุบันครับ เราต้องนอนให้หลับ พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อตื่นขึ้นมาตั้งรับกับสถานการณ์ แล้วทำให้ทุกวันให้ดีที่สุด พยายามหาอะไรทำมากขึ้น อย่างวันนี้ก็ประชุมแบรนด์ผลไม้ หาแนวทางแก้ไขว่าจะทำยังไง อย่างผมเองเป็นครูสอนโยคะด้วย จะสอนไลฟ์ยังไง ก็ต้องหานิวนอร์มอลใหม่ๆครับ”

รอน ภัทรภณ โควิดทำกระทบธุรกิจ

“ผมมีดวงใจในมนตรา กำลังจะออนเร็วๆนี้ มีอีก 2 เรื่อง ทีมงานเขาจะวางคิวยังไงในเรื่องของโลเคชั่น ตอนนี้เงื่อนไขมันเยอะขึ้น เราไปถ่ายต่างจังหวัดไม่ได้ หรือในกรุงเทพ ซึ่งเป็นที่มีคนอาศัยอยู่จริง เขาก็คงกลัว เราก็ยังเข้าไม่ได้ เรื่องมาตรการอีก ต้องรอดูว่ายังไง ก็ต้องสู้ อยากจะเป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ ไม่ใช่แค่ทุกคนที่ประสบปัญหา แต่รวมถึงทุกภาคส่วนด้วย ผมเชื่อว่าโดนกันหมดเลย”

รอบนี้มีความหวังมากกว่าครั้งที่แล้ว “คือตั้งรับได้ดีมากยิ่งขึ้นครับ สุดท้ายแล้วเราต้องดูแลรับผิดชอบตนเอง และต้องรับผิดชอบต่อคนอื่นด้วย ดูแลกันสู้ไปด้วยกันครับ”

อัพเดตอาการคุณแม่ที่ประสบอุบัติเหตุ “ดีขึ้นครับ ตอนนั้นเป็นวันเกิดของแม่ด้วย ตรงวันเลย ก็จะพาไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัด แต่ก็ดันเกิดอุบัติเหตุ เขาบอกว่าก็ฝาดกเคราะห์ไปแล้วกัน คือเขาชอบคิดแบบนี้ครับ เหมือนเขาจะรับแทนเรา พอเขาเป็นอะไร เขาจะอวยพรเรา ขอให้เจอแต่สิ่งดี ๆ ต่อจากนี้นะ ตอนนี้รถก็เอาเข้าศูนย์แล้ว ซ่อมช้าหน่อยเพราะว่าอะไหล่ช้า เห็นไหมมีผลกระทบหมด คุณแม่ก็ดีขึ้น มีกระแทกตรงหัวเขา พอเป็นที่ข้อต่อแบบนี้ผู้ใหญ่ก็จะมีบ่นๆ แต่ก็ให้หมอดูแล้ว ก็ดีขึ้นครับ ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ”

รอน ภัทรภณ โควิดทำกระทบธุรกิจ

ตอนนี้ก็ไปตรวจแล้ว “ใช่ครับ รีเช็กแล้ว คุณแม่จะตรวจสุขภาพประจำ โรคผู้สูงอายุบวกกับมีอุบัติเหตุก็จะดูแลเป็นพิเศษ”

ไปทำบุญไหม “ทำบุญแน่นอยู่แล้วครับ ใครติดตามผมจะเห็นว่าผมมีกลุ่มเพื่อนร่วมทำบุญอยู่แล้ว จะทำบุญบ่อย มีไปนั่งสมาธิ และไปสอนโยคะให้กับคนที่มาปฏิบัติธรรมด้วย ช่วงนี้ก็มีพระอาจารย์บางรูปที่บิณฑบาตรไม่ได้ คือไม่ใช่แค่ส่งผลกระทบแค่เรื่องร่างกาย เจออะไรใหม่ๆ ที่จะส่งผลกระทบแบบไม่น่าเชื่อ ก็ช่วยเหลือเอื้อหนุนกัน”

ปีนี้ใครชง “ปีที่แล้วผมชง ชงชนิดร้อยเปอร์เซ็นต์เลย มีผลกระทบทางใจเยอะสุด เป็นปีที่รู้สึกไม่ดีที่สุดเลย แต่คนก็ไม่รู้ว่าเราเจอปัญหาอะไร เป็นปีที่เจออะไรใหม่ที่ต้องต่อสู้เยอะมาก ทั้งเรื่องสุขภาพ ที่ผมทำงานหนักมา 12 ปี ผมมีทั้งละคร ละครเวที มีสอนโยคะ แล้วผมบาดเจ็บบริเวณไหล่ บ่า แล้วฝืนมาตลอด แล้วก็เรื่องโควิดที่เป็นเรื่องใหม่ เรื่องผลกระทบกับงาน เรื่องคนในครอบครัว คุณพ่อก็เกษียณปีนั้นพอดี หลังจากที่ต่ออายุงานมาเรื่อยๆ พอเจอโควิด ปีนั้นเลยต้องออกแบบนี้ เจอเรื่องราวต่างๆเข้ามาพร้อมกัน แต่สุดท้ายเราก็ต้องอยู่ให้ได้ เรียนรู้กับมัน ปรับตัวให้ได้ครับ ก็เรียกว่ามาพร้อมกันนั่นเอง”

รอน ภัทรภณ โควิดทำกระทบธุรกิจ

โดนปลอมไอจีด้วย นับเป็นคราวซวยของเราด้วย
“จะบอกว่า มีชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือตะวันออกกลาง ชอบมาเอารูปเราไปใช้เป็นไอจีปลอม หรือเฟซบุ๊กปลอม อย่างครั้งที่แล้วเป็นชาวฟิลิปปินส์ ครั้งนี้เป็นชาวเมียนมาที่เอาไปใช้แล้วมีประสิทธิภาพมากกว่าผมเองอีก คือที่ผมแซวแบบนี้เพราะว่ามีคนตาม มีความเคลื่อนไหวเยอะกว่าผมทำเองอีก คิดผมไม่ค่อยได้เล่นเฟซบุ๊กเท่าไหร่ เรามีไว้ก็ไม่ค่อยได้อัพเดต ผมก็เลยเอามาแซวว่าทำยังไงได้บ้าง แล้วมันเหมือนอันนั้นเป็นของจริง (หัวเราะ)”

“แต่พอลงไปได้สักพักเฟซบุ๊กนั้นก็หายไปครับ ถ้าถามผม ผมคิดว่าน่าจะเป็นคนที่ชื่นชอบเรานั่นแหละ เราขอบคุณนะที่ชอบเรา แต่ถ้ามาเอาไปใช้แล้วแอบอ้างเป็นตัวเราเลย แล้วมีคนเข้าใจผิด แล้วมีเรื่องราวเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีเรื่องอะไรนะครับ คือผมก็ลงของผมเลยไม่ได้ไปบอกเขาด้วยว่าอย่าทำ ถ้ารักเราจริงก็ซัพพอร์ตในรูปแบบอื่นดีกว่า อย่าทำแบบนี้เลยดีกว่า”

ถ้าเกิดยังมีอีก จะทำยังไง “ผมรู้สึกว่าถ้าอะไรผิด ผมจะทำให้ถูกต้อง คือผมต้องป้องกันผมเองด้วย”

ปรึกษาใครไหม ผู้ใหญ่ในวงการ เพราะเขาเอารูปเราไปใช้ “มีคุยกับเพื่อนๆ แต่ส่วนใหญ่เป็นแซวกลับมาว่า อ่าวเพิ่งรู้ว่าชื่อนี้ แบบนี้ครับ เพราะยังไม่ได้เกิดอะไรขึ้นร้ายแรงครับ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน