พชร์ อานนท์ ชวนดู หอแต๋วแตกแหกโควิดฯ รับประกันฮาแน่! แจงดราม่า พส. เล่นหนัง ยันบทเหมาะสม-ไม่ได้เอาพระมาแต่งกะเทย

ปิดกล้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ หอแต๋วแตกแหกโควิดปังปุริเย่ หนึ่งในจักรวาลภาพยนตร์ “หอแต๋วแตก” ของผู้กำกับฯ คนดัง พชร์ อานนท์ ล่าสุดวันที่ 3 ต.ค. เจ้าตัวเปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดราม่าต่างๆ ในงานปิดกล้อง ที่ อะกาลิโก ซ.สุขุมวิท 51

ได้กลับมาถ่ายทำอีกครั้ง? “วันนี้เป็นวันปิดกล้องแล้ว เราถ่ายตั้งแต่วันที่เขาอนุญาตให้ทำงาน ถ่ายมาประมาณ 3-4 วัน พยายามเก็บเหตุการณ์ให้ครบทุกอย่าง เหตุการณ์ที่เกิดช่วงโควิดหมดเลย เรื่องราวเกี่ยวกับโควิดอาจจะน้อยลง”

“ตอนนี้มันเป็นเรื่องใหม่ๆ ไม่อยากไปเล่นกับโควิดด้วยแต่ก็มีนิดหน่อย เรียกว่าว้าวทุกซีน แต่ก็โดนดราม่าว่าไปเล่นเกี่ยวกับโควิดเพราะมันเป็นสิ่งที่คนเขากลัวกันไง อะไรที่มันเล่นได้เราก็เล่น อะไรที่แซวได้เราก็แซว แซวทุกฝ่ายแซวหมด”

แล้วที่ถ่ายมาก่อนหน้ากลัวจะเอาต์ไหม? “ไม่เอาต์ หนังพชร์ อานนท์ ไม่เคยเอาต์ ส่วนเรื่องน้ำท่วมไม่ทัน ขออย่าให้มันเข้ากรุงเทพฯ เพราะเคยท่วมมาแล้วปี 54 ก็หยุดกันยาวเหมือนกันนะ”

ฉายฝ่าโควิดเลยไหม? “ไม่ฝ่าแล้ว เข็ด ตอนนั้นที่ฉายเรื่องพจมานฯ เราเป็นห่วงโรงหนัง อยากให้คนออกมาโรงหนังกัน แต่เมื่อวานที่โรงหนังเปิด รายได้หนังมาร์เวลวันแรกทั่วประเทศเขาก็ได้แค่ล้านกว่าบาทเอง แต่ของพจมานฯ เปิดออกมาช่วงนั้นได้ 2 ล้านว่าไม่ได้ แฟนๆ หอแต๋วแตกเยอะ แต่ตอนนั้นมันไม่ใช่หอแต๋วแตก 100% มันเป็นเรื่องพจมานฯ แต่เรื่องนี้หอแต๋วแตก 100% รับประกันสนุกมาก”

วางกำหนดฉายช่วงไหน? “น่าจะเป็น 2 ธันวาคม รอให้คนเข้าโรงหนังเยอะๆ ก่อน ตอนนี้เข้าแค่ 50% เหมือนกับตอนเรื่องพจมานฯ ก็เข้าได้แค่ 50 เปอร์เซ็นต์ (รอบที่แล้วเจ็บหนักเลยไหม?) ไม่เจ็บ ไม่หนักนะ เราก็ได้ในระดับหนึ่งที่มันจะต้องได้ในช่วงโควิดเพราะตอนนั้นไม่มีใครกล้าเข้าโรงหนัง แต่ของเราก็ได้มาเยอะกว่าหนังไทยเรื่องอื่น และได้เยอะกว่าหนังฝรั่งช่วงมิ.ย.-ก.ค. ปีที่แล้ว”

ตัดต่อทันฉายธันวาคมนี้ไหม? “มีอะไรที่พชร์ทำไม่ทันบ้าง ที่เราถ่ายมาแล้วหยุด เราก็ตัดต่อไว้เสร็จประมาณ 80% แล้ว เราก็ถ่ายไปเพิ่มให้มันจบสมบูรณ์แบบ บอกโลกให้รู้ว่าพร้อมฉายแล้ว ภาคนี้มันก็ว้าวนะ เอาคนดังๆ มาเล่นเยอะแยะไปหมดเลย สิตางศุ์ หนูรัตน์ หอแต๋วแตกมันก็เป็นสไตล์นี้อยู่แล้ว”

เห็นปวดหัวนักแสดงไปทำหน้ามาใหม่ กลัวภาพไม่ต่อเนื่อง? “ตอนแรกปวดหัวมากว่ามันจะยังไง แต่เราไปห้ามแม่หญิงลีทัน หยุดก่อนอย่าเพิ่งทำเพราะเขาจะทำตาแข่งกับสิตางศุ์ เขาก็หยุดให้ พอวันนี้ถ่ายวันสุดท้ายแล้วเขาจะไปทำหน้าทำกะโหลกตัดหัวอะไรตามสบาย”

“แต่ของสิตางศุ์ทีแรกเราก็เป็นห่วงว่าจะต้องเปลี่ยนไปเยอะ สรุปไม่เปลี่ยนห่-อะไรเลย พอใส่วิกปุ๊บแต่งชุดเก่าก็เหมือนเดิม (เขาบอกเหมือนฟ่านปิงปิง?) ฟาดลงดินหรือเปล่า นางก็เครียดอยู่นะ เจ็บแทบตายแต่ไม่เปลี่ยนอะไรเลย”

ถามถึงดราม่าที่นิมนต์ “พส.” พระมหาไพรวัลย์ มาเล่นหนัง? “พส. ถ่ายเสร็จไปแล้ว มันก็ดราม่าทุกเรื่องแหละ เราก็เฉยๆ พระท่านมาให้พรโรงแรมเจ๊แต๋วก็ให้น้ำมนต์ คือไม่ได้มาเล่นแบบวี้ดว้าย เขาเล่นเป็นพระ ทุกคนก็กราบพระแล้วพระก็ให้พรทุกคน”

รู้สึกยังไงที่มีดราม่าประเด็นนี้? “ประเทศเรากับเรื่องดราม่ารำคาญไม่ได้นะ เคยชินมากกว่า เพราะมันดราม่ากันทุกเรื่อง เราก็อยู่กับมันให้ได้เพราะมันไม่ได้มาดราม่ากับเราเรื่องเดียว มันดราม่าทุกเรื่อง”

มุมมองเรื่องความเหมาะสมกับการเอาพระสงฆ์มาแสดงหนัง? “มันอยู่ที่เจตนา เจตนาเราให้พระสงฆ์สอนธรรมะ แต่คนส่วนใหญ่วัยรุ่นหรือใครที่ไม่ได้เข้าวัดก็มาดูหนังได้ธรรมะกลับบ้านไป เราไม่ได้เอาพระสงฆ์มาแต่งเป็นกะเทย ไม่ได้เอาพระสงฆ์มาเล่นเป็นเจ๊แต๋ว พระสงฆ์ก็เล่นเป็นพระ ทุกคนก็กราบ พระก็สอนว่าเราต้องทำดี คือเรารู้เพราะเราศาสนาพุทธเหมือนกัน”

“คาแร็กเตอร์ของพส. เป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น ต้องไปดูในหนังเขาจะมีประโยคตลกๆ อยู่ประโยคหนึ่ง ทำงานกับท่านก็สนุก ท่านเป็นกันเองดี แต่พวกเราก็เคารพพระ ทุกคนก็นอบน้อมไหว้กราบ ไม่มีด่า”

ท่านมีข้อแม้ในการมาร่วมงานไหม? “ตอนแรกท่านจะไม่มา ท่านบอกไม่ว่าง ต้องเอาจนได้ จนว่างให้ได้ เปิดคิวรอเลย ท่านมาวันไหนก็เอาตอนนั้นเลย (ในความรู้สึกเราเรื่องนี้ไม่มีท่านไม่ได้?) คือพระทุกคนก็เคยดูทีวีอยู่แล้ว พอดีท่านดูท่านก็เอามาพูดในไลฟ์ พอท่านพูดถึงหนังเรา เราถึงออกไปพูดด้วย ถ้าท่านไม่พูด เราก็คงไม่ไปพูด”

“ถามว่าท่านมีข้อแม้อะไรไหม ไม่มีนะ ตอนแรกเราจะให้พระใส่ชุด PPE เพราะข่าวจริงมันมีพระใส่ ตอนแรกจะให้ท่านใส่ ท่านบอกอย่าเลย แค่นี้ท่านก็โดนเยอะอยู่แล้ว เราก็ได้พระมหาไพรวัลย์มา ส่วนท่านพระมหาสมปองเคยเล่นหนังกับเราแล้ว คือท่านมาสอนศาสนามากกว่า สอนคำดีๆ”

“สนุกแน่นอน ตัวละครมันอาจจะไม่ครบ มูฟออนบ้าง ไปดูอะไรใหม่ๆ บ้าง อย่าง อ.ยิ่งศักดิ์ ที่เขาไม่เล่นให้เพราะเขาอายุ 75 แล้ว ทุ่มหนึ่งก็หลับ สามทุ่มก็ไม่คุยกับใครแล้ว อาจารย์ก็พักผ่อนไป ไม่ได้ตีกัน ส่วนพี่เอกชัยติดถ่ายทำหนังเขาอยู่ที่ภาคใต้ พี่เอกไม่มากรุงเทพฯ เลยเพราะกลัวโควิด ตอนนั้นกรุงเทพฯ เป็นแดงเข้ม เราก็ไม่สามารถไปบังคับได้ แล้วที่สำคัญพี่เอกเขา 65 แล้ว เขาก็ไม่ไหวเหมือนกัน”

“เราก็เอา ตั้ม วราวุธ กับ โดม จารุวัฒน์ มาแทน เราก็ปรับบทเป็นคนใหม่เลย ตั้มชื่อแก้ม โดมชื่อวิชญาณี พอเล่นไปเล่นมาเปลี่ยน โดนแก้มด่า เลยเปลี่ยนเป็นเปรี้ยวกับหวาน มันมีไดอะล็อกที่ว่า แก้มไม่ให้ใช้ชื่อเขาแล้วแหละเพราะเขารู้สึกว่าไม่ดี เราก็เปลี่ยนชื่อ ต่อไปเจ๊แต๋วเรียกฉันว่า เปรี้ยวกับหวานก็ได้นะ”

“ลองมาดูหอแต๋วแตกกับรุ่นใหม่ๆ บ้าง ความสนุกคงเดิมมีอะไรมากมาย พวกเน็ตไอดอลมีในหอแต๋วแตกครบทุกคน ฝากหอแต๋วแตก ภาคนี้สนุกแน่นอน เพราะบางทีโควิดเราเล่นอะไรไม่ได้เยอะเพราะมันเป็นเรื่องเซ้นซิทีฟ เราก็เลยเล่นอย่างอื่นแทน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน