เพื่อนรักแตกหัก มารี – มะปราง เคลียร์ใจทั้งน้ำตา เหตุจากแฟนเก่าและความเฟรนด์ลี่ หลายปีกับความสัมพันธ์แตกร้าว ก่อนถึงจุดต้องจับเข่าคุย ยังอยากให้มีเพื่อนคนนี้อยู่ในชีวิต

เกาะติดข่าว กดติดตามข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

มารี เบรินเนอร์ กับ ฝากไว้ให้คิด มาเปิดเผยเรื่องราวของตัวเอง พร้อมสโลแกน ผู้หญิงเฟรนด์ลี่แอ๊บหรืออ่อยทำบ่อยๆระวังโดนตบ พร้อมทั้งพาคู่กรณีมาด้วย

จนทีมงานถามจะมาตบกันในรายการหรือเปล่า มารี รีบบอก ไม่ตบกันหรอกก็แค่มาเล่า เขาเป็นตัวเฟรนด์ลี่ เราเป็นตัวตบ ก่อนจะบอกไม่เคยตบ แค่เหตุการณ์ที่เคยเจอ คิดว่าทุกคนอาจจะเคยเจอผู้หญิงที่เฟรนด์ลี่เกินไปหรือผู้ชายที่เฟรนด์ลี่มากแต่บอกว่าไม่ได้คิดอะไร

ก่อนจะเปิดตัวคู่กรณี คือ มะปราง อลิสา เจ้าตัวบอกว่า รู้จักกันมาถ้าแบบไม่สนิทก็ 5-6 ปี ถ้าตอนสนิทก็เมื่อวาน เข้าใจกันตอนแก่ ถามมะปรางว่าเป็นผู้หญิงแบบไหน เฟรนด์ลี่ แอ๊บหรืออ่อย มะปราง ตอบเลยว่า เฟรนด์ลี่ แอ๊บบ้างบางเวลา อ่อยบ้างบางที มารี ถามอ่อยใคร มะปราง สวนทันที “ไม่ใช่ผัวมึงแล้วกัน”

เปิดประเด็นเลย มารี กล่าวว่า เราสองคนเคยทะเลาะกันเพราะความเฟรนด์ลี่ของมะปราง ด้าน มะปราง เล่าว่า ตื่นเต้นกับฟีเจอร์ใหม่ เฟซบุ๊กไลฟ์ ดันไปเจอแฟนมารีที่สนามบิน เป็นไฟลต์กลับ เราไปกับที่บ้าน พ่อแม่น้องสาวครบ คือรู้จักเป็นเพื่อนแบบไม่สนิท แล้วก็ชวนมาไลฟ์ ด้วยความเฟรนด์ลี่ของกูที่กูไม่ได้คิดอะไร

มารี กล่าวบ้างว่า มันชวนผู้ชายที่มันบอกว่ามันก็ไม่ได้เป็นเพื่อนอะไรขนาดนั้น ก็แค่เฟรนด์ลี่เฮ้ยเธอมาไลฟ์กันหน่อย มะปราง อธิบายอีกว่า ให้ความสำคัญเพื่อนผู้ชายเท่าๆกัน หมายถึงว่าไม่ได้มีเพื่อนผู้ชายที่สนิทมาก ตอนไลฟ์น้องสาวก็นั่งหัวโด่อยู่นะ

ขณะมารีอยู่ที่กรุงเทพฯตอนนั้น เจ้าตัวบอกว่า กำลังทะเลาะกันพอดีเลย ทะเลาะกับแฟน สักพักมีเพื่อนส่งลิงก์เฟซบุ๊กไลฟ์ของมะปรางมา มันอยู่ฮ่องกงกับผู้หญิง ไลฟ์สดในเฟซบุ๊ก ผู้หญิงคนนี้ไหนบอกเป็นเพื่อนกูไง

“โอ้โหหน้าชา ณ จุดนั้น มีความรู้สึกว่ามึงเป็นเพื่อนกู ต่อให้สนิทหรือไม่สนิท สำหรับกูเพื่อนคือเพื่อน ทำไมไม่มีใครบอกกูเลยว่ะ เขาก็ไม่บอกกูว่าเจอมึง มึงก็ไม่บอกกูว่าเจอเขา ร้องไห้หนักมากรู้สึกเหมือนโดนสองต่อ นี่ก็ใส่ผู้ชายฝ่ายเดียว”

มะปราง เผยบ้างว่า ที่รู้ที่ปรี๊ดคือ เพื่อนพูดว่าเราหนีไปเที่ยวกับแฟนมัน ประโยคนี้ เราได้ยินมาแบบนี้ เราก็แบบเฮ้ยมันไม่ใช่ไปกันใหญ่แล้ว

มารี ย้อนอดีตให้ฟังอีกว่า พอถึงเวลาที่ดีกับแฟนแล้วก็ลืมเรื่องนี้ไป แต่ผู้หญิงคนนี้คือ Red Flag (หมายหัวไว้แล้ว) แต่ตอนหลังเหมือนมีกรุ๊ปแชทหนึ่งมี 4 คน มีแฟนเรา เพื่อนสนิทของแฟนเราซึ่งเป็นผู้ชาย และแฟนของเพื่อน แล้วก็มีมะปราง

มะปราง กล่าวบ้างว่า เราไม่เคยคิดอะไร เหมือนบ้านอยู่ใกล้ๆกัน คือ ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้สึก มารี เผยอีกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทมะปราง เรารู้สึกว่าเหมือนมึงพยายามจะจับคู่เพื่อนมึงกับแฟนกู เพื่อให้มึงไปไหนด้วยกัน 4 คน แต่สิ่งที่โกรธคือเหมือนมีการพิมพ์กันในแชทพูดถึงเรา ฟีลเหมือนเม้าธ์ว่า “5555 มารีโมโหว่ะ” ขำๆกันเรารู้สึกแบบโคตรไม่ให้เกียรติ

มารี ยังบอกอีกว่า “มันมีวันหนึ่งเหมือนเห็นแฟนคุยอะไรสักอย่างในไลน์กับมึง นี่ปรี๊ดแตกไม่ไหว แล้วก็ไปทะเลาะกันในรถ” ทีมงานถามมะปรางรู้ไหมว่าเราเป็นสาเหตุทำให้มารีถีบกระจกรถ มะปราง บอกมารู้ตอนหลัง

มารี เล่าต่ออีกว่า เขาก็ไลน์ไปหามึงว่าทะเลาะกับมารีอยู่ แล้วมึงก็โทรมา นึกออกป่ะกูทะเลาะกับแฟนอยู่ มึงเสือกไปบอกผู้หญิงที่กูกำลังทะเลาะกับมึงเรื่องคนนี้ว่ามึงทะเลาะกับกูเรื่องคนนี้อยู่ มึงใช้อะไรคิด กูเลยโมโหมาก

พอมะปรางโทรมาอธิบายก็โอเคเหมือนสงบ มะปรางบอกว่าเดี๋ยวกูแคปแชทให้ดูเลยก็ได้ว่าคุยอะไรกันบ้าง แคปมาประมาณ 10 อัน แต่มีอันหนึ่งที่มันมาครึ่งหน้าเว้ย ทำไมต้อบครอปอ่ะ มะปรางบอกว่าไม่รู้สงสัยมือมันไปโดน ให้แคปมาใหม่ มึงบอกว่าลบไปแล้ว เป็นจุดที่ทำให้กูรู้ว่ามันมีอะไรแน่ๆ ชัวร์ๆ มารี เล่าโมเมนต์เดือดตอนนั้น

ด้านมะปราง อธิบายว่า เราต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง ไม่มีอะไรจะแคปแชทไปให้มันดู ผู้ชายของเขาไลน์มาบอกว่า อย่าส่งแชทไปให้มารีดู มารี บอกไม่รู้แต่ก็พอเดาได้ว่าสันดานมันประมาณไหน

มะปรางเล่าอีกว่า ถ้าไม่ส่งมันคือเรื่องจริง เราส่งที่เว้นไว้มันคือเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องมึง ส่งไปมึงอ่านแล้วก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างนั้น แต่ยังไม่จบ ผู้ชายของเขาก็พิมพ์มาเหมือนตำหนิว่าไปแคปแชทส่งให้ทำไม เห็นไหมมีปัญหากันเลย กูก็แบบอะไรว่ะ เรื่องระหว่างเรามันไม่ได้มีอะไรเลย คือมึงโมโหทำไม

มารี ถามมะปราง ไม่รู้สึกว่าผู้ชายชอบเหรอ มะปรางตอบทันที ไม่รู้สึก มันไม่รู้สึก มารี บอกเลย ชอบปลื้มมาก คดีเยอะ จากทั้งหมดที่รู้จักกับผู้ชายคนนี้มา เราก็โดนกดดันจากทางผู้ชายเหมือนกัน เขาเก่งมากนะ ทำให้เพื่อนเราที่เป็นเพื่อนเราด้วยซ้ำ สามารถทำให้โกหกเราได้

มะปราง บอกด้วยว่า พอเจอตามงานอีเว้นต์ เพื่อนชวนไป เพื่อนของเพื่อนไปเจอกัน พยายามจะเดินไปทัก นางก็ไม่อยากคุย ก็เลยคิดว่าไม่รู้จะเคลียร์กันยังไง คิดว่าสักวันถ้ามีโอกาสจริงๆ กูจะเคลียร์กับมึง

โดย มะปรางถึงกับปาดน้ำตา พร้อมเผยวันหนึ่งไปคาราโอเกะ เดินเข้าไปนางก็เก็บกระเป๋าท่าเดิมเลย จะลุกออกแล้ว เลยบอกว่ามึงเราไปคุยกันหน่อยไหม
มารี เล่าบ้างว่า มะปรางบอกว่ามองมึงเป็นเพื่อนมาตลอดไม่อยากเสียเพื่อนดีๆไป กูไม่รู้ว่ากูมาขอโทษมึงทำไม หรือกูมานั่งคุยกับมึงทำไม พูดเหมือนประมาณว่าอยากมีคนนี้อยู่ในชีวิต เหมือนสัมผัสได้ถึงความเป็นเพื่อน แล้วมันก็ร้องไห้

ถามว่าทำไมไม่เลิกคบไปเลย มะปราง บอกว่า อายุตอนนั้น เราไม่ได้ทำอะไร เรายังอยากจะสู้ ปกป้องความจริง ก็อยู่ในใจมาตลอด เจอมันมันก็ต้องหนีเราอีกแล้ว มันเห็นหน้าเรามันลุกออกไปเลย เขาเหมือนอยู่เป็นกรุ๊ปใหญ่ เราเหมือนเป็น 1 คนที่โดนแบน เดินเข้าไปแล้วทุกคนมองแปลกๆ เก็บมาหลายปีมาก

มะปราง น้ำตาไหลเผยอีกว่า เราเหมือนแบบ อยู่แบบไม่มีกลุ่มเพื่อน เขาจะกลุ่มใหญ่มากๆ เราจะโดนมองเหมือนทำผิดตลอด เพื่อนซุบซิบกัน ถ้าด่ามาด่าเลยจะได้จบ พอไม่มีการคุยทำให้เรื่องมันสะสม มันแรงกว่าเดิม เขาจะได้ใจกูได้ไหมสักวันหนึ่ง

พร้อมเผยถึงวันนั้นได้เคลียร์ใจกัน อธิบายเรื่องราวและทำความเข้าใจกัน ไม่มีใครผิดใครถูกแต่ต้องพูดคุยกันให้เข้าใจ ต่างก็ร้องไห้กันทั้งคู่ดีใจกับการกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง

 

ขอบคุณที่มา มารีฝากไว้ให้คิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน