แอน อรดี เปลือยเส้นทางชีวิตจากเด็กบ้านนอกสู่ นางเอกหมอลำเน็ตไอดอลชื่อดัง เผยเหตุระทึกโดนแฟนคลับลวนลามถึงหน้าเวที

แอน อรดี ราชินีหมอลำเลือดใหม่ ที่วันนี้จะมาเปิดเผยเส้นทางจากเด็กบ้านนอก สู่นางเอกหมอลำเน็ตไอดอลสาว เจ้าของเพลงดังกว่า 6 ล้านวิว ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มีหนิง ปณิตา, ใบเฟิร์น พัสกร และอาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ตอนนี้โดนพิษโควิดกระหน่ำรายได้หลักเสียหายหลายแสน และเจ้าตัวยังบอกอีกว่าชีวิตนี้เคยเกือบไม่ได้เป็นนักร้องมาแล้วหลายครั้ง เผยเหตุระทึกโดนแฟนคลับลวนลามถึงหน้าเวที

ได้รับผลกระทบจากโควิดยังไงบ้าง? “เต็มๆ เลย จริงๆ เรามีงานแสดงทุกคืนเดินทางไปหลายจังหวัดในภาคอีสานแล้วก็มีมาทางกรุงเทพฯ และปริมณฑลบ้าง

ทัวร์ต้องหยุดชะงักไปเลย? “หยุดเลย จะบอกว่ารายได้หลักของแอนมาจากการแสดงหมอลำ ตอนนี้ก็หายไปเลย

รู้สึกยังไงบ้างที่กระแสตอบรับดีขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นเพลงขึ้นท็อป3 เรื่องเสื้อผ้า ความสวย ความงาม เรียกว่าเป็นที่ถูกจับตามอง มาแรงมากๆ ตอนนี้? “มันมาเกินฝันจริงๆ ดีใจมากๆ ที่แฟนคลับ แฟนเพลง แฟนหมอลำให้การตอบรับมากยิ่งขึ้น แล้วจริงๆ เราเหมือนเป็นวัยรุ่นยุคใหม่ที่ทำให้หมอลำเข้าไปในทุกอายุทุกช่วงของคนได้มากขึ้น ส่วนมากหมอลำสมัยเก่า เหมือนเป็นรุ่นคุณพ่อ คุณแม่คุณป้าคุณยายไปดูทุกวันนี้ก็ทำให้วัยรุ่นหันกลับมาอนุรักษ์มากขึ้น

อะไรที่มีความแตกต่างระหว่างหมอลำยุคเก่ากับยุคใหม่? “สำหรับหนูเอง หนูว่าเกี่ยวเนื่องกับการแต่งตัว ปรับให้เข้ากับยุคสมัย เหมือนของหนูปกติหมอลำไม่มีการจำกัดความว่าต้องแต่งแบบนี้นะ เราก็เลยลองเอามาปรับดูได้ไหมนิดนึง จากที่ปกติอาจจะแต่งหน้าเข้มๆ เหมือนแบบบล็อกตาสีดำเหมือนนางงาม หลังๆ มาหนูก็ดูพี่ๆ นักแสดงเป็นไอดอล เราก็ปรับให้มันทันสมัยมากขึ้น

ตอนนี้ยอดวิวเพลง แว๊บแว๊บ เท่าไหร่แล้ว? “ตอนนี้อยู่ที่ 6 ล้านวิว

คืนๆ หนึ่งเวลาเราออกคอนเสิร์ต ได้ทิปเยอะมากๆ จากแฟนคลับ จากคนดู? “ใช่ค่ะ จริงๆ แล้ว หนูไม่ได้มีพ่อยกแม่ยกอะไรเลย ของแอนส่วนมากจะเป็นแฟนคลับขาจรซะมากกว่า หนูไม่รู้ว่าวันนี้ใครจะมาดูบ้าง หนูไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร อยู่ดีๆ ก็เอาเงินมาให้หน้าเวที

ตอนนี้อายุ 29 แต่เป็นหัวหน้าครอบครัวแล้ว? “ใช่แล้ว เราดูแลทุกอย่างภาระหนี้สินทุกอย่าง จากที่แต่ก่อนไม่ได้มาดูแลจุดนี้ แต่คุณตาเสีย เหลือคุณยายกับคุณแม่ แม่ก็ต้องดูแลยาย ก็เลยกลายเป็นเราที่ต้องเข้าไป

จากเดิมที่เราไม่ได้รับผิดชอบตรงนี้ พอมารับผิดชอบมันท้อ มันเหนื่อยไหม? “เหนื่อย แต่เวลาที่เห็นครอบครัวมีความสุข มีรอยยิ้มมันจะหายเหนื่อยไปเลย มันจะทำให้เรารู้สึกว่ามันคุ้มกับการที่เราเหนื่อยมาเลย

ก่อนหน้านี้ไม่ได้สนิทกับคุณแม่ เพิ่งจะมาสนิทกันช่วงหลัง? “หนูจะห่างจากบ้านมาตั้งแต่เด็ก เพราะว่ามีโอกาสได้ไปฝึกร้องเพลงกับค่ายเพลง กับทางผู้จัดการ ต่างอำเภอ ต่างจังหวัดบ้าง คุณแม่ก็จะค้าขายอาหาร เขาก็จะไม่ค่อยมีเวลาดูแลเรา ก็ไม่มีเวลาคุยกันเลย หนูก็จะรับผิดชอบตัวเองมากกว่า

ถึงขนาดแอบน้อยใจ แอบไปร้องไห้คนเดียวด้วย? “ใช่ค่ะ เราเห็นเพื่อนเรา เห็นคนอื่น บางทีเราก็อยากกอดแม่ กอดคุณพ่อ แต่บางทีเราหันไปก็ไม่เจอ ก็จะน้อยใจ

แล้วเราได้สื่อสาร โทรไปไหมว่าเรารู้สึกแบบนี้? “ช่วงนั้นหนูไม่มีโทรศัพท์เลยด้วยซ้ำ ก็จะมียืมโทรศัพท์ผู้จัดการมาบ้าง แต่ก็จะไม่กล้ายืมบ่อยเท่าไหร่

คุณแม่ได้บอกเหตุผลไหมว่าแม่ต้องทำงานนะ เข้าใจแม่หน่อย มีการพูดคุยกันไหม? “ช่วงนั้นเขาจะไม่ค่อยพูด แต่เราก็รู้อยู่แล้วว่าทำอะไร เขาก็ค้าขาย

เห็นว่าเรายังสร้างรายได้ให้กับครอบครัวหลักแสนเลย? “หลักแสนก็จะเป็นหมอลำจะมีการเปิด ปิดฤดูกาล แฟนคลับก็จะมาหาแอน มาลัยก็หลักแสน อันนี้หนูเป็นผู้หญิงนะ ถ้าเป็นพระเอกแสน กว่าๆ เกือบสองแสนก็มี

ทำไมเราถึงเลือกอาชีพหมอลำ มันมีจุดเริ่มยังไง? “จุดเริ่มต้นมาจากต้องการหาเงิน เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่จะแยกทางกัน แล้วเรามีน้องชาย 1 คน แล้วน้องก็ยังเรียนอยู่ คือน้องกำลังจะจบ ม.6 คุณแม่ยังไม่ได้จ่ายค่าเทอมน้องเลย แล้วอาจารย์เขาโทรมาบอกว่าถ้าไม่มาจ่ายค่าเทอม เดี๋ยวน้องจะไม่ได้จบพร้อมเพื่อนนะ หนูก็เลยแบบ เหมือนเคยไปอยู่หมอลำแล้วมันได้เงิน เราก็เลยโอเค หมอลำแหละ คงจะเป็นที่เดียวที่เราสามารถใช้ความสามารถของเราได้

แล้วเรารู้ตอนไหนว่าเราเป็นหมอลำได้ ฉันมีความสามารถทางด้านนี้? “จริงๆ ไม่รู้ตัว มาของมันเองเหมือนกัน แอนจะถนัดร้องเพลงมากกว่า แล้วแอนก็พยายามปรับประยุกต์ให้มันไปด้วยกันได้ อย่างเราไม่เคยร้องหมอลำ เราก็ฟังเพลงหมอลำมากขึ้น พยายามที่จะใกล้ชิด ซึบซับให้มันมากขึ้น

เราเป็นนักร้องแล้วมาเป็นหมอลำ ความยากง่ายอยู่ตรงไหน? “ยากง่ายอยู่ที่หนูต้องเข้าไปให้ถึงในจุดของหมอลำ

แล้วระหว่างที่เดิน มีจุดที่เรารู้สึกเราแย่ เราท้อ ไม่ไหว มีบ้างไหม? “มีอยู่แล้ว

แล้วเราผ่านมาได้ยังไง? “หนูเอาคำที่เขาดูถูกหนูมาพัฒนาตัวเอง เขาบอกว่าร้องเพลงได้แค่นี้จะมาเป็นหมอลำได้ยังไง เนี่ยเหรอที่เขาเรียกว่าหมอลำ คุณทำได้แค่ไหนกัน แล้วคุณจะมาบอกว่าคุณเป็นนางเอกเหรอ มันก็เลยแบบไม่ได้ เดี๋ยวหนูทำให้ดู หนูก็เลยพยายามที่จะพัฒนาตัวเอง แล้วก็ฝึกตัวเอง มันอาจจะไม่เป๊ะ ทุกวันนี้ก็ยังไม่เป๊ะ แต่หนูพยายามทำให้มันดีที่สุดอยู่ตลอดเวลา หนูคิดว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้

อึดอัดถึงขั้นอยากจะเลิกเรียนหนังสือแล้วมาฝึกหมอลำให้มันถึงพริกถึงขิง ขนาดนั้นเลยเหรอ?
“หนูรู้ว่าตรงนี้เป็นช่องทางที่เราสามารถหารายได้ได้แล้ว แล้วถ้าเราแบ่งเวลาไปเรียน หนูรู้ว่าหนูไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้น หนูก็เลยอยากเต็มที่กับตรงนี้ อีกอย่างคำดูถูกมันก็เยอะเหมือนกัน

ไปลาออกกับทางโรงเรียน แต่ครูก็ไม่ยอมให้ออก? “ใช่ค่ะ เขาเป็นห่วง อย่างน้อยเราต้องมีวุฒิ ม.6 หรือปริญญาตรีไหม แต่ ณ ตอนนั้นทุกอย่างมันกดดันไปหมดเลย

สุดท้ายกลับไปเรียนไหม? “กลับไป แล้วมีโอกาสได้เรียนมหาวิทยาลัย แต่ด้วยความที่มันเกิดปัญหาคุณพ่อคุณแม่หย่ากัน หนูก็เลยได้มาหาเงินก่อน คือมันมีทุกปีเลย ปีหนึ่งก็จะมีปัญหาเข้ามา แล้วเราแบบคิดคนเดียว สู้คนเดียวมาตลอด

จุดเปลี่ยนอะไรที่ทำให้เราขึ้นมาเป็นดาวเด่น แล้วคนรู้จักว่าคนนี้คือ แอน อรดี? “หนูได้มีโอกาสไปอยู่กับคณะนึงคือ ศิลปินภูไท ช่วงนั้นได้รับโอกาสจากหัวหน้าวง เขาจะทำเรื่อง สังข์ทอง เงาะป่า ซึ่งเขารู้ว่าแอนไม่ถนัดเรื่องลำสักเท่าไหร่ แต่ถนัดเรื่องร้อง เขาก็เลยแต่งเนื้อเรื่องให้มันเข้าถึงง่ายขึ้น แต่งเป็นเพลงคู่มาให้พระเอกกับนางเอกร้องเพลงคู่เพลงนึงทำให้หนูเป็นที่รู้จักขึ้นมา แต่ช่วงนั้นยังไม่ได้ใช้ชื่อตัวเอง ด้วยความที่มีปัญหากับค่ายเพลง เพราะว่าเคยไปทำเพลง ใช้ชื่อตัวเองไม่ได้ ก็มาเปลี่ยนเป็นอีกชื่อนึง เพื่อที่จะสามารถขึ้นเวทีได้ คนก็เลยเริ่มรู้จัก ช่วงนั้นก็มีกระแสยูทูบขึ้นมาแล้ว

ไม่ว่าคณะหมอลำไหนๆ ก็ต้องการตัวแอนไปเป็นนางเอกประจำคณะของเขา ตอนนั้นคนแย่งชิงเราหลายคณะไหม? “จริงๆ หนูไม่ได้รู้สึกว่าแย่งชิง

คิดว่าเป็นเพราะอะไรที่ทำให้หลายๆ คนอยากได้เราไปร่วมงาน? “ถ้าชัดเจนที่สุดที่แอนมอง คือแอนเป็นตัวของตัวเอง แต่หนูเชื่อว่านางเอกทุกคนเขามีเอกลักษณ์ของเขา แต่หนูก็จะมองแปลกจากคนอื่นไปนิดนึง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดีไซน์ร้องหรือการลำจะดื้อนิดหน่อย รวมไปถึงหนูต้องหาเอกลักษณ์ของตัวเองก่อน หนูจะดูเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม หนูจะเป็นคนที่ทำการบ้าน จะเรียนผ่านทางไอจีตลอด จะศึกษาว่าเขาแต่งยังไง เพราะว่าเวลาไปงานก็จะทำเองทุกอย่าง

เคยโดนลวนลามหน้าเวที เราร้องเพลงอยู่ ไม่รู้ตัวด้วย? “ใช่ ปกติเวทีจะเป็นเรียบๆ เราจะแบบเซลฟี่ด้วย มือนึงจับไมค์ เขามาด้านหลัง แล้วมาจับก้นเรา งัดขึ้นด้วย แต่มันหลุดไม่ได้เพราะเรายังร้องเพลงอยู่

เราเห็นหน้าคนทำไม? “ไม่เห็นค่ะ

แล้วเรามีวิธีการในการแก้ปัญหาในครั้งต่อไปยังไง ถ้าเกิดเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก? “ก็ต้องนั่งระวังกว่าเดิม จริงๆ เราต้องดูซ้ายดูขวาด้วย

เหตุการณ์ที่มีคนขึ้นมาลวนลาม หรือวุ่นวายกับเราตอนแสดง มีมาตลอดอยู่แล้ว? “ก็มีมาเรื่อยๆ บางทีมาจับมือกับเรา ทีแรกก็ไม่แรง แล้วก็ดึงไป เกือบตกเวทีก็มี

มีที่แปลกๆ ที่ไม่เคยเจอไหม? “น่าจะเป็นเคสพี่คนนี้เหมือนโมโหอะไรมา คือวันนั้นหนูก็นั่งถ่ายรูปปกติ สักพักนึงพี่เขาก็ถือกระดาษทิชชู่มา แล้วบอกว่าหน้ามันแล้ว เช็ดหน้าเลย เขารอหนูนานไม่ได้ถ่ายรูปหรือเปล่า เหมือนเขาเหวี่ยงประมาณนั้นมากกว่า

คลิปสัมภาษณ์ แอน อรดี

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน