ลูกน้ำ พาเมล่า เผยเส้นทางในวงการกว่า 39 ปี โดนบูลลี่รูปร่างอ้วนมาตลอด เปิดใจครั้งแรกหลังสูญเสียคุณแม่ ได้ธรรมมะเป็นที่พึ่ง เผยชีวิตโสดสุขคนเดียวได้

“ลูกน้ำ” พาเมล่า เบาว์เด้นท์ อดีตนักร้องเจ้าของฉายา สะโพกทอร์นาโด ที่วันนี้มาเปิดเผยเส้นทางในวงการบันเทิง โดนบูลลี่เรื่องรูปร่างว่าอ้วนมาตลอด 39 ปี ในรายการ “คุยแซ่บSHOW” ทางช่อง One31 ที่มี “หนิง” ปณิตา ธรรมวัฒนะ และ“ธัญญ่า” ธัญญาเรศ เองตระกูล เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

โควิดได้รับผลกระทบอะไรบ้าง? ลูกน้ำ : “งานที่ทำอยู่ตอนนี้ต้องหยุดหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นละคร 2 เรื่องต้องหยุดไปเลย ส่วนเรื่องร้องเพลงไม่มีอยู่แล้ว นี่ก็หยุดมาตั้งแต่โควิดรอบที่แล้ว ที่กระทบตรงๆ เรื่องงานไม่ค่อยเป็นปัญหาเท่าไหร่”

อยู่วงการบันเทิงมา 39 ปี? ลูกน้ำ : “เข้าครั้งแรกตอนอายุ 13 คือเราเริ่มจากโฆษณา ถ่ายแบบ ถ่ายแฟชั่น และเล่นละคร มาร้องเพลงครั้งแรกตอนอายุ 19 ที่เข้าวงการมาได้จากการที่เรามีรุ่นพี่เป็นนางแบบซึ่งเขาสังกัดโมเดลลิ่ง เขาก็ชวนเราไปเทสต์หน้ากล้องก็ได้งานโฆษณามาประปราย แล้วก็ไปถ่ายแฟชั่นหนังสือ แล้วผู้ใหญ่ทางช่องก็ไปเห็นในหนังสือเลยเรียกเข้ามาคุย ชอบงานแสดงไหม ชอบร้องเพลงด้วยหรือเปล่า ก็เลยมีโอกาสเซ็นสัญญา 2 ฉบับพร้อมกัน ทั้งเล่นละครและร้องเพลง แต่ร้องเพลงต้องไปเรียนเพิ่ม เลยกลายเป็นว่าเล่นละครก่อน แต่จริงๆ แล้วเริ่มพร้อมกัน”

ตอนไปแคสงานเห็นว่าหนีคุณแม่ไป? ลูกน้ำ : “ก็หนี เพราะว่าเราไปขอแล้วคุณแม่ใม่ให้ไป คือสมัยก่อนงานในวงการบันเทิงมันค่อนข้างจำกัด ท่านก็กลัวว่าเราจะโดนหลอกหรือเปล่า ไปแล้วจะดูแลตัวเองได้ไหม จะเสียการเรียนไหม พอเลิกเรียนเราก็แอบไป เราก็บอกท่านว่าไปติวหนังสือบ้าง มีรายงานบ้าง ส่วนเรื่องที่หนีแม่ไปประกวดนางงามนั้น เพื่อนชวนไปประกวดมิสทีนสยามเซ็นเตอร์ ตอนนั้นเราอายุ 16-17 เราก็ไปเป็นเพื่อนเพื่อน คุณแม่ก็ไม่รู้เพราะเราไปช่วงวันเสาร์วันอาทิตย์ งานนั้นเราก็ได้รางวัลมารองอันดับหนึ่ง เราเอาถ้วยรางวัลไปอวดคุณแม่ที่บ้าน คุณแม่ก็ถือไม้เรียวมาตี ที่ท่านตีเพราะท่านกลัวว่าเราจะเป็นอันตราย แต่เราดื้อ เราก็บอกท่านว่ามันไม่เสียหาย แล้วเงินที่ได้มาเราขอเอาไปจ่ายค่าเทอม ซึ่งท่านก็มองเห็นความตั้งใจจริงของเรา แล้วเหมือนห้ามไม่ได้ด้วยท่านก็เลยอนุญาต แต่กำชับว่าเราต้องดูแลตัวเองให้ดี”

ตอนเล่นละครเรื่องแรกเป็นอย่างไรบ้าง? ลูกน้ำ : “ตอนนั้นสนุกมากเลย ตอนนั้นเล่นเรื่องนิยายรักนักศึกษา เรารู้สึกเป็นประสบการณ์ใหม่ เราใฝ่ฝันอยากเป็นแบบนี้ หลังจากนั้นเราก็มีโอกาสได้เล่นละครฟอร์มใหญ่เรื่องสี่แผ่นดิน ของพี่ไก่ ตอนนั้นตื่นเต้นมากเพราะมีแต่ดาราดังอย่างพี่นก ฉัตรชัย พี่แหม่มจินตรา แต่ทุกท่านใจดีมาก ให้ความรักความเมตตากับเรา ก็เลยผ่านไปด้วยดี”

ละครกับร้องเพลงอะไรยากง่ายกว่ากัน? ลูกน้ำ : “มันยากคนละแบบ อย่างละครมันจะยากตรงที่เราต้องไปเล่นเป็นคนอื่น เป็นบุคคลิกที่เราไม่คุ้นเคย แต่เพลงมันยากตรงที่เราจะต้องไปเจออะไร เวลาแสดงคอนเสิร์ต เราต้องไปเจออะไร มันต้องไปแก้ปัญหาหน้างาน แต่ร้องเพลงสนุกเพราะเราเป็นตัวของตัวเอง อยากทำอะไรก็ทำ”

เล่นละครก็เก่งร้องเพลงก็เพราะ แต่ตอนนั้นก็ยังโดนบูลลี่? ลูกน้ำ : “โดนเยอะอย่างตอนที่ออกอัลบั้มทอร์นาโดตอนนั้นเป็นคนอวบๆ ก็มีคนเขียนจดหมายมาหาคนที่เราคุยด้วยบอกว่าพาเมล่าไม่เหมาะที่จะเป็นแฟนเพราะว่าพาเมล่าอ้วน พี่เหมาะกับผู้หญิงตัวเล็กๆ มากกว่า คือเราอ่านก็นั่งขำกัน ตอนนั้นยอมรับว่าเสียใจบ้าง แต่หลังจากนั้นเราก็คิดได้ว่าเราคงอ้วน เขาคงไม่สบายใจงั้นเราก็ลดน้ำหนักแล้วกัน ส่วนแบบที่บูลลี่ต่อหน้าก็มี ล่าสุดเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี่เอง คือเราไปเที่ยวต่างจังหวัด แล้วไปเที่ยวห้างซึ่งข้างในมีบ้านผีสิง เขาจะให้พนักงานแต่งเป็นผีแล้วเรียกคนเข้าไปเที่ยว เขาก็เดินผ่านข้างหลังเราแล้วบอกว่า อ้วนกว่าในทีวีอีกนะ เราก็หันไปบอกเขาว่าขอบคุณค่ะ คือเหมือนเขามาเตือนเราว่าเราอ้วนไปแล้วนะ”

เห็นว่ามีช่วงหนึ่งเลือกทานยาลดความอ้วน? ลูกน้ำ : “ใช่ คือตอนที่เราอายุ 20 ต้นๆ เราน้ำหนักขึ้น แล้วบังเอิญมีละครเข้ามาแล้วเราต้องการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน ก็มีพี่ที่แนะนำว่าเขากินยา เราก็เลยลองกินดี ซึ่งตอนนั้นเราก็ลดไปเป็น 10 กิโลจริงๆ เราก็รู้สึกว่ามันเป็นทางลัดที่ดี เราก็เลยใช้วิธีนี้มาตลอด กินจนมันดื้อยา จนไม่มียาตัวไหนที่สามารถเอาเราลงได้อีกแล้ว”

อยากบอกถึงใครที่อยากลดความอ้วนโดยการกินยาบ้างไหม? ลูกน้ำ : “อย่าใช้ทางลัดเลย เอาจริงๆ นะ หาตัวช่วยได้ อย่างระบบเผาผลาญเราช้าเราก็ทานพริกไทยให้มันเบิร์นได้ แต่ถ้าเป็นยาลดความอ้วนโดยตรง มันไม่ได้ส่งผลแค่การโยโย่ แต่รวมถึงเรื่องของหัวใจ เรื่องระบบในร่างกายมันส่งผลกระทบไปหมดในระยะยาวไม่ดีแน่นอน มันเป็นยาพิษ”

ทราบข่าวมาว่าคุณแม่เพิ่งเสียชีวิต? ลูกน้ำ : “วันที่ 5 ปีที่แล้ว ช่วงโควิดพอดี คือคุณแม่เป็นมะเร็งที่ลำไส้ใหญ่ คือตอนแรกไม่มีใครรู้ว่าคุณแม่เป็น คิดว่าเป็นโรคกระเพาะเพราะปวดท้อง ท่านมีอาการปวดท้องอย่างเดียว ซึ่งวันที่ไปเจอมันเป็นระยะที่ 3 แล้วลุกลามไปใหญ่แล้ว ก็ต้องผ่าออกอย่างเดียว ส่วนฉายแสง คีโม ทำไม่ได้เพราะท่านน้ำหนักไม่ถึง หลังผ่าก็กลับมาพักฟื้นที่บ้าน ก็ปกติดี แต่เราก็ไม่นิ่งนอนใจก็จ้างพยาบาลพิเศษมาคอยดูแลท่าน แล้วตัวเราเองปกติจะมีภารกิจหลักๆ อยู่ที่ต่างจังหวัด เรารู้สึกวางใจเรื่องคุณแม่แล้ว เราก็เลยไปทำภารกิจที่ต่างจังหวัด ซึ่งตรงกับช่วงโควิดพอดีซึ่งเดินทางไม่ได้ อยู่ดีๆ คุณแม่ก็เข้าโรงพยาบาลเพราะอาการทรุด เราก็งงว่าทำไมทรุด เพราะเมื่อวานก็ยังวิดีโอคอลคุยกันว่าวันศุกร์น้ำจะไปหาแม่แล้วนะ ซึ่งวันที่คุยกับคุณแม่เป็นวันพุธ ปรากฎว่าวันพฤหัสบดีคุณแม่เสีย เราก็อึ้งไปเลยเพราะเราเสียใจมาก แต่ถ้าเราจะจมอยู่กับความเสียใจ ชีวิตที่เหลือทั้งหมดมันจะทุกข์ เราต้องเลือกระหว่าง 1 นาทีความเสียใจ กับ 1 นาทีที่เราไม่ได้จากลา หรือหลายร้อยล้านนาทีที่ผ่านมาที่เราได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข ซึ่งน้ำขอเลือกอย่างหลัง เราก็คุยกับแม่ที่งานศพท่านฟังทุกอย่างว่าเรื่องเป็นแบบนี้ เพราะคุณแม่เป็นตัวอย่างให้เรามาตลอดในเรื่องของมรณานุสติ คุณแม่จะพูดเสมอว่า ร่างกายยืมเขามานะลูก ถึงเวลาก็ต้องคืนเขาไป คนเราเกิดมาก็ต้องตายเป็นเรื่องปกติ มันไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่ ทุกคนต้องเจอแบบนั้น แล้วคุณแม่ก็ทำให้เราดู ตอนที่คุณยายเสีย คุณแม่เป็นคนเดียวที่ไม่ร้องไห้ให้ลูกหลานเห็นเลย แม่กระทั่งวันเผา ท่านก็ส่งคุณยายด้วยรอยยิ้ม แต่เราอาจจะทำได้ไม่เท่าท่าน วันส่งท่านเผา เราก็อาจจะมีน้ำตา แต่เราก็สัญญากับแม่ว่า ชีวิตที่เหลือของเราทั้งหมดเราจะเป็นคนที่ดี จะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง เราก็เลยเลือกที่จะอยู่กับความรู้สึกแบบนั้น และเราก็เชื่อว่าท่านรับรู้ได้”

ทำไมอยู่ๆ ถึงมีแนวคิดบวกไปหมด? ลูกน้ำ : “อาจจะเป็นที่เราปฎิบัติธรรมด้วย และเราได้เห็นคุณค่าตรงนั้น แล้วเราได้นำกลับมาใช้ ซี่งมันใช้ได้ผลจริงๆ มันไม่มีกองไฟใดที่เหมาะให้เราไปกอดไว้ให้เราร้อน ไม่มีขยะชิ้นใดที่เหมาะหรือคู่ควรที่เราจะเก็บไว้ในบ้านของเรา เพราะฉะนั้นเรื่องไหนที่เป็นเรื่องไม่ดีเราก็ผ่านมันไปซะ ไม่จำเป็นต้องกอดต้องให้ราคามัน เราก็จะอยู่อย่างมีความสุข เพราะไม่มีใครให้ความสุขเราได้เท่าตัวเราเอง ไม่มีใครมารับผิดชอบตัวเราได้”

เริ่มมาปฎิบัติธรรมตอนไหน? ลูกน้ำ : “นานแล้ว ตอนนั้นเพื่อนชวนไปวิปัสสนา คือเรารู้สึกว่าศาสนาพุทธมันต้องมีมากกว่าการไปวัด มากกว่าการใส่บาตร พอเพื่อชวนเราก็เลยไป แล้วเราก็รู้สึกว่าเราได้อะไรจากตรงนั้นเยอะมาก จนกระทั่งเราได้เจอคำสั่งสอนของหลวงพ่อเจริญ ปานจัน วัดถ้ำกระบอก ท่านสอนถึงรากถึงแก่นให้เราถอนนิสัยที่ไม่ดีของเราทิ้ง ถ้าเราถอนไปเรื่อยๆ วิปัสสนาจะเกิดขึ้นเอง เพราะเราจะอยู่กับการกระทำของเราโดยไม่รู้ตัว แล้วเราก็ไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย”

ปฏิบัติธรรมขนาดนี้มีลางบอกเหตุก่อนคุณแม่จะเสียบ้างไหม? ลูกน้ำ : “ไม่มีเลย มีแต่คุณแม่จะบอกอยู่ดีๆ ท่านก็พูดว่าถ้าวันนึงท่านตายไปแล้ว อยู่กับน้อง รักกันให้มากๆ นะลูก ท่านพูดแค่นี้เอง ไม่ได้พูดมากไปกว่านั้น ประโยคสุดท้ายที่ได้พูดกับท่าน แต่ท่านไม่ได้ตอบ คือเราได้พูดกับท่านว่า คนสวยสู้ๆ นะ เดี๋ยวเจอกันนะคะ คือตอนนั้นท่านเหนื่อย ท่านพูดไม่ได้แล้ว”

หลังจากคุณแม่เสีย คุณแม่มาเข้าฝันด้วย? ลูกน้ำ : “ท่านมา 2 ครั้ง ครั้งแรกหลังจากที่เผาท่านไปวันสองวัน คือฝันว่าไปอยู่ที่บ้านไม้หลังใหญ่ เขาหิ้วกระเป๋าไปแล้วไปอยู่ตรงแคร่ ซึ่งบ้านไม้หลังนั้นเป็นบ้านที่หลวงพ่อเจริญ ปานจัน ท่านสร้างไว้ ตื่นเช้ามาเราก็เข้าห้องพระกราบขอบคุณหลวงพ่อ คือเราฝากจิตวิญญาณของคุณแม่ไว้กับหลวงพ่อ หลังจากนั้น 3-4 วันก็ฝันเห็นคุณแม่อีกครั้ง คราวนี้กลับมาอยู่ที่บ้านที่กรุงเทพ ท่านเห็นเราท่านก็ยิ้มแล้วก็กอดเรา บอกเราว่า ขอบใจมากนะลูก แค่นี้แหละ”

ตอนนี้ก็ครบรอบ 1 ปีแล้ว วันนี้อยากจะบอกอะไรท่าน? ลูกน้ำ : “อยากบอกคุณแม่ว่าลูกคนนี้ก็ยังเป็นลูกของแม่ เป็นลูกที่เข้มแข็ง เป็นลูกที่คุณแม่พร่ำสอนมาตลอดว่าอยากให้เราเป็นแบบนี้ แล้วเราก็เป็น น้ำอยากบอกว่าน้ำมีความสุขในทุกวัน แม่ยังอยู่กับน้ำเสมอไม่ได้ไปไหน ร่างกายนี้ที่พ่อแม่ให้ไว้ น้ำจะดูแลให้ดีที่สุด และใช้มันไปในทางที่ดีที่สุด เป็นประโยชน์ที่สุด ทั้งต่อตัวเอง ตัวเพื่อนๆ ต่อทุกๆ คน เท่าที่น้ำจะทำได้ ไม่ต้องห่วง”

เมื่ออดีตเคยคบนักร้อง นักแสดงชื่อดัง? ลูกน้ำ : “ค่ะ ตอนนั้นอายุ 17-18 เป็นป๊อปปี้เลิฟ ซึ่งเราแทบไม่เจอกันเลย ด้วยเราเรียนหนังสืออยู่ เขาได้เบอร์เราจากโมเดลลิ่ง ตอนนั้นไม่มีข่าว เพราะมันเป็นแค่การคุยกันเฉยๆ”

ได้ข่าวว่าวันหนึ่งมาเล่นละคร ก็มีผู้จัดท่านหนึ่งพาป๊อปปี้เลิฟมาเล่นละครเรื่องเดียวกัน? ลูกน้ำ : “ใช่ แล้วไม่บอกเราก่อนด้วย พอเจอหน้ากันก็ดีเลย เพราะจากที่เคยมีอะไรค้างคากันจะได้เคลียร์ใจเพราะละครเรื่องหนึ่งต้องเล่น 7-8 เดือน ก็ได้ปรับความรู้สึกเป็นพี่เป็นน้องกันจริงๆ อะไรที่เราเคยก้าวล่วงเขาไป เราก็จะได้มีโอกาสไถ่โทษตรงนี้ เป็นน้องที่ดีในกองถ่าย ถามว่าสปาร์คขึ้นมาอีกไหม ไม่กล้า คือเรากลัวทำให้เขาลำบากใจ และด้วยหน้าที่การงาน งานก็ต้องมาก่อน ความรู้สึกก็จะค่อยๆ หายไป ส่วนสาเหตุที่เลิกกันเพราะด้วยความที่เป็นเด็กทั้งคู่ เวลาเจอกันก็ไม่ค่อยมี คุยกันเหมือนจะดีแต่มันก็ไม่ได้ลงล็อกหรือคลิ๊กอะไรมาก หลังๆ เราก็จะงี่เง่างอแง ก็เลยไม่ได้มีโอกาสสานสัมพันธ์ต่ออย่างจริงจัง”

ตอนนี้มีหนุ่มคนไหนที่พิชิตใจเราได้? ลูกน้ำ : “ไม่มีมา 10 กว่าปีแล้ว ที่ไม่มีเพราะใจเราไม่เอาแล้ว เราพอแล้ว เพราะที่ผ่านมามันเหนื่อย ตอนนี้เรามีความสุข มีกองถ่าย มีร้านกาแฟ มีเพื่อน มีร่มไม้ที่เป็นธรรมะ ตอนนี้เราโอเค”

ที่ผ่านมาเรื่องความรักไม่ดีทำให้คิดว่าตอนนี้ดีที่สุด? ลูกน้ำ : “ใช่ คือบางทีเราเหนื่อย มันเหมือนเป็นแพทเทิร์น มันเริ่มต้นด้วยความสวยงาม ไปสักพักจะมีปัญหาตรงนี้เกิดขึ้น แล้วต่างคนต่างไม่ยอมเพราะคิดว่าตัวเองไม่ผิด สุดท้ายก็ต้องเลิกลากันไป คือถ้าเจอคู่ชีวิตที่เหมือนเพื่อนกันได้ มันจะดีมากเพราะมันจะประคองกันไปจนแก่จนเฒ่า แต่บังเอิญเราไม่ได้เจอตรงนั้น เราเลยรู้สึกว่าเราอยู่คนเดียวได้ เราแก่เฒ่าคนเดียวได้ เราโอเค ถามว่าโสดแล้วโอเคไหม สำหรับเราโอเคนะ”

คลิปสัมภาษณ์ ลูกน้ำ พาเมล่า บาวเด้นท์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน