ใจหายไปเลย ตั๊ก ศิริพร เตรียมลาเมืองกรุง ชวนสามีใช้ชีวิตบั้นปลายต่างจังหวัด ขอสานฝันอีกหนึ่งอย่างให้สำเร็จ เกษียณแน่ปีหน้า

หลังจากที่นักแสดงรุ่นใหญ่ ตั๊ก ศิริพร อยู่ยอด ออกมาโพสต์ข้อความผ่านไอจีส่วนตัว ตัดพ้อเบื่อเมืองกรุง เตรียมบุกเบิกที่ทางที่ต่างจังหวัดไว้สำหรับใล้ชีวิตหลังเกษียณเร็วๆ นี้ ทำเอาเพื่อนพ้องดาราและแฟนคลับตกใจกันยกใหญ่

ล่าสุด ตั๊ก ศิริพร ได้เปิดใจกับทาง “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” ถึงสาเหตุที่ออกมาโพสต์ข้อความดังกล่าว พร้อมแพลนเกษียณวงการที่เร็วจนน่าใจหาย

หลายคนตกใจที่โพสต์บอกว่าเบื่อเมืองกรุง? ตั๊ก – ตอนนี้หลายๆ คนก็คงจะเบื่อเหมือนพี่แหละ(หัวเราะ) ด้วยสถานการณ์โควิดมันก็เลยทำให้ทุกคนเบื่อท้อ พี่ตั๊กกับพี่นุ้ยเรามีความชอบเหมือนกันตรงที่ว่าเราเป็นคนที่ไม่ชอบเมืองกรุง ถึงจะอยู่กรุงเทพฯ มา 20 30 ปี แต่ยังไงก็ชอบต่างจังหวัดมากกว่า แล้วเรื่องที่จะไปอยู่ต่างจังหวัดเนี่ยเราคุยกันไว้นานมาก เพียงแต่มันได้จังหวะในช่วงที่โควิดมันว่างก็เลยมานั่งคิดให้เป็นกิจจะลักษณะเลย

เบื่อเมืองกรุงไม่พอ ยังบอกว่าเตรียมไว้สำหรับเกษียณเร็วๆ นี้ด้วย? ตั๊ก – พี่นุ้ยเนี่ยนะตัวอยากไปเร็วกว่าพี่อีกจะบอกให้ แต่พี่ตั๊กเองอีกแค่สี่ห้าเดือนก็จะครบ 50 เนอะ มันก็เลขห้าแล้วเนอะ พี่ตั๊กก็มีความรู้สึกว่าเราสองคนทำงานหนักกันมาตลอด ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน ไม่ค่อยได้พักผ่อนเลย เพราะฉะนั้นบั้นปลายชีวิตเรามีความรู้สึกว่าเราไม่อยากทำงานหนักแล้ว

ตั๊ก – อยากอยู่กับธรรมชาติ ตื่นเช้ามาเห็นพระอาทิตย์ขึ้นอยู่หลังเนินเขา มองไปเป็นทุ่งนาเป็นไร่เป็นสวน อยากอยู่แบบนั้นมากๆ ให้มันหายใจได้เต็มปอด อยากขุดสระเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวเยอะๆ ไม่ได้ไปอยู่เพื่อที่จะทำงานที่จะหวังรวยไม่ต้องการแบบนั้นแล้วชีวิตเพราะทำงานหนักกันมาทั้งคู่ตลอดแล้ว อยากทำอะไรที่มันสบายๆ บ้าง อยากไปอยู่อย่างนั้น

นุ้ยต้องบอกว่าพี่อยากไปอยู่ต่างจังหวัดตั้งนานแล้ว อีกอย่างคือตอนนี้พี่ตั๊กก็ 50 พี่ก็ 48 49 ถ้าเราผัดไปอีกสองหรือสามปีมันก็จะร่นอายุเราไปอีก เดี๋ยวเราก็ไปทำอะไรไม่ไหว อย่างพี่ตั๊กเขาคงไปพักผ่อน แต่พี่อยากไปทำการเกษตร แต่ว่าไม่ได้ยิ่งใหญ่เยอะแยะอะไร ขุดบ่อเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่เป็นไก่ไข่ไม่ใช่ไก่ขาย

ตั๊ก – คือพี่อยากจะไปทำเป็นเกษตรเชิงท่องเที่ยว เหมือนเป็นแลนด์มาร์กว่านักท่องเที่ยวมาก็ต้องมาถ่ายรูปนะ พี่ไม่ได้ทำเพื่อขายเอารวย ไม่เอาแล้วไม่ต้องการอย่างนั้นแล้ว ที่พี่โพสต์นี่นะคือเขาลงมะม่วงลงอะไรของเขาไว้หมดแล้ว แล้วพี่ก็อยากจะไปทำให้มันดูดีดูสวยงาม ให้มันเป็นสัดส่วนกว่านี้ อาจจะไปขุดสระขุดบ่อ แล้วก็อาจจะทำอะไรขึ้นมาให้คนไปถ่ายรูปเพราะคนชอบถ่ายรูปถูกป่ะ

เห็นพี่จตุรงค์ตั้งชื่อไว้ให้เสร็จสรรพเรียบร้อยว่า “ภูลีลา”? ตั๊ก – พูดย้ำในชื่อเนี่ยนะ จตุรงค์จากหน้าที่บานแผ่เต็มหมอนเขาคงภูมิใจมากเลยนะ ว่าชอบชื่อเขาเนี่ย แล้วพูดออกอากาศด้วยเขาคงภูมิใจ คงแอ๊กน่าดูเลยจตุรงค์อ่ะ เขาบอกพี่นะว่าเขานอนไม่หลับสามวันสามคืน จริง! เพื่อที่จะคิดชื่อนี้ให้พี่ ซึ่งถามว่าพี่ต้องการมั้ย พี่ขอร้องหรือเปล่า พี่ก็เปล่า(หัวเราะ)

ตั๊ก – แหม…อุตส่าห์คิดให้เรา ไปคิดเองด้วยนะ แกรักเราไง แล้วพี่ชอบด้วยนะ ภูลีลา เอาชื่อพี่กับชื่อลูกมารวมกัน ของเขาจตุรงค์ก็ JR Green แล้วพี่รงค์กับพี่คิดเหมือนกันคือเป็นเกษตรเชิงท่องเที่ยว เพราะว่าในสวนเกษตรของเขาทำโน่นทำนี่ เห็นทำสะพานสายรุ้ง ทำรถไฟ เดี๋ยวพี่จะทำมั่งพี่อาจจะทำเป็นกังหัน เพื่อให้คนได้ไปถ่ายรูป เชิญด้วยนะจ๊ะ

อันโน้นเป็นแลนด์มาร์กราชบุรี ของเราต้องไปแลนด์มาร์กพิษณุโลกเลยใช่ไหม? ตั๊ก – (หัวเราะ) ใช่ๆ ของพี่อยู่เนินมะปราง ซึ่งห่างจากตัวเมืองของพิษณุโลกประมาณ 40 กิโลฯ

ที่สวยมากผืนนี้ได้มานานแค่ไหนแล้วมีขนาดเท่าไหร่? ตั๊ก – 16 ไร่ จริงๆ แล้วเป็นที่ของเพื่อนรุ่นน้องของแม่พี่ เขาก็บอกแม่พี่มาตั้งนานแล้วเพราะเขาไม่อยากไปขายคนอื่น เขาอยากขายให้กับแม่พี่เพราะเขาทำอยู่ในกองทุนปันน้ำใจกับพี่ด้วย แต่พี่ก็กะว่าถึงจะขายให้พี่ก็ตาม แต่พี่ก็อยากให้แกดูแล

ปีหน้าบุกเบิกแน่นอนแล้วเล็งจะทำอะไรยังไงบ้าง? นุ้ย – พี่ว่าน่าจะเป็นปลายๆ ปี รอให้อะไรมันซาๆ สักนิดหนึ่งก่อน ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์โควิด แล้วก็การเดินทางไปที่แบบว่าไม่ต้องกักตัว ตั๊ก – พี่คิดว่าปีหน้าคงไปมากันสะดวกแล้ว อาจจะไม่ต้องไปถึงกัดตัวแล้วปีหน้า ปีหน้าก็จะเริ่มแพลนไปทำกันแล้ว พี่ว่าจะไปปลูกบ้านพี่ด้วย ขุดสระทำอะไรทุกอย่าง ค่อยๆ ทำไปไม่ต้องรีบมาก

หลายคนเข้าใจว่าพี่ตั๊กเป็นคนนครสวรรค์ แล้วทำไมถึงไปอยู่พิษณุโลก ไปปลูกบ้านมีที่ทางที่นั่น? ตั๊ก – งงใช่มั้ย จริงๆ แล้วพี่กับแม่เป็นคนนครสวรรค์ บ้านนครสวรรค์ยังอยู่นะ แต่แม่พี่เขาเป็นคนชอบพิษณุโลก เพราะเพื่อนฝูงอะไรของแกอยู่ที่นั่นเยอะ อยู่นครสวรรค์นางคงเหงา นางก็เลยปลูกบ้านไปอยู่กับเพื่อนเพื่อที่จะไปอยู่ใกล้ๆ เพื่อน เลยไปปลูกบ้านอีกหลังหนึ่งที่พิษณุโลก เพราะพิษณุโลกกับนครสวรรค์มัน 100 กว่าโลเอง

คำว่าเกษียณเร็วๆ นี้คือเมื่อไหร่? ตั๊ก – มกรานี้พี่ก็ 50 เต็มแล้ว นุ้ย – ปี 65 ไงที่แม่บอกไว้ สิ้นปี 65 ตั๊ก – คือปีหน้าพี่กะว่าเดี๋ยวจะทำแบบว่าโปรเจ็กต์ต่างๆ ที่พี่คิดไว้ ถ้าเกิดมันทำได้นะ พี่ทำงานในวงการทั้งหมดมาแทบจะหมดทุกอย่างแล้ว แล้วมันเหลืออีกอย่างหนึ่งที่พี่อยากทำ

ตั๊ก อย่างน้อยๆ เป็นการทิ้งทวนในวัยของเราก็คือพี่อยากจะมีคอนเสิร์ตของพี่เนอะ แบบเต็มรูปแบบบ้าง ตั้งแต่อยู่ในวงการมาพี่ยังไม่เคยมีคอนเสิร์ตเดี่ยวที่มันเต็มรูปแบบของพี่เลย อย่างน้อยๆ มันก็เป็นผลงานที่ทิ้งทวนพี่ในวัย50 พี่กะว่าปีหน้าลุยงานที่มันเต็มที่เลยเป็นการทิ้งทวนก่อนที่จะเกษียณ

50 เอง เร็วไปไหม? ตั๊ก – 50 แล้วนา (ไม่เสียดายงานในวงการเหรอ?) ตั๊ก – พี่ว่าพี่น่าจะเลือกรับงานได้อ่ะ อย่างที่ผ่านมาเนี่ยด้วยความเกรงใจไม่กล้าปฏิเสธก็เลยรับหมดทุกอย่าง แต่อย่างที่บอกว่าถ้าเกิดว่าพี่เกษียณแล้วอาจจะเหลือไว้สักนิดหนึ่งในงานที่เราชอบและรักจริงๆ คงจะไม่มารับเยอะอย่างนี้แล้ว

เพื่อนพ้องในวงการว่ายังไงบ้าง? ตั๊ก – เพิ่งไปเจอน้าเน็กมา น้าเน็กยังไม่ยอมเลย ไม่อยากให้เราออกจากวงการ โอ๋ย! น้าเน็กเดี๋ยวเนี้ยต้องบอกว่าถึงจะไม่ได้เห็นเราทางทีวีเยอะ แต่ว่าออนไลน์หรือยูทูบอะไรพวกนี้ก็สามารถเห็นเราได้ พี่อาจจะไปทำรายการสองคนผัวเมีย(หัวเราะ)ก็ว่าไป คือไม่หายหรอก อย่าลืมนะทุกอย่างมันอยู่ในมือถือแล้วถูกป่ะ

น้องภูว่ายังไงบ้าง? ตั๊ก – ภูไม่มายุ่งเลย แล้วพี่กับผัวก็ไม่ไปยุ่งกับมันด้วย(หัวเราะ) เขาเป็นหนุ่มแล้ว อายุ 18 เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาเป็นนักศึกษาปี1 ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พี่กับพี่นุ้ยก็คุยกันตลอดเลยว่าชีวิตของลูกก็คือของลูกไป เราแค่เป็นพ่อแม่ที่คอยแนะนำ แต่การตัดสินใจอะไรทุกอย่างก็เป็นอนาคตของเขาปล่อยเขา

นุ้ยเราก็แค่ดูในบางสิ่งบางอย่าง อันนี้ไม่ดีก็ว่าไป แต่ก็ตั้งแต่เกิดมาภูก็ไม่เคยทำเรื่องเสียหายอะไรให้พี่สองคนไม่สบายใจเลยก็เลยไว้ใจทุกอย่าง เขาเป็นผู้ใหญ่กว่าเราอีก แล้วก็ดีด้วยที่ภูไม่ใช่เด็กชอบเที่ยวไปนู่นไปนี่ ไม่ค่อยไปไหน ตั้งใจเรียนดีอ่ะ แล้วก็เก็บตัว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน