‘แม็ค ปวิช’ฉีกลุกส์ตบจูบ – นานจนเกือบลืม กับบทพระเอกเดี่ยวครั้งแรกของนักแสดงหนุ่ม ‘แม็ค’ ปวิช เวียงนนท์ ในละคร “นางฟ้าอสูร” ทางช่อง 3 ที่เล่นประกบคู่นางเอกสาว ‘แจ็คกี้’ ชาเคอลีน มึ้นช์

วันนี้มาเปิดใจหนุ่มแม็คถึงบทบาทที่ได้รับ พร้อมอัพเดตผลงาน รวมถึงเรื่องราวความรักในชีวิตจริง

รู้สึกยังไง ละคร “นางฟ้าอสูร” ได้ออนแอร์แล้ว?

แม็ค – “ดีใจครับ ผลงานที่เราตั้งใจทำได้ออกสู่สายตาประชาชนแล้ว เรื่องนี้ถ่ายทำเสร็จมา 5 ปีแล้วครับ”

คาแร็กเตอร์ในเรื่องเป็นอย่างไร?

แม็ค – “ในเรื่อง รับบท เมฆ เป็นชาวประมงผู้สูญเสียเรือที่ ทำมาหากิน สูญเสียคนรัก สูญเสียเงิน แทบไม่เหลืออะไรในชีวิต มีอย่างเดียวที่สามารถทวงคืนได้คือเรือประมงที่เขาเป็นเจ้าของ จริงๆ เขาไม่ได้เป็นผู้ชายดุดันขนาดนั้น แต่ด้วยเหตุการณ์ในชีวิตที่สูญเสียของรักทำให้ต้องดุต้องโหดเพื่อทวงของรักคืน เป็นแนวตบจูบสไตล์อาเปี๊ยก พิศาล อัครเศรณี ครับ”

“ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ผมจะได้รับบทตำรวจบทบู๊ แต่เรื่องนี้พลิกคาแร็กเตอร์ไปเลย ตอนได้รับบทครั้งแรกก็ดีใจที่ไม่ได้รับบทตำรวจแล้ว แต่ก็แปลกใจ คนที่หยิบยื่นบทนี้ให้ เขาเห็นอะไรในตัวเรากับตัวเมฆนะ ทั้งรู้สึกดีใจและแปลกใจ เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ของผมครับ”

มาร่วมงานกับอาเปี๊ยก อาเปี๊ยกดุไหม?

แม็ค – “จริงๆ ผมเคยร่วมงานกับอาเปี๊ยกมาก่อน เรื่องนี้เป็น เรื่องที่ 3 แล้ว อาเปี๊ยกเป็นคนน่ารักมากครับ สอนด้านแอ๊กติ้งต่างๆ สอนการใช้ชีวิตสอนทุกอย่างเป็นครูที่ดีที่สุดคนหนึ่งของผมครับ โดยรูปลักษณ์ภายนอกเขาอาจจะดูดุ แต่จริงๆ ใจดี แกน่ารักมากครับ เรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับฯ เรื่องสุดท้ายของอาเปี๊ยก พูดถึงแล้วก็คิดถึงครับ”

ส่วนใหญ่ไปถ่ายทำที่ทะเล?

แม็ค – “เรื่องนี้เล่นเป็นชาวประมง โลเกชั่นส่วนใหญ่จะเป็นทะเล อย่างเรื่องชุดก็แต่งตัวเป็นชาวเกาะ ชาวประมง เสื้อกางเกงสบายๆ รองเท้าแตะ และมีไว้หนวดไว้เครา ซึ่งระหว่างนั้นผมต้องถ่ายละครอีกเรื่องหนึ่งไม่มีหนวดไม่มีเครา ก็ต้องถ่ายเรื่องนั้นให้เสร็จก่อนแล้วเว้นไปวันสองวันเพื่อรอหนวดขึ้นถึงจะมาถ่ายเรื่องนางฟ้าอสูรต่อครับ (ยิ้ม)”

มีโชว์หุ่นเยอะไหม?

แม็ค – “ก็ประมาณนึงครับ ส่วนตัวผมไม่ได้รู้สึกว่าเขาเน้นขายบอดี้อะไรตรงนั้น จะเน้นขายอารมณ์ที่ดุดันมากกว่า แต่มันจะมีความแตกต่างจากของที่อาเปี๊ยกเขาเคยเล่น มาก่อนบ้าง ต้องติดตามดูว่าจะเปลี่ยนแปลงในรูปแบบไหนรับรองว่าครบรสและน่ารักแน่นอนครับ”

เรื่องนี้เล่นกับ ‘แจ็คกี้่ ชาเคอลีน’ เป็นอย่างไรบ้าง?

แม็ค – “คิดว่าค่อนข้างเข้าขากันครับ สนุกครับเวลาเข้าฉากกับน้อง น้องมาเต็ม ผมก็ต้องใส่กลับไปเต็ม ด้วยพลังงานของผมที่มีอยู่น้อยนิดก็ต้องค่อยๆ เติมพลังงานตัวเองเรื่อยๆ ฝึกตัวเองไปเรื่อยๆ ทุกวัน ในเรื่องถามว่าเราโหดกับเขาแค่ไหน เราทุ่มเขายกเขาใช้ความรุนแรงกับเขาประมาณหนึ่งเลย ตบจูบตามสไตล์อาเปี๊ยกเลยครับ(หัวเราะ) เลิฟซีนค่อนข้างชัดเจนรุนแรงแนบชิด ไม่มีความ นุ่มนวลในผู้ชายคนนี้เลย นายเมฆมีแต่ความดุดัน ผมไม่แน่ใจว่าแจ็คกี้เขาตัวเขียวตัวช้ำไหม แต่เราก็ขอโทษเขาทุกครั้ง เพราะเราก็ไปเต็มครับ ทุกครั้งที่เข้าฉากด้วยกันปะทะกันตลอด มีเรื่องให้ใช้กำลังมีเรื่องให้ใช้อารมณ์ตลอดครับ”

เรื่อง นางฟ้าอสูร ได้เห็นการฉีกบทบาทออกไป คาดหวังกับมันแค่ไหน?

แม็ค – “ความคาดหวังของผมเป็นศูนย์ครับ ผมไม่ได้ คาดหวังอะไรเท่าไหร่เพราะว่าเป็นงานที่เรารับผิดชอบไปแล้วส่วนผลตอบรับมันจะเป็น ยังไงมันคนละเรื่องกัน ในมุมมองของผมนะครับ”

อัพเดตผลงานละครเรื่องอื่นๆ?

แม็ค – “หลังจากนี้ที่เพิ่งจะถ่ายจบไปมี เพชฌฆาตจันทร์เจ้า รับบทตำรวจครับ อ้อมฟ้าโอบดิน เล่นเป็นชาวบ้าน ชาวเขา ชาวดอย และเรื่อง สร้อยสะบันงา เล่นเป็นพ่อค้าชาวจีนมาดนักเลง คาแร็กเตอร์แตกต่างกันออกไป”

ส่วนใหญ่ในชีวิตการแสดง เราจะได้ รับบทตำรวจ คิดว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น?

แม็ค – “ผมก็สงสัยนะ แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรมากแค่เห็นเป็นงานเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องมาสวมบทบาทนี้ ตำรวจด้วยชุดเครื่องแบบที่คลุมอยู่ก็จะทำอะไรได้ไม่ค่อยเยอะ เพราะมีเครื่องแบบตำรวจคลุมอยู่ต้องมาดประมาณนี้”

แม็คเป็นอีกหนึ่งคนที่ดูแลรูปร่างตัวเองดีมาก?

แม็ค – “พูดซะเขินเลยครับ (ยิ้ม) บางทีก็ไม่ค่อยดีครับ บางช่วง ก็ดีบางช่วงก็ไม่ดี คือทรงมันอาจจะดูดี แต่บางทีมันก็ซ่อนรูป นะครับ (หัวเราะ) ก็เข้าฟิตเนสอยู่เรื่อยๆ ตามแล้วแต่ไขมันที่มัน เพิ่มขึ้นก็จะเข้าหนักหน่อย เราก็ต้องดูแลร่างกายตัวเองอยู่ตลอดครับ เราอายุ 30 กว่าแล้วเนาะ ร่างกายตอนไปตรวจสุขภาพมันก็เริ่มแสดงบ้างแล้วก็ต้องมาปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตกันมากขึ้นครับ”

ชีวิตในวงการของแม็คกับเส้นทางอาชีพนักแสดง?

แม็ค – “ผมเข้าวงการมาตั้งแต่ปี 2012 จะ 9 ปีแล้วครับ แต่ผมยังรู้สึกว่าตัวเองยังใหม่ๆ อยู่เลย (หัวเราะ) ยังมีอะไร ต้องเรียนรู้อีกเยอะเลย ยังมีอีกหลายบทบาทที่ผมอยากจะลองเล่นครับ”

จากที่เราเป็นพระเอก ตอนนี้กลายเป็นพระรอง เรามี มุมมองอย่างไร น้อยใจไหม?

แม็ค – “ในอาชีพนี้ผมไม่ได้มองเรื่องตำแหน่งว่าเป็นพระนำอะไร ผมมองถึงความหลากหลาย และมองถึงการที่เราได้เข้าไปร่วมทำงานในกองซึ่งมีนักแสดงอีกหลายๆ คนมากมายต่างประสบการณ์กัน ดูคาแร็กเตอร์เขาจดจำมาใช้ในอนาคตได้ ผมมองในมุมความหลากหลายมากกว่า”

9 ปีในอาชีพนักแสดง เห็นพัฒนาการของตัวเองอย่างไร?

แม็ค – “อย่างเรื่องนี้มันทำให้ผมย้อนกลับไปดูตัวเองเมื่อ 5 ปีก่อนว่าเรามีทัศนคติยังไงกับอาชีพนี้ การใช้ชีวิตของตัวเองในช่วงนั้น คือมันดีตรงที่มันทำให้เรากลับไปย้อนมองว่าตอนนั้นทำอะไรอยู่ ตอนนี้เป็นยังไง เปรียบเทียบกับตัวเองได้อย่างเดียวเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่นไม่ได้ เรามีหน้าที่ที่จะต้องพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ มากกว่าที่จะไปแข่งกับคนอื่น แข่งกับตัวเองยากกว่าเยอะครับ ในเรื่องพัฒนาการของตัวเอง ผม ค่อนข้างจะชอบเรื่องหลังๆ ล่าสุดเรื่อยๆ ผมชอบวิจารณ์ตัวเอง ผมชอบจับผิดตัวเอง ตรงนี้พลาดครั้งต่อไปจะทำยังไง ผมชอบเรียนรู้และพัฒนา ตัวเองตลอดครับ”

วางเป้าหมายในอาชีพนักแสดงของตัวเองอย่างไร?

แม็ค – “ตอนนี้ก็รับผิดชอบหน้าที่เรียนรู้เพิ่มเติม มันคือหน้าที่มันคือวินัย”

ถามเรื่องความรัก มีคนคุยอยู่ไหม?

แม็ค – “ผมมองความรักของผมค่อนข้างจะเป็นเรื่องส่วนตัวประมาณนึง แต่ผมก็มีแฟนนะครับ แต่ไม่ได้จะต้องเอามาให้มันเป็นประเด็น ส่วนตัวคิดว่ามันคนละเรื่องกัน ความรักคือส่วนหนึ่ง อาชีพก็คือส่วนหนึ่งของชีวิต ทั้งสองอย่างมันไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต มันคือส่วนประกอบหนึ่งของชีวิตที่ทำให้ชีวิตเราขับเคลื่อนอย่างมีความสุข ถ้าอันไหนมันหน่วงต้องตัดออก ก็จำเป็นต้องตัด เป้าหมายมันมีอยู่”

เป็นคนนอกวงการ?

แม็ค – “ใช่ครับ”

อายุตอนนี้ 32 แล้ว เริ่มมองเรื่องชีวิตคู่แล้วหรือยัง?

แม็ค – “ไม่น้อยแล้ว ก็เริ่มเข้าสู่วัยกลางคนแล้ว มันก็มีวิกฤตหลายอย่างเข้ามาในชีวิตเหมือนกัน บางทีก็เริ่มมองอนาคตเราจะต้องไปยืนอยู่ตรงไหน เราพร้อมจะมีครอบครัวหรือยัง กับคนนี้ก็คบมาปีหนึ่งแล้วครับ ไม่นานๆ แต่ถ้าย้อนไปหลายๆ เคส ล่าสุดก็ถือว่านาน เพราะหลายเคสก่อนคนนี้ก็คบกันไม่นาน”

คนที่สามารถกุมหัวใจแม็คได้ต้องเป็นยังไง?

แม็ค – “จริงๆ เมื่อก่อนเรามีสเป๊กนะครับแต่เดี๋ยวนี้แค่พูดคุยกันรู้เรื่อง เข้าใจกัน แล้วชีวิตเรียบง่ายมันไม่ต้องมีอะไรมาฟุ้งเฟ้อ วุ่นวายมากๆ ผมว่ามันง่ายกว่า เมื่อก่อนจะชอบคนแรงๆ เดี๋ยวนี้ชอบคนเรียบๆ สเป๊กเปลี่ยนตามประสบการณ์”

เป็นคนที่ไม่ค่อยเปิดเผยเรื่องความรัก?

แม็ค – “ออกสื่อหมายถึงโซเชี่ยลเหรอ ก็มีนะครับ มีรูปลงแล้วก็เลิกกัน มันก็ทำให้เราเรียนรู้ ผมว่ามันอาจจะยังไม่เหมาะที่จะรีบไปเห่อ สุดท้ายอาจจะต้องรอสรุปเลยคนเดียว ทีเดียวว่าแต่งงานกับคนนี้นะ แต่ไม่ใช่ว่าคนที่คบอยู่ไม่มั่นใจไม่แต่งงาน อยู่ในขั้นตอนดูกันไปครับ จะให้คนเขาเห็นว่าเราเปลี่ยนบ่อยๆ มันก็คงไม่เท่”

วีรนุช จันทำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน