โชคดีที่ข้อมูลหลุดลั่นคิดได้ยังไงฟังแล้วเจ็บปวดช็อกสังคม จากกรณีข้อมูลหลุดจากการประชุมเฉพาะกิจร่วมระหว่างคณะกรรมการด้านวิชาการตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558, คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค และ คณะทํางานวิชาการด้านบริหารจัดการและศึกษาการให้บริการวัคซีน ซึ่งเป็นการประชุมเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 64 ที่ผ่านมา

ที่ประชุมประเมินว่าจะได้รับวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ยี่ห้อไฟเซอร์ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 จำนวน 1.5 ล้านโดส ประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักในสังคมขณะนี้ คือ การฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้เป็นวัคซีนเข็มที่ 3 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าเพื่อเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ที่ประชุมบางส่วนมีความเห็นว่า “ในขณะนี้ ถ้าเอามาฉีดกลุ่ม 3 แสดงยอมรับว่า Sinovac (วัคซีนหลักที่ไทยใช้อยู่) ไม่มีผลในการป้องกัน แล้วจะแก้ตัวยากมากขึ้น”

จน แฮชแท็ก #ฉีดPfizerให้บุคลากรการแพทย์ พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ และมีอาจารย์หมอและบุคคลในแวดวงการแพทย์ออกมาเรียกร้องว่า ควรฉีดเข็ม3ให้บุคลากรทางการแพทย์ ด้านนายอนุทิน ก็ยอมรับเอกสารหลุดมาจริง แต่เป็นความเห็นเท่านั้น

ขณะที่ หนุ่ม กรรชัย เผยขณะอ่านข่าวดังกล่าวในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ว่า ที่ประชุมมีการคอมเมนต์หลายข้อว่า เด็กต้องฉีด ผู้สูงอายุต้องฉีด และบุคคลด่านหน้าอย่างบุคลากรการแพทย์ด้วย ที่ประชุมมีการคอมเมนต์หลายข้อ แต่ข้อที่10 ที่มีการพิมพ์ออกมาและหลุดคือ “ในขณะนี้ ถ้าเอามาฉีดกลุ่ม 3 แสดงยอมรับว่า Sinovac (วัคซีนหลักที่ไทยใช้อยู่) ไม่มีผลในการป้องกัน แล้วจะแก้ตัวยากมากขึ้น”

ทำให้สังคมตั้งประเด็น รวมทั้งอาจารย์หมอออกมาจำนวนมาก แม้เรื่องนี้ยังไม่ผ่านออกมา แต่แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องทางความคิดแล้ว ตรงนั้นมีทั้งคุณหมอหลายท่านที่ร่วมประชุมแล้วมีข้อนี้ออกมาได้อย่างไร ประชาชน สังคมและพี่น้องบุคลากรทางการแพทย์ของท่านเองที่สงสัย

หลายคนถามว่าคิดได้ยังไง แสดงว่ายอมรับว่าซิโนแวคไม่มีผลในการป้องกัน จะแก้ตัวยากขึ้น ฟังแล้วเจ็บปวด บุคลากรทางการแพทย์สำคัญมาก แต่ละคนทุ่มเทสู้กับโควิดอยู่แต่ละสายพันธุ์กลายพันธุ์ คุณต้องรู้ว่าซิโนแวค มันไม่กันติดอยู่แล้วอย่างที่คุยๆกันมาแต่แรก แต่กันตายได้ แต่สายพันธุ์เปลี่ยนต้องมีวัคซีนที่เอาอยู่มากกว่านี้ แต่กลับมาบอกแบบนี้ หลุดออกมาสังคมก็รับไม่ได้

แพทยสภายังรับไม่ได้ สุดท้ายเราต้องฝากชีวิตไว้กับบุคลากรทางการแพทย์ เขาเป็นอะไรขึ้นมาคนข้างหลังยิ่งลำบาก ถ้ามีของดีของเอาอยู่มาต้องให้เขาก่อนเลย หมอจะได้ช่วยเราได้ ไม่รู้จะพูดคำไหน

เป็นประเด็นช็อกสังคม ทำไมมีข้อ10 ออกมา โชคดีที่หลุด เท่าที่ทราบ อ.ทวี เป็นหนึ่งใน 7-8 คนที่วิดีโอคอลเข้าไป ไม่ได้อยู่ในห้องประชุม อ.ทวี สนับสนุนเรื่องเด็ก แต่ไม่รู้ใครเสนอข้อ10 ขึ้นมา แต่แค่คิดก็ไม่ควรแล้ว เพราะมันน่าละอาย เป็นความคิดที่น่าละอาย ที่จะไม่ฉีดเข็มที่3 ให้บุคลากรทางการแพทย์ เขายังเรียกร้องให้มากกว่านี้ เห็นแต่ละคนทำงานเหนื่อยเป็นลม มุมกลับกันกลับมีแบบนี้ออกมา จากการประชุม เอาง่ายๆ หมอตายเราก็ตาย

ล่าสุด อธิบดีกรมควบคุมโรค บอกว่าเอกสารดังกล่าวไม่ใช้เอกสารจริง ทำเอางงตกลงจะเชื่อใครเพราะนายอนุทินบอกว่าเอกสารจริง

ขอบคุณที่มาคลิป เที่ยงวันทันเหตุการณ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน