โอบ โอบนิธิ ตกใจแทบช็อก มะปราง อลิสา เซ็กซี่เบอร์แรง ยอมรับหวง เข้าใจเป็นการทำงาน ให้เกียรติฝ่ายหญิงตัดสินใจ ให้กำลังใจแฟนโดนบูลลี่หน้าอกเล็ก
เกาะติดข่าว กดติดตามข่าวสด
โอบ โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์ มาร่วมงานแถลงข่าวซีรีส์แนวตั้งเรื่องแรกของนาดาว Blackout บาร์ลับไม่มีในโลก ที่โรงหนังเฮ้าส์ สามย่าน ชั้น 5 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เมื่อ วันที่ 19 ม.ค. 2564 พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงความรักสุดหวาน ครบรอบ 4 ปี กับแฟนสาว มะปราง อลิสา และเผยถึงความรู้สึกหลัง มะปราง โดนบูลลี่หน้าอกเล็ก
- มะปราง อลิสา ไม่เสียเซลฟ์ หลังโดนบูลลี่หน้าอกแบน พอใจไซซ์นี้ ไม่คิดทำเพิ่ม
- มะปราง เล่าเรื่อง วันครบรอบสามปีกับ โอบ นิธิ เผย ปล่อยผ่าน รักอาถรรพ์ โฟกัสงาน
- ยุคนี้ต้องประหยัด โอบ ไม่กล้าฟุ่มเฟือย เก็บเงินสร้างตัว ก่อนแพลนอนาคต มะปราง
ครบรอบคบกันเป็นยังไงบ้าง? “โอเคครับผม เป็นอีก 1 ปีที่ถือว่าเดินทางมาด้วยกัน”
กี่ปีแล้ว? “4 ปีครับผม เวลาผ่านไปไวมาก”
จากวันนั้นถึงวันนี้เป็นยังไง? “จริงๆ ตอนแรกที่คุยกันเหมือนนิสัยไม่เข้ากันเลยครับ เพราะต้องปรับอะไรหลายๆ อย่างจนรอดมาถึงทุกวันนี้ก็โอเคแล้วครับ แต่ก็ยังตีกันอยู่ครับ (หัวเราะ)”
Advertisement
เหตุการณ์วันนั้นเป็นยังไง? “ไปกินข้าวด้วยกันครับวันนั้น ปิดท้ายด้วยวันนั้นพาไปเลี้ยงหมูกะทะ”
มีของพิเศษอะไรให้ไหม? “ไม่ได้มีขนาดนั้นครับ ก็นี่แหละครับของพิเศษคือหมูกะทะ (หัวเราะ)”
ทำไมเป็นหมูกะทะ? “ต้องบอกก่อนว่าปกติเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยกินของอะไรพวกนี้เลย ชาบู พวกหมูกะทะแต่หลังๆจะเห็นได้ตามไอจีสตอรี่เขาว่าเขาไปกินเยอะขึ้น ส่วนตัวผมเป็นคนกินไง ก็เลยชวนกันกินจนเขาชอบ สุดท้ายแล้วก็อยากกินมาสักพักแล้วไม่ได้กินไรงี้ ก็เลยไปกิน”
แกล้งใช่ไหม เห็นชอบแกล้งกัน? “ไม่ได้แกล้ง คือไปกินด้วยกันเป็นปกติอยู่แล้วครับ”
แล้วอาหารญี่ปุ่นล่ะ? “อาหารญี่ปุ่นก็เป็นวันนั้น แต่อีกวันนึงถือเป็นมื้อพิเศษ เหมือนกับว่า อยากกินมานานแล้ว”
ถามถึงเรื่องที่มะปรางโดนบลูลี่เรื่องหน้าอก? “จริงๆแล้ว ผมรู้สึกว่าร่างกายมันเป็นของใครของมันเนอะ ถ้าสมมติตัวเขาโอเค ผมก็รู้สึกว่าโอเคกับเขา คือแต่ละคนมีสรีระร่างกายที่ไม่เหมือนกัน ไม่ควรเอาส่วนนั้นมาบูลลี่กัน”
เราเข้าใจเขา? “ใช่ เข้าใจเขา ให้กำลังใจเขา คนมาคอมเมนต์อะไรไม่เป็นไรหรอก คือสุดท้ายแล้วมันเป็นร่างกายของเรา คือเขาไม่ได้มาเข้าใจว่าเราเกิดมาเป็นแบบนี้ๆ คือจริงๆ เขาก็ควรต้องรู้ตัวเองแหละว่าเขาไม่ควรไปบูลลี่ใคร”
ตอนเขาเจอคอมเมนต์เขานอยด์ไหม? “เขาไม่ได้นอยด์ครับ คือเขารู้ตัวเองครับ หมายถึงเขารู้ว่าเขาเป็นแบบนี้ มันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เขาก็ได้แต่บอกว่า ผมก็บอกว่าช่างมันเถอะ มันไม่ได้หนักหนาอะไร เธอยังยอมรับในสิ่งๆ นี้ได้เลย ทำไมเขาต้องมาเดือดร้อนแทนเธอด้วย”
หลายคนก็แซวว่าอัพไซซ์ไหม วันนั้นเขาก็ขำๆว่าถ้ามีงานที่ต้องทำถึงค่อยอัพไซซ์รู้สึกยังไงบ้าง?
“(หัวเราะ) เป็นเรื่องของเขาครับ สมมติว่าเขาจะตัดสินใจทำมันก็เป็นเรื่องของเขา ผมไม่ได้มีสิทธิ์ว่า ห้ามทำ มันเป็นร่างกายของเขา”
โอบรู้สึกยังไงกับชุดที่เขาใส่เดินแฟชั่นวันนั้น? “ผมตกใจอยู่เหมือนกัน (หัวเราะ)”
เขาบอกว่าโอบไปเห็นหลังเวที? “ใช่ครับ ผมตกใจอยู่ว่า เบอร์นี้เลยเหรอ แต่สุดท้ายแล้วก็คือเขาบอกว่าอย่าไปคิดมากมันเป็นงาน มันคือแฟชั่นโชว์นางแบบต่างประเทศเขาใส่มากกว่านี้อีก”
มีหวงบ้างไหม? “จริงๆ ลึกแล้วก็ต้องมีหวงบ้างแหละครับ แต่ว่ามันมีคำว่างานมันก็เลยไม่เป็นไร ปกติเขาคงไม่ได้ใส่แบบนี้เป็นปกติอยู่แล้วเป็นโอกาสของเขา เขาอยากลองทำอะไรแบบนี้ดู อยากได้งานเดินแบบ อยากลองใส่เสื้อผ้าแบบนี้ก็โอเค”
หลังจากวันนั้นได้คุยกันไหมถ้าเป็นชุดแบบนั้นอีก? “จริงๆก็บอกว่าวันหลังขอดูก่อนนิดนึงนะจะได้ไม่มาเจอของจริงแล้วช็อกอีก”
เขาโอเคไหม? “เขาก็โอเค เขาก็ได้จะบอกก่อน เหมือนวันนั้นมันปุ๊บปั๊บๆ ผมก็ทำงาน เขาก็ไปฟิตติ้งด้วยความเร่งรีบ”
แล้วโอบล่ะ? “ไม่ครับ ผมไม่ค่อยได้โชว์ครับ ผมกินเยอะไปหน่อยผมเลยไม่ได้กล้าโชว์”
ถ้าเขาจะเซ็กซี่เรารู้สึกยังไงบ้าง? “เขารู้ว่าตัวเขามีลิมิตแค่ที่ไหนครับ ผมรู้สึกว่าเขาทำอะไรในสิ่งนี้ ผมก็ให้เกียรติเขาในการที่เขาอยากจะเป็นตัวเองมากกว่า ไม่ได้ห้ามขนาดนั้นแต่แค่เห็นคนชอบไปบอกว่าผมไปแซว ผมก็แซวเล่นๆบางทีแต่ว่าลึกๆ เขาน่าจะรู้ตัวเองแล้วว่าเราควรจะได้แค่ไหน”
