ณวัฒน์ ไลฟ์ครั้งแรก จาก ไอซียู หลังพ้นโคม่า ผุดโครงการ “ณวัฒน์เพื่อคนไทย” ช่วยประชาชน ไม่ง้อรัฐบาล ประกาศขอ 100 ล้านบาท จากเจ้าสัว เข้าโครงการ โดยเร็วที่สุด

วันที่16 ก.ค.64 เวลา 18.00 น. ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว อัพเดทอาการป่วยจากโควิด 19 ด้วยตัวเอง หลังผ่านพ้นช่วงวิกฤติและมีอาการดีขึ้นตามลำดับ พร้อมทั้งพูดสิ่งที่อยู่ในใจมาตลอดหลายวัน ผุดโครงการ “ณวัฒน์เพื่อคนไทย”

“วันนี้ได้รับอนุญาตจากแพทย์สามารถสื่อสารได้ แต่ยังอยู่บนเตียง”

ก่อนอื่นต้องบอกว่าตื่นเต้นที่หายไปนานจากการสื่อสาร คิดถึงทุกคนมาก ซึ่งอันนี้มันเป็นวิกฤต ของชีวิตที่สุดแล้ว ตอนนี้ฟันธงได้ว่าพ้นวิกฤตแน่นอน มันเกิดขึ้นกับชีวิตเร็วมาก แล้วไม่คิดว่ามันจะหนักขนาดนี้

ถ้าพูดถึงการเจ็บป่วย ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นขั้นโคม่า ทางแพทย์วินิจฉัยให้เป็นขั้นโคม่า ไม่เช่นนั้นจะไม่เข้าถึงการบริการบางส่วน เพราะมันฉุกเฉินจริงๆ

คือผมติดเชื้อสายพันธุ์อินเดียที่มีส่วนผสมค่อนข้างแปลก แล้วก็เร็วมาก วันที่เข้ามาแย่มาก ทั้งสั่น ทั้งหนาว ทั้งเจ็บ เจาะเท่าไหร่ก็หาเส้นไม่เจอ เจาะกันทุรนทุราย


พอเสร็จเรียบร้อยไม่ดีขึ้น ก็ปฐมพยาบาลอยู่ห้องพิเศษชั้น 20 ประคองจนถึงเช้า เพราะอาการไม่ดีความดันตกลงมาเหลือน้อยมาก ออกซิเจน 70 แล้วก็ตกอีก เอกซเรย์ก็หาไม่ได้ ให้นอนคว่ำความดันก็ตก ก็เลยต้องเอาเข้าอุโมง ทีซีสแกนด่วน ว่าเกิดอะไรขึ้นกับปอดกันแน่

ต้องให้เครดิตโรงพยาบาลปิยะเวทที่ตัดสินใจเร็วมาก หลังจากนั้นถึงรู้ว่าเชื้อค่อนข้างแรง เชื้อไม่ได้เข้าใต้ปอด เพราะฉะนั้นผมจะนอนคว่ำไม่ได้ มันเข้าหัวปอดข้างบนลงมาอย่างเร็ว และเขามีชีวิตค่อนข้างเร็วมากก็เลยกลายเป็นที่มาของวิกฤต

และตั้งแต่วันนั้นเลยต้องเปลี่ยนเป็นห้องความดันสูง ขึ้นไปอีก2-3 ชั้น นี่คือความดัน 100% จะต้องให้ออกซิเจน 100% สำหรับการถ่ายออกซิเจนในปอด เพราะว่าปอดไม่ทำงาน ฝ้าเต็มไปหมด คือวิกฤตจริงๆ

ยาต้านต่างๆไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับผมเลย สุดท้ายได้ยาตัวหนึ่ง ให้ไว้เป็นความรู้ เป็นยาที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกาให้ยาตัวนี้ต้องอยู่บนเตียงนิ่งๆวันละ 2 ชั่วโมงต่อเนื่อง 7 วัน ห้ามกระดิก

คือยาตัวนี้คือยาสำหรับคนที่ไม่สามารถหายใจได้ด้วยตัวเอง หรือไอซียูหนักเท่านั้น กรณีจำเป็น เพราะเอฟเฟคเยอะมาก แต่ผมเลือกเพราะว่าผมไม่มีช้อยส์ ผมกลืนยาไม่ได้แล้ว ยาตัวนี้ก็ต้องยอมรับว่าหายากมาก ผมยังโชคดีที่ไปหากันมาจนได้

แล้วก็ถ่ายพลาสม่าด่วน ก็เป็นการให้พลาสม่า เป็นการรักษาที่ไม่เหมือนชาวบ้าน ไปเอาพลาสม่าที่ยังมีเชื้ออินเดียที่ยังเป็นๆอยู่ ใช้เวลาไป 3 ชั่วโมง เอามาเวฟ และเอามายัดเข้าทางเส้นเลือดดำ แล้วก็ดูว่ามันแอนตี้ไหม ถ้าแอนตี้ก็ล้มเหลว ก็อาจจะถึงแก่ชีวิต แต่มันโชคดีที่ไม่แอนตี้ ค่อยๆเข้าทีละนิด

แต่ผลจากยาตัวนี้มันจะทำให้ลิ่มเลือดมีปัญหาทั้งตัว แต่อันนี้เดี๋ยวค่อยรักษากันทีหลัง หมอบอกว่าไม่เป็นไร เพราะฉะนั้นตอนนี้เลือดผมมันจะไม่ค่อยโฟล ต้องฉีดยาที่หน้าท้องทุกวัน จะค่อนข้างเจ็บ เพราะเวลาฉีดมันจะขยับไม่ได้

กิจกรรมตอนนี้เริ่มลดระดับไฮโฟลว์ลงมาเพื่อเลี้ยงปอด เจอคนละ 50% หายใจเองได้บ้าง แต่เครื่องช่วยนี้ต้องใช้ เพราะว่าถ้าดึงออกปั๊บก็จะเหนื่อย

ชีวิตตั้งแต่เข้ามารักษาจนถึงวันนี้ยังไม่เคยไปอาบน้ำเลย ทำทุกอย่างอยู่บนเตียง ไม่อายเลย ต้องบอกว่ามันเป็นเวลาของผมจริงๆ ที่ทำให้เข้าใจว่าสุดท้ายมันมีแค่นี้จริงๆ ของทุกอย่างต้องอยู่แค่เอื้อมมือ แต่ถ้าจะไปถ่ายท้อง เค้าจะมีออกซิเจนให้อีกตัวนึงที่ให้เฉพาะที่ห้องน้ำ

มีการคุมออกซิเจนให้ตลอดเวลา ซึ่งผลการคุมออกซิเจนตอนนี้ก็ถือว่าดี อาจจะมีตกลงไปบ้าง 85 84 บ้าง แต่จะพยายามรักษาสภาพให้ได้ 94 เพราะว่าถ้าอย่างต่ำ ก็หายใจยาก

แต่ทุกวันนี้ก็ยังคงต้องยังฉีดยาวันละ 4 เข็ม 10 โมงครึ่ง 2 เข็ม 4 ทุ่ม 2 เข็ม ฉีดหน้าท้องตอน 1 ทุ่ม แล้วก็มีอีก 1 เข็ม อาจจะเป็นยาละลายลิ่มเลือด นี่คือวิถีชีวิตตอนนี้ทั้งหมด

แล้วก็พรุ่งนี้จะมีเอกซเรย์อีกรอบ และเช็คทั้งหมดอีกครั้งนึง ไม่รู้ว่าจะได้อยู่โรงพยาบาลไปอีกนานแค่ไหนแต่ ซึ่งจะประเมินอย่างเป็นทางการวันจันทร์ที่จะถึงนี้ว่าจะปรับยังไงต่อ อาจจะถึงประมาณปลายเดือนแต่ยังออกไปใช้ชีวิตปกติยังไม่ได้ ทำงานได้เท่าที่ทำ

ผมอยากจะทำงาน ผมคิดว่าเวลาที่เหลืออยู่ต่อให้ไม่สมบูรณ์ แต่มันก็มีเวลาที่มีค่า เพราะฉะนั้นผมจะเริ่มทำงานตั้งแต่เดี๋ยวนี้เป็นต้นไป โดยที่ใช้ตรงนี้ทำงานเท่าที่ทำได้ ซึ่งคุณหมอเห็นด้วยว่าเป็นการฝึกปอด แต่จะไม่ให้ออกไปข้างนอก ไม่ให้โดนควัน

ตอนนี้กำลังปรับปรุงบ้าน เปลี่ยนเป็นห้องที่มีออกซิเจน แต่ตอนนี้ทั้งประเทศไทยซื้อเครื่องออกซิเจนไม่ได้ คือทุกออนไลน์ก็ไม่มี ก็ให้เจ้าหน้าที่ไปสแตนด์บาย คือต้องใช้ชีวิตกับออกซิเจนไปพักใหญ่ๆ เลยต้องมีออกซิเจนไว้ที่บ้าน

ตอนนี้ผมได้เปิดโครงการขึ้นมาชื่อว่า “ณวัฒเพื่อคนไทย” ปกติแล้วผมจะเป็นคนจริงใจซื่อสัตย์ตั้งใจอยู่แล้ว แต่มันจะมากกว่าเดิมเยอะ และตรงไปตรงมามาก จะไม่ยอมให้ใครรังแก ไม่ว่าจะตัวผมหรือใครที่เสียเปรียบ และจะช่วยเป็นกระบอกเสียงทุกอย่าง

จะขอโอกาสให้ทุกท่านเมตตาผม ก็เพื่อจะเอาต้นทุนตรงนี้ไปใช้พูดหรือทำอะไรให้เป็นรูปธรรม เราไม่ต้องไปขอใคร เราไปบอกรัฐบาลให้ทำอะไรก็ไม่ทำ แต่เราจะทำเอา ฉะนั้นจริงๆนี่คือเจตนารมย์

โครงการนี้จะเริ่มต้นพรุ่งนี้ เอาง่ายๆก่อน คือการแจกอาหาร ผมรู้ว่าคนไม่มีกินคือไม่มีกิน เพราะฉะนั้น ผมจะเอาเงินส่วนตัวก่อน เริ่มต้นเมื่อเช้าผมตื่นมาตอนเช้า ผมเปิดบัญชีออนไลน์ของผมอันใหม่ เอาเงินผมใส่เข้าไปเรียบร้อยพรุ่งนี้เริ่มจากอาหาร 600 ชุด เดี๋ยวจะไปให้เจ้าหน้าที่ถ่ายรูปมาให้

และจะทำอย่างนี้มากขึ้นทุกวัน และจะหายาฟรีหาทุกอย่าง ไม่ต้องสนใจใคร เราจะทำและเราจะเรียกร้องความยุติธรรม เราจะพยายามต่อต้านนายทุนที่กินลวก อย่างอาหาร จะให้ชาวบ้านทำหมด ไปซื้อผักหญ้าของชาวบ้านไม่ซื้อซุปเปอร์มาร์เก็ต

พรุ่งนี้พิกัดรามอินทราเดี๋ยวผมจะปักหมุดไว้ให้ว่าอาหารจะไปลงแถวไหน ขออนุญาตไปลง และเดินมาหยิบด้วยตัวเอง เพื่อหลีกเลี่ยงคน คือทุกคนต้องเซฟ เอาเฉพาะที่อยู่และจำเป็น ต้องไม่พบปะกัน รักษาระยะห่าง นี่คือโครงการแรกที่พรุ่งนี้จะเริ่มทำเลยทันที

คือก่อนหน้า ผมได้คุยกับผู้ใหญ่ คือทางโรงพยาบาลเตียงมันไม่มีแล้ว สำหรับคนที่เป็นโควิดต้องมีที่รักษา ผมได้โคต้าเท่านี้จริงๆ วันละ5เตียง ผมรับผิดชอบไม่ต้องเสียงเงิน จนกว่าจะรักษาหาย ได้วันละ5คน เพราะว่ามันไม่มีจริงๆครับ

ถ้าทุกคนสนับสนุน ก็สามารถร่วมบริจาคได้ ถ้าเชื่อในความซื่อสัตย์และจริงใจ ก็สามารถ ร่วมบุญได้อย่างสบายใจ แต่ถ้าไม่สบายใจอย่าทำ ผมจะเอาบัญชีไปไว้กับสรรพากรให้เค้าเก็บไว้ดู

จากนี้เป็นต้นไป เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญความเป็นมนุษย สำคัญกว่า อย่าให้ใครมาเหยียบย้ำ อย่าให้ใครมาทำให้รู้สึกแย่กับเรา ยังมีอีกหลายอย่างที่อยากจะทำ เพื่อให้คนไทยได้เลิกถูกเอาเปรียบ

บัญชีนี้เป็นบัญชีของผมคนเดียว ผมรับผิดชอบเก็บคำพูดของผมไว้เป็นหลักฐานได้ ผมอยากให้ทุกทุกคนช่วยแชร์ไลฟ์นี้ ผมอยากให้เจ้าสัวบริจาคให้ผม 100 ล้านบาท เข้าโครงการ “นวัฒน?เพื่อคนไทย” ให้เร็วที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน