ฟิล์ม รัฐภูมิ เปิดทุกปัญหาที่ถาโถม บ้านล้มละลาย ปั่นไอติมขาย ชีวิตถูกดึงให้ต่ำลง สิ่งที่เข้ามาทำให้ชีวิตแกร่งขึ้น

ฟิล์ม รัฐภูมิ เปิดทุกปัญหาที่ถาโถม / เจอมรสุมถาโถมซัดปัญหาเข้ามาในชีวิตเป็นระลอกๆแต่แมวเก้าชีวิตอย่าง ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ก็รอดมาได้ทุกครั้ง เมื่อได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561

ฟิล์ม รัฐภูมิ เปิดทุกปัญหาที่ถาโถม

เจ้าตัวเปิดหมดทุกมุมของชีวิต ที่บางเรื่องก็ไม่เคยพูดที่ไหนขอเปิดในที่นี่เป็นที่แรก ต้องสู้ชีวิตตั้งแต่เด็กๆ บ้านล้มลายเพราะคุณพ่อถูกโกงจน ตนเองกับพี่ชายต้องขายเศษเหล็ก และปั่นไอติมขาย พอชีวิตในวงการกำลังรุ่งโรจน์ ก็ถูกดึงในตกลงมาเพราะความสงสาร แต่ในความโชคร้ายตอนนั้นก็ยังมีความโชคดีอยู่ที่มีคนรักที่เข้าใจ แต่สุดท้ายต้องจบกันเพราะความห่างไกล

พร้อมเล่าเรื่องชีวิตที่ต้องอดทนกับคำดูถูกที่ ฟิล์ม บอกไม่เคยยอมแพ้และก็ต่อสู้กับโชคชะตาที่แข็งแกร่งได้เพราะครอบครัว และ ทุกปัญหาที่เข้ามาเพื่อทดสอบ

ฟิล์ม รัฐภูมิ เผยว่า “ทำงานจริงๆครับ ไม่มีวันหยุดเลยเพราะว่าเมื่อก่อนศิลปินจะออกแค่ทีละเบอร์ และ ออกมาทีละคน งานมันก็เลยมารุมที่เราคนเดียว แล้วเมื่อก่อนศิลปินก็ไม่ได้เยอะเท่าทุกวันนี้ด้วยครับ จำได้ว่าเช้ามาจะแบ่งกันเลยว่าจะถ่ายละคร หรือ ถ่ายภาพยนตร์ แบ่งคิวกันแต่กลางคืนคือจะจองไปด้วยคอนเสิร์ตหมดเลยตามงานวัดหรืองานกลางแจ้งแน่นทุกคืนเลย คือผมจะต้องแบบว่าอยู่จุดไหนกองถ่ายละครจะต้องไปรอรับไปถ่ายเลยตลอดเวลา แล้วละคร 1 ปีก็จะประมาณ 2-3 เรื่องเลยบวกกับภาพยนตร์ด้วย”

ฟิล์ม รัฐภูมิ เปิดทุกปัญหาที่ถาโถม

ฟิล์ม ห้างแตก คือ เคยเกิดมาแล้ว “ใช่ครับ เพราะเมื่อก่อนนี้ห้างแตกก็คือว่าพวกแผงลอยต่างๆจะพังไปเลยเพราะว่าเวลาที่ผมเดินก็จะมีแฟนๆที่เขารัก ฟิล์ม เขาก็จะเดินตามถ่ายรูป แล้วสมัยก่อนถ่ายรูปมันจะไม่ใช่มือถือมันมีแต่กล้องใหญ่ๆแล้วเขาก็มองเลนส์กล้องมันก็เลยไปชนแผงข้างๆพังไปหใดเลยส่วนใหญ่พ่อค้าแม่ค้าก็ด่าตามมาเราก็ต้องขอโทษเขา หรือว่าอะไรที่มันเป็นแบบ feel คอนเสิร์ตที่ไม่มีอัฒจันทร์ หรือ ถ้าอัฒจันทร์ตามงานกลางแจ้งถ้าไม่แข็งแรงก็จะพังครับ เพราะว่าเขาไปรวมตัวกันสูงมาก”

ฟิล์ม รัฐภูมิ เปิดทุกปัญหาที่ถาโถม

ซึ่งถือว่าช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่ทำงานหนักมากทุกวันไม่มีวันหยุดเลยเช้าถึงดึกๆเลย มีความรู้สึกไหมว่าไม่น่าเลย “จริงๆฟิล์มมีความรู้สึกอยู่อย่างเดียวคือ มันสนุกมากเลยครับ พอได้รับโอกาสแล้วมันจะสนุกกับมันทุกครั้ง คือผมได้ไปจังหวัดนี้ๆได้เปลี่ยนที่เล่นคอนเสิร์ตไปเรื่อยๆ ได้เปลี่ยนบทบาทการแสดงไปเรื่อยๆผมเลยสนุกกับมันแล้วส่วนมาผมก็จะนอนในรถหรือบนเครื่องบินอยู่แล้ว”

ในช่วงนั้น ถามตรงๆเลยมันผ่านมาจนถึงตอนนี้ที่เราโตมาเป็น ฟิล์ม ในวันนี้มันมีความหลงใหลระเริง ไปกับแสงสีเสียงตรงนั้นมากน้อยแค่ไหน “คือถ้าหลงระเริงในการลืมตัวต้องบอกว่าไม่เคยมีเลยเพราะว่าจะโดนคุณพ่อคุณแม่เบรกตลอด หรือ ว่าผู้ใหญ่เขาจะเบรกตลอดครับ แต่เราจะไปหลงระเริงกับเงินทองครับ คือว่า .. แบบโคตรรวยเลยตอนนั้นคือ 1 ปีคือร้อยขึ้นอะไรอย่างนี้ คือในยุคของผมผมก็จะซื้ออะไรสุรุ่ยสุร่ายอะไรอย่างนี้ครับ”

“แต่โชคดีที่แม่เขาเป็นแนวแบบแบ่งของเราไปแล้วไปซื้อที่ดิน แต่ตัวเองมีแต่ของเล่นเพราะว่าเราไม่ได้เป็นเด็กบ้านรวยมาก่อน พอเรามีแล้วเราก็ซื้อของเล่นที่เราอยากได้ตั้งแต่เด็กก็ซื้อเต็มไปหมด หรือ โทรทัศน์ เครื่องเสียง รถยนต์ มันสามารถทำให้ผมมีความสุขได้ตอบโจทย์ความฝันของผมได้ผมก็บ้าบอกับตรงนั้นไป แต่พอโตขึ้นมาผมก็มานั่งคิดว่าเอาไปทิ้ง เอาไปบริจาคหมดว่าเราซื้อมาทำไมเปลืองเงินมาก”

ฟิล์ม รัฐภูมิ เปิดทุกปัญหาที่ถาโถม

แต่กว่าจะมาดังถึงจุดนี้ที่บ้านของ ฟิล์ม ก็เคยล้มละลายมาก่อน “ทางบ้านเคยประสบปัญหาล้มละลายเพราะว่าคุณพ่อทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้วก็ถูกเพื่อนๆโกง แล้วก็ส่งผลมาถึงครอบครัวเรา ตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจว่าล้มละลายคืออะไร แต่สิ่งที่เราเห็นเลยเนี่ยแล้วรู้สึกสะเทือนใจว่าของเล่นที่เป็นชิ้นเป็นอันมีมูลค่าเห็นว่ามันมีสติ๊กเกอร์มาแปะ เราก็ถามว่าทำไมมีสติกเกอร์มาแปะ แม่ก็บอกเราแค่ว่าอย่าไปแตะนะพอดีเขาแปะให้ดูว่าสินค้าราคาเท่าไหร่ แต่คือมันแปะเต็มบ้านเลยเราก็คิดว่ามาแปะอะไรนักหนา แต่พอตอนหลังคือผมมาได้ยินที่คุณพ่อคุณแม่ทะเลาะกัน เพราะว่าเรานอนอยู่ด้วยกัน แบบเขาก็โทษกันไปกันมาครับ เราก็เข้าใจท่านนะครับ”

ชีวิตที่เหมือนพอจะขึ้นๆก็เหมือนมีอะไรบางอย่าง คือ บางอย่างเกิดจากการกระทำของเราเอง หรือ บางอย่างที่เราไม่ได้ทำอะไรแต่ก็มีเรื่องราวมาให้แก้ให้ต้องทำเป็นโจทย์ชีวิตตลอดเวลา แต่ผ่านมาได้ตลอด เช่นเดียวกันกับโดนมรสุมลูกใหญ่เข้ามาในชีวิต จนต้องตัดสินใจไปใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษ “คือ หลังจากที่ผมบวชเรียบร้อย ผมก็ตัดสินใจไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษเพราะว่ามีพี่สาวของผมอยู่ที่นั่น การที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่โน้นสนุกมากครับ เพราะว่าผมรู้สึกว่าเราไม่เคยมีชีวิตที่เป็นแบบนี้เราไม่เคยมีชีวิตที่เป็นปกติคือ ตื่นเวลานี้ เรียนเวลานี้แล้วก็ทำงานเวลานี้ เพราะผมเลือกที่ไปเพราะผมไม่ได้ไปเรียนอย่างเดียว เพราะผมต้องพาคุณแม่ผมไปด้วย เพราะผมต้องอยู่ติดกันตลอดเวลาครับ คือ พอผมพาคุณแม่ไปด้วยค่าใช้จ่ายมันก็เลยเพิ่มขึ้นไปด้วยทั้งค่าใช้จ่าย ค่ากิน ที่พักผมเลยต้องมาทำงานล้างจาน ที่ร้านอาหารไทยด้วย”

“ตอนนั้นผมก็เรียนเช้าแล้วก็ทำงานเพื่อที่จะได้มีรายได้มาเลี้ยงครอบครัวด้วยเพราะว่าผมต้องส่งเงินมาให้คุณพ่อ พี่ ป้า น้า อา ที่ประเทศไทยด้วยเพราะว่าตั้งแต่เล็กจนโตผมจะเลี้ยงทั้งตระกูลอยู่แล้ว คือจริงๆเงินเก็บของผมมีอยู่แล้ว แล้วผมก็จะส่งเงินเก็บของผมให้พวกเขาอยู่แล้ว แต่ว่าที่ผมต้องทำงานเพิ่มเติมเพราะว่ารายได้จะได้ไม่ขาดตอนเพราะว่าเราไม่มีงานแสดงแล้ว เราก็ทำงานล้างจานแล้วก็ทำงานทุกอย่างที่มันได้เงิน”

เรามีความรู้สึกยังไงไหม ณ วันนั้นเหมือนแบบน้ำตามันตกในไหม หรือ รู้สึกยังไงบ้างไหม “คือ ปกติอยู่บ้านก็ล้างจานให้คุณพ่อคุณแม่อยู่แล้วเราก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติเราก็ชินกับตรงนั้น แต่ว่ามันจะไม่ชินกับการโดนคำดูถูกมากกว่า เพราะว่าเรื่องล้างจานผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องสนุกนะครับ เพราะผมก็คุยอยู่กับคนในครัวหัดผัดบ้าง หัดทอด ช่วยกันกวาดพื้น เก็บโต๊ะ เก็บขยะ เป็นเรื่องปกติมากๆเลยแต่เราจะไม่ชอบตอนที่เวลาเราขึ้นไปเสิร์ฟ ซึ่งฝรั่งโอเคเขาให้เกียรติเรา แต่เวลาเจอคนไทย แล้วยิ่งเวลาที่มากับสาวด้วยอีก คือ พี่ฟิล์มมาเสิร์ฟอยู่นี่เหรอ เราก็บอกว่าใช่ครับ พอคุยเยอะๆหน่อยผู้ชายมาแล้ว เขาก็พูดขึ้นมาว่ามาถ่ายรูปกับเขาก็พูดวลีโบราณแล้ว”

“บางทีมากอดคอมาทำอะไรที่ไร้มารยาทใส่เรา เราก็รู้สึกว่ามันโหดนะทำไมเราต้องมาอยู่จุดนี้แต่แบบมันต้องทนเพราะว่ามีเรื่องอะไรก็ไม่ได้ ผมก็แค่ไม่ชอบตรงนั้นมากกว่า และทำให้เราเรียนรู้อย่างแรกเลยคือ ว่าไม่มีคนคอยทำอะไรให้เราแล้วนะ แต่พอเราไปอยู่โน้นคือ เราต้องทำเองทุกอย่าง เดินเหินปกติ ทำทุกอย่างปกติ นั่งรถตู้ รถไฟฟ้าไปเรียน เรารู้สึกว่ามันแปลกสำหรับผมแต่ผมชอบนะ แล้วผมก็เริ่มแสวงหาแบบช่องทางการทำมาหากิน เริ่มมีพรรคพวกเริ่มชวนทำธุรกิจ ทำให้ผมรู้สึกว่าถ้าผมไม่ได้ไปอยู่ตรงนั้น ผมคงไม่มีโลกแบบนี้นะ”

แต่ ณ ตอนนั้นที่เกิดเรื่องราวขึ้น ฟิล์ม ก็มีคนรักอยู่ แล้วคนรัก ณ ตอนนั้นพอข่าวเรื่องนี้เกิดขึ้นเปรี้ยง !! มันเกิดอะไรขึ้น “เขาไม่ทิ้งผมนะ แล้วเขาก็ยังตามอยู่ไปอยู่ที่อังกฤษในช่วงสามเดือนแรกด้วย ถามว่าเขาโกรธไหม ไม่โกรธเลย คือ เขาเป็นคนไทยนะครับ แต่บุคลิกการเลี้ยงดูเขาคือฝรั่ง ผมก็ประทับใจมาก เพราะว่าเวลาที่เราล้มแล้วมีคนซัพพอร์ต เขาก็ไม่ได้พูดถึงที่สิ่งที่เกิดขึ้นนะครับ แต่เขาขำนะเขาบอกว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป คือมันเป็นเรื่องปกติหรือเปล่า เขายังแซวเลยว่ามาๆเดี๋ยวเลี้ยงให้ (ถ้าเป็นจริงนะ)”

“ผมก็รู้สึกดีกับเขามากที่เขาไม่ว่าอะไรเราแล้ว เหมือนกับครอบครัวของเราเลย อย่างตอนที่เป็นข่าววันแรกเขาถามผมก่อนว่าเรื่องมันเป็นยังไงผมก็เรื่องให้เขาฟังทั้งหมด พอเขาวิเคราะห์เขาก็บอกว่าโอเคไม่เป็นไร คือ แบบเดี๋ยวมันก็ผ่านไปได้ ตอนผมบวชเขาก็ไปหาผมตลอด ตอนที่ผมอยู่ต่างประเทศเขาก็ไปดูแลผมเพราะเขารู้ว่าผมจะต้องจัดการอะไรมากมาย เพราะว่าผมพาผู้ใหญ่ไปด้วยเขาก็ไปช่วยจัดการทุกอย่างให้ ทำให้ผมรู้สึกว่าแบบนี้มันมีความสุขดีนะ เพราะเมื่อก่อนที่ไปไหนมาไหนก็ต้องแอบ ต้องใช้คำนี้เลย แต่พอเราไปอยู่ชีวิตแบบนั้นมันไม่ต้องแอบ มันมีความสุข”

แต่ส่วนหนึ่งที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในการที่ ฟิล์ม รัฐภูมิ สามารถจะสู้ได้กับทุกอย่าง นั่นคือ คุณพ่อคุณแม่ ซึ่งวันนี้ก็คือพลังหลักที่ทำให้ ฟิล์ม เดินหน้าต่อไปในชีวิตได้มีอะไรอยากฝากถึงท่านบ้าง เพราะคิดว่าท่านน่าจะดู Club Friday Show อยู่แน่นอน “ขอบคุณครับที่ทำให้ผมมีความคิดที่ดีแบบนี้นะครับ แล้วก็เป็นพลังสิ่งเดียวเลยที่ทำให้ผมผ่านไปได้ในทุกๆเหตุการณ์ในชีวิตเลย คือ ผมมองว่าสิ่งที่คนเรายึดเหนี่ยวได้ดีที่สุดครับก็คือ คุณพ่อคุณแม่เราเนี่ยแหละครับ แล้วทำให้ผมผ่านไปได้ในทุกด้านชีวิตจริงๆ แล้วสิ่งที่ผมทำในทุกวันนี้คือ ผมกอด ผมหอม ในทุกๆตั้งแต่ผมเกิดจนถึงทุกวันนี้ยังทำเหมือนเดิมเลยแล้วก็คือ ทำให้ท่านมีความสุข”

นั่นหมายความว่าไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ตามที่จะเข้ามาเป็นความรักของ ฟิล์ม ก็ต้องมีความรักกับคุณพ่อคุณแม่ด้วย “ใช่ครับ นี่คือ จุดอ่อนผมเลยแต่ยังไม่มีใครชนะ แล้วก็ยังไม่ใครมาขยี้จุดอ่อนตรงนี้ผมเลย ถ้าคนเขารู้นะแล้วมาจับตรงนี้นะผมตายเลย ทั้งๆที่ผมพูดมาตลอดแต่ไม่มีใครรู้นะ แต่อาจจะเพราะว่าแม่ผมดุด้วย หน้าแบบร็อกๆหน่อย คือ อาจจะกลัวพอเข้าไปเขาเลยถอยตรงนี้คือ กุญแจ สำคัญเลยแค่คลิกตรงนี้ได้คือจบเลยผม”

“ในอีกมุมหนึ่ง..คือ ที่คุยกับเมื่อกี้คือ ความมั่นคงหมดเลย แต่ในมุมของความรัก ฟิล์ม คิดว่าเรากลายเป็นคนเย็นชากับความรักหรือเปล่า “จริงๆแล้วมันเป็นแบบนั้นไปบ้าง เพราะผมก็มองว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆหนี่งอายุเยอะแล้วด้วยมันเลยเย็นชาไปตามวัย แบบมันแสวงหาความมั่นคงมากกว่าสิ่งอื่นใดเพราะว่าเราไม่รู้ว่าเราจะไปตอนไหนเลยชีวิตก็เลยมองว่าสิ่งเดียวที่มันจะตอบโจทย์ได้ทุกอย่าง แล้วทำให้คุณพ่อคุณแม่มีความสุข หรือผู้มีพระคุณของผมต่างๆมีความสุขเนี่ย มันคือ ผมต้องมีความมั่นคงก่อน ถึงจะช่วยคนอื่นเขาได้ครับ เพราะถึงวันนี้ ผมก็ยังดูแลทุกคนครับ”

ฟิล์ม คิดว่าวันนี้เราเย็นชากับคนรักด้วยหรือเปล่า “คือ จริงๆในมุมของความรัก คือ ดำเนินเหมือนเดิม เหมือนคนทั่วๆไปนะครับ เดินเหินกินข้าวปกติครับ ใช้ชีวิตปกติมากๆนะครับ แต่เพียงแค่ผมไม่รู้ว่าในอนาคตมันจะเป็นอย่างไร เขาจะรู้ไหมจุดอ่อนผมอยู่ตรงไหน เขาจะรู้ไหมว่าเขาต้องทำอย่างไร อันนี้ คือ มันเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้กันไปครับ”

มาถึงวันนี้แล้วกับเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้เชื่อว่ามีหลายคนเข้าใจ ฟิล์ม ผิดจนถึงวันนี้ก็ยังอาจจะเข้าใจผิดอยู่ มีโอกาสได้มาดูมาฟังกันวันนี้ ฟิล์ม มีอะไรที่อยากจะบอกทุกคนบ้าง “จริงๆเอาแบบว่าผมขอบคุณทุกปัญหาแล้วกันครับ ที่มันเข้ามาในชีวิตผม ถ้าไม่มีปัญหาผมจะไม่เป็นคนแบบนี้เลย ผมก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า ผมไม่รู้จะไปอยู่ตรงไหน ถ้าไม่มีปัญหาที่มันมาผลักดันให้ชีวิตผมต้องสู้แบบนี้ อยากขอบคุณมากๆที่ทำให้ผมรู้ว่าชีวิตในการวางแผนในแต่ละอย่างมันสำคัญแล้วมันก็จะไม่เกิดความประมาทซ้ำๆซากๆอีกเพราะว่าเราเกิดขึ้นมาแล้วเรารู้อยู่แล้วว่าผมที่มันเกิดได้กับการกระทำมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ขอบคุณทุกปัญหาที่ทำให้ผมแกร่ง”

สามารถชมคลิป ย้อนหลัง ได้ในรายการ CLUB FRIDAY SHOW ผลิตโดย CHANGE2561 ทางยูทูป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน