หนูเล็ก ก่อนบ่าย ลดความแพนิก แม้ผวาโควิด แต่มั่นใจมาตรการตรวจเข้มข้นของโรงเรียน ตอนนี้ส่งลูกชาย น้องวิน กลับไปโรงเรียนแล้ว
แม้จะยังผวาและกลัวการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อยู่ไม่น้อย แต่นักแสดงอารมณ์ดี หนูเล็ก ภัทรวดี ปิ่นทอง หรือ หนูเล็ก ก่อนบ่าย ก็เริ่มอุ่นใจและมั่นใจมากขึ้นในมาตรการตรวจที่เข้มข้นของโรงเรียนลูกชาย จนล่าสุดกล้าส่ง น้องวิน ลูกชายวัย 2 ขวบไปโรงเรียนอีกครั้ง ซึ่งเป็นโรงเรียนอินเตอร์
ทั้งนี้หนูเล็กยังเผยถึงเรื่องที่ทำเอาคนเป็นแม่ต้องกุมขมับ ถึงกับต้องไปรบกวนเพื่อนนักแสดง รุ้ง รุ้งลาวัลย์ ช่วยแปลเอกสารภาษาอังกฤษโรงเรียนของลูก งานนี้เจ้าตัวถึงกับบอก ลูกเรียนอินเตอร์แม่ไม่จำเป็นต้องเก่งภาษาอังกฤษก็ได้
“จริงๆ แล้วเขาให้ไปตั้งนานแล้ว แต่เรายังไม่กล้าให้ไปเพราะเรากลัว ป้องกันยังไงมันก็เสี่ยงไปหมด พอมันถึงเวลาจริงๆ ที่เขาถึงเวลาเปิดกันหมดก็ต้องดูว่าระบบของโรงเรียนเป็นยังไง ซึ่งที่นี่ตรวจทั้งพ่อตรวจทั้งแม่ ทุกคนที่จะมาส่งลูกต้องตรวจก่อนแล้วส่งผลก่อน แล้วลูกเองพอไปถึงโรงเรียนปุ๊บก็ตรวจแหย่จมูกแล้วก็จะส่งผลมาให้ผู้ปกครองทุกเช้า เราก็เลยรู้สึกว่าโอเค”
ต้องตรวจทุกวันเลย? “ใช่ค่ะ ทุกวันเลย จนตอนนี้รู้สึกมั่นใจค่ะว่าโอเค ปลอดภัยแล้ว”
“กังวลอยู่ตลอดเวลาแล้วก็กลัวกลัวมากๆ เราเจอคนรอบข้างที่เป็นแล้วเขามีอาการยังไงเรารับรู้มาตลอดเรายิ่งกลัวเลย”
“ถ้าเราดูแล้วโรงเรียนไม่ปลอดภัยหรือว่าเราไม่มั่นใจเราก็อยู่บ้านได้แต่อย่างเราคือเด็กน้อยโรงเรียนปลอดภัยมากแล้วก็มั่นใจในการตรวจของเขา”
พัฒนาการลูกชายเป็นอย่างไร? “เราจะระวังเรื่องคำพูดของเรามาก แล้วก็ระวังเรื่องความคิด คำพูด จิตสำนึก คือเด็กจะจำแม้กระทั่งจิตสำนึกของผู้ปกครองของพ่อของแม่เลย ต้องระวังเลย ถ้าเกิดเหมือนสมมติขับรถแล้วหงุดหงิด อย่าหงุดหงิดเพราะลูกจะจำ แม้แต่พูดคำอุทานภาษาใต้เย็ดพรอม วินก็ได้เลยพอเวลาโมโหก็จะเย็ดพรอม เราก็บอกวินไม่ได้ลูกอันนี้ไม่ได้มันเป็นคำอุทานแต่ว่ามันไม่ได้สำหรับเด็กแล้วก็ไม่ได้สำหรับผู้ใหญ่ด้วยแม่ขอโทษนะที่แม่พูดเขาบอก โอเคครับ”
ลูกเรียนอินเตอร์ภาษาอังกฤษเป็นยังไง? “ภาษาก็ดีมากค่ะ ดีกว่าแม่เยอะมาก เหมือนเวลาพูดอะไรแล้วแม่พูดผิดเขาก็จะท้วงไม่ใช่มันไม่ใช่ เขามีเอ็กซ์เซนต์ของเขาเยอะมาก คือเหมือนลูกได้สอนภาษาเราด้วย”
ให้เพื่อนบ้านช่วยสอนภาษา? “คือเรื่องนั้นเขามาอยู่ข้างบ้านเราเอง เราไม่ได้ไปบังคับเขา พี่รุ้งเขามาอยู่ข้างบ้านเราเอง แล้วเวลาโรงเรียนเขาส่งอะไรมามันเป็น 10 หน้าภาษาอังกฤษใครจะไปอ่านออก เราก็ต้องปรึกษาเขาเพราะเขาจบปริญญาโท เราต้องปรึกษาเขาซึ่งเขาก็เต็มใจ”
“ก็ปรึกษาตลอดเพราะว่าเราไม่รู้จะปรึกษาใคร จะไปปรึกษาครูบางทีก็เกรงใจเขา จะไปปรึกษาคนอื่นจะไปปรึกษาดีเจนุ้ยก็เกรงใจ ก็คือปรึกษาทุกคนนะ พี่คะมันอ่านว่าอะไร บางทีเกรงใจแล้วถ้าถามว่าทำไมไม่เปิดในกูเกิ้ลถ้าเล็กๆ น้อยๆเปิดได้ ถ้าเยอะๆ เรารู้จักคนที่พูดได้แล้วมันเสียเวลาส่งไปทีเดียวจบให้เป็นภาระของเขาไป ตอนนี้รอบบ้านก็คือจะเริ่มหน่ายกับเราแล้วแต่ทุกคนน่ารักค่ะ”
จะไปเรียนภาษาเพิ่มไหม? “จริงๆ เราไปเรียนกับวิน 2 เดือนเต็ม ไม่ได้อะไรมาเลยก็เลยรู้สึกว่าโอเคเราไม่ควรที่จะไปเสียตังค์ในการเรียน”
“คือแก้ปัญหาด้วยการไม่พูดภาษาอังกฤษกับลูกค่ะ เพราะว่าเราพูดไม่ได้อยู่แล้ว แล้วก็ไม่ต้องพยายาม ปรึกษาโรงเรียนปรึกษา ผอ.ผู้บริหารบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องพูดกับลูก เราไม่จำเป็นต้องพูดภาษาอังกฤษได้ก็ได้ลูกก็จะเรียนรู้ของเขาเองมาบ้านก็คือพูดไทยไปโรงเรียนก็พูดภาษาอังกฤษ”
