ผู้ชายก็ร้องไห้เป็น เคลลี่ ธนะพัฒน์ เปิดใจแบบหมดเปลือก ทำไมชอบคบเด็ก ทุกครั้งที่รักไม่คิดจะเลิก แต่เพราะอีกฝ่ายจะเลิกเลยต้องทำใจ

ประสบความสำเร็จทุกด้าน ยกเว้นเรื่องของความรัก สำหรับพระเอก เคลลี่ ธนะพัฒน์ หนุ่มหล่อนักเรียนนอก ลูกครึ่งไทย-จีน เชื้อสายอเมริกัน เกิดที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จบปริญญาตรีจาก University of California San Diego หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศไทย พออายุได้ 28 ปี เข้าวงการบันเทิงได้เซ็นสัญญากับบริษัทใหญ่ขึ้นแท่นรับบทบาทพระเอก ซึ่งทำให้เคลลี่กลายเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียง มีผลงานออกมามากมาย จนกลายมาเป็นพระเอกอันดับต้นๆ เลยทีเดียว

สำหรับทุกงานทำให้เคลลี่ยิ้มได้อย่างภาคภูมิใจ แต่สำหรับชีวิตส่วนตัวโดยเฉพาะเรื่องความรัก เจ้าตัวกลับเสียน้ำตาทุกครั้ง เพราะทุกครั้งที่รักใครไม่เคยคิดจะเลิก แต่เพราะอีกฝ่ายจะเลิกตัวเองเลยต้องทำใจ

เมื่อได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 เคลลี่ ได้เปิดเรื่องราวในชีวิต ความรักแบบทุกซอกทุกมุมในใจ เพราะอุ่นใจที่ได้มานั่งคุยมานั่งเล่าที่นี่เป็นที่แรกแบบหมดเปลือก ตั้งแต่เรื่องสเป๊กที่ทำไมต้องคบเด็ก เปิดเรื่องมรสุมรักกับนางเอกความสัมพันธ์ที่ต้องจบลงเพราะอะไร โกรธกันไหม

ฟังคำตอบของจากปากเคลลี่ ความสัมพันธ์หลังการแต่งงาน ที่เจ้าตัวได้เผยว่า การแต่งงานไม่ใช่จุดจบของปัญหา และการใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงขั้นไม่คุยกันเลยแม้อยู่ในบ้านเดียวกัน จนตัวเองเครียดหนักมาก พยายามปรับจูนเข้าหากันจนต้องไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ แต่สุดท้ายรักก็จบแบบไม่ Happy Ending

โดยส่วนใหญ่ในความรักหลายๆ ครั้งที่ผ่านมามักจะชอบคนที่อายุน้อยกว่า คบเด็ก? “นี่คือส่วนหนึ่งที่คนมองว่าผมเจ้าชู้ ถามว่ามันเป็นสเป๊กไหม ก็อาจจะเป็นไปได้ครับ ต้องบอกว่าการที่เราคบคนที่อายุน้อยกว่าไม่ได้ตั้งใจนะครับ ไม่ได้มองว่าผมคบกับคนนี้เพราะเขาเด็กแต่ด้วยบางทีหลายๆอย่าง เราไปเจอคนที่เราชอบ มารู้ว่าเขาเด็กเราเครียดเลยนะครับ ถึงขั้นเครียดว่าเอาอีกแล้วโดนอีกแล้วแน่เพราะคนจะหาว่าผมคบเด็ก ชอบแต่เด็ก พอเราชอบคนนี้ แล้วเราคบไปแล้วเราเลิกแล้วมาชอบกับอีกคนก็เป็นเด็กกว่าอีก เราก็ตกใจเหมือนกันนะคือไม่ได้ตั้งใจครับ”

จนกระทั่งมาเจอกับนางเอกอีกคน ซึ่งครั้งนั้นก็ถือน่าจะพูดได้ว่าเป็นหนึ่งในครั้งที่เราเจอ มรสุมใหญ่มากหนักมากความสัมพันธ์จบลงเพราะอะไร? “เพราะผมชอบความที่เขาน่ารักดูโก๊ะๆ ดี ดูตลกก็เลยไปจีบเขา”

เราเป็นฝ่ายโดนทิ้งเหรอ? “ก็โดนทิ้งมาหลายครั้งแล้วนะครับ”

แล้วอะไรทำให้ความสัมพันธ์กับคนนี้ไปถึงขั้นแต่งงาน? “ในเวลานั้นคุณแม่ผมเป็นมะเร็ง แม่ผมป่วยหนัก อยากแต่งงานให้แม่ผมเห็น ให้แม่ไม่ต้องห่วงผม ตอนนั้นเครียดหนักมากเราจะปรับยังไง เราคิดว่าเรามีข้อบกพร่องตรงไหน ทางโน้นล่ะมีข้อบกพร่องอะไร เราไม่ชอบอะไรเกี่ยวกับทางโน้น หรือทางโน้นไม่ชอบอะไรเกี่ยวกับทางเราเราก็ปรับจูนเข้าหากัน”

ตอนที่มาถึงที่สุดแล้วความสัมพันธ์ของการแต่งงานเป็นอย่างไร ถึงขั้นไม่คุยกันเลยไหมอยู่ในบ้านเดียวกัน? “ใช่ครับ ไม่ได้คุยเลย เลยตัดสินใจว่าลองห่างกันสักพัก แต่พอห่างแล้วก็เลยรู้ว่าถ้ากลับไปแล้วคงไม่ได้กลับไปเหมือนเดิม มันไม่มีอะไรที่จะดีขึ้น แล้วความสัมพันธ์ที่จบลงอาจจะเพราะ ถ้าเราเลิกในบางครั้งเพราะเราปากไม่ดีเอง บางทีเวลาทะเลาะกันเขาบอกมาว่าจะเลิก เราก็บอกว่าเลิกก็ได้ถ้ามีปัญหานักอยากเลิกก็เลิก แต่สุดท้ายพอเขาจะเลิกแบบเอาจริงขึ้นมา เราก็ตกใจนะครับ ว่าทำไมและผมก็เสียน้ำตาทุกครั้ง”

“การแต่งงานไม่ใช่จุดจบแก้ปัญหาต่างๆ ได้ มันไม่เหมือนในหนังในละครที่แต่งงานกันแล้ว Happy Ending แต่งงานแล้วมีอะไรอีกเยอะที่จะต้องเจอ การใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันมันไม่ใช่สิ่งที่ง่าย ผมก็อยากเจอใครที่จะมาอยู่กับผมจนแก่ อยู่กับผมไปชั่วชีวิตเราก็อยากมี ไม่ได้อยากต้องมาคบกับใครแล้วเลิก”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน