วิลลี่ เม้าธ์ เมียสุดที่รัก ไม่เคยพาลูกออกนอกบ้านมา 2 ปี

เป็นนักแสดงและพิธีกรอีกหนึ่งคนที่เคยเข้ารักษาตัว จากการติดเชื้อโควิด ซึ่งตอนนี้หายดี และกลับมาทำงานได้ปกติ ล่าสุด วิลลี่ แมคอินทอช ได้มาร่วมงานเปิดตัวรายการใหม่ “นิลมังกร เดอะเรียลลิตี้” ที่ โรงแรมพูลแมน

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงสุขภาพตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งเจ้าตัวเผยอย่างอารมณ์ดีว่า “หลังจากที่พ้นโควิดมาสุขภาพแข็งแรงเหมือนเดิม ไม่มีเรื่องปอด ตอนที่ลงปอดตอนติดโควิด มันพึ่งมา พอมาปุ๊บหมอก็เริ่มยาเลย

เพราะฉะนั้นปอด ไม่ได้โดนทำลาย แต่ปอดแหกเหมือนเดิม ยังไม่ค่อยกล้าสู้กับภรรยาเท่าไหร่ ไม่เถียง ไม่อะไร ทำตาม ยังเคารพและบูชาเหมือนเดิมครับผม

ตอนนี้สิ่งที่กลัวคือ กลัวว่าจะติดแล้วไม่มีอาการแล้วแพร่ เลยต้องระวังตัว แต่ด้วยความที่งานบันเทิง ได้สว็อบทุกวันจริงๆ ก็เลยเช็คตัวเองอยู่ตลอดเวลา โชคดีไปเพราะว่างานวงการบันเทิงแต่ละที่ที่ไปจะมีตรวจเอทีเคทุกครั้ง เพราะฉะนั้นก่อนทำงาน จะรู้ผลว่าไม่เจอทุกวัน

ทำให้เรามั่นใจมากขึ้นไหม? “พูดตรงนะ ตอนแรกเราก็บ่นว่าแทงกันอยู่นั่น แต่พอทำไปแล้ว เรารู้สึกสบายใจมาก เราจะไม่เอาโรคอะไรกลับไปหาเมียกับลูกที่บ้าน เพราะว่าวันนั้นทุกคนที่อยู่ด้วยกันเทสต์หมด ความเสี่ยงของเราก็กลายเป็นลดลงอย่างมหาศาล”

ลูกกับเมียเราได้ให้เขาออกมานอกบ้านไหม? “ลูกกับเมียยังไม่เคยออกจากบ้านมา 2 ปี ที่ไม่ได้ออก เพราะเมียไม่ให้ออก ให้ครูมาสอนที่บ้าน ไม่ได้ไปโรงเรียนเขาก็คิดถึงเพื่อนนะ แต่ลูกผม 10 ขวบ จะฉีดหรือไม่ฉีดวัคซีนยังไงดี แล้วถ้าไปแล้วติดหรือไม่ติด ถ้าติดจะอาการหนักหรือไม่หนัก หรืออาจจะไม่เป็นอะไรก็ได้ แต่มันยังไม่มีความแน่นอน

คุยกับเยลหลี เขาก็บอกว่าเดี๋ยวให้ครูมาสอนที่บ้านเพราะว่าครูไม่ได้สอนใคร สอนแค่น้องคนเดียว เรียนวันละ 2-3 ชั่วโมงได้เท่านั้น เวลาที่เหลือทุกคนในบ้านใส่รองเท้าวิ่ง วิ่งไล่จับกันทุกคน กิจกรรมในบ้านไป”

ลูกเมียบ่นไหมไม่ได้ออกจากบ้านมา 2 ปี? “เมียไม่บ่นเลย แต่ลูกบ่น ลูกถามแล้วว่าวันไหนที่เราจะได้ไปญี่ปุ่น เราก็ตอบไปว่าเอาแค่ จ.นครปฐม ก่อนลูก จะได้ไปวันไหน ไม่มีทางเลยที่จะได้ไปไหน”

เรื่องเรียนของน้องจะพักยาวไหม? “โชคดีที่เด็กช่วง 10 ขวบ เขายังไม่ต้องติวสอบเข้ามหาวิทยาลัย การเรียนพวกนี้ ในวัยนี้จริงๆ เพื่อเข้าสังคม มีเพื่อน มากกว่าการเอาความรู้ตอน 10 ขวบ เพื่อความรู้ในอนาคต สำหรับผมนะ ตรงนี้ยังไม่สำคัญเท่ากับความปลอดภัยของชีวิต

เป็นห่วงเรื่องจินตนาการของเด็กไหม? “ห่วง แต่อันดับแรกตอนนี้มันเป็นอะไรที่ทุกครอบครัวระแวงกันเอง เพื่อนของลูกเพื่อนสนิทเขาก็ระแวงกันทุกคน ช่วงนี้ต้องอดทนตอนนี้ก็คือดรอปไปก่อน จริงๆ เพิ่งมาหยุดปีนี้ทั้งปี ปีที่แล้วก็ยกไปเรื่อย เราจ่ายค่าเทอมไปแล้ว”

เป็นเพราะเราเคยติดโควิดมาก่อนหรือเปล่า ทำให้กังวล? “เรื่องนี้ต้องถามเจ้าบ้าน ตัวผมเองมีหน้าที่หาเงิน เป็นผู้อาศัยไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจอะไร (หัวเราะ) ต้องแล้วแต่เขาจริงๆ

เรื่องพวกนี้เราก็จะคุยกันในหมู่คุณแม่ของเด็กๆ ว่ามีผลอะไรกันบ้าง บ้านเราก็มีหมอหลายคนได้ถามไปว่าจะฉีดหรือไม่ฉีด เขาก็บอกว่ารออีกนิด รอผลออกมาสักหน่อยเพราะว่าตอนนี้ทุกคนเร่งกับการพยายามที่จะได้วัคซีนเข้าร่างกาย

อันนี้เป็นการปล่อยวัคซีนแบบฉุกเฉิน

มันมีสถานการณ์ฉุกเฉินบนโลก เราก็เลยต้องอนุมัติเร็วแล้วก็ฉีดกันไปก่อน แต่ว่าเด็กที่อเมริกาเริ่มฉีดแต่เขาเริ่มจาก 12 แต่ลูกเราแค่ 10 ขวบ มันก็ก้ำกึ่ง อีกสัก 2 ปีแล้วฉีดก็ได้

เด็กทุกคนฉีดแล้วและลดลงอายุลงมาถึงฉีดเด็ก 7 ขวบ เราก็อาจจะฉีดก็ได้ ฉีดแล้วก็สบายใจมากขึ้น ตอนนี้มีน้องคนเดียวในบ้านที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ทุกคนในบ้านตั้งแต่แม่บ้าน ทุกคนฉีดหมดเลย”

หลังจากหายโควิดแล้ว มีไปตรวจภูมิบ้างไหม?ผมยังไม่ได้ไปตรวจภูมิว่ามีมากน้อยแค่ไหน แต่ผมมั่นใจผมฉีดมาครบโดสแล้วเดี๋ยวมกราคมสิ่งที่ผมจองไว้ก็จะได้ฉีดอีก ซึ่งไม่รู้ว่าจะมาเร็วหรือช้า เรียกได้ว่าผมไขว้มาหมดแล้ว ถ้าไขว้หมดก็ปลอดภัย แล้วผมอาจจะเป็นซูเปอร์ฮีโร่ก็ได้นะ ใครจะไปรู้

วัคซีนที่ฉีดไปก็คือซิโนแวคกับแอสตร้าเซนเนก้าและที่กำลังจองไว้เป็นโมเดอร์นา มาผมก็จะใส่ไปอีก แล้วผมก็จะสักตรงแขน ตามซีซั่นต่างๆ ที่ผมมี ผมจะเอาให้หมดเลยเวลาไปเมืองนอกก็จะเปิดให้เขาดูนี่มีหมดเลย (หัวเราะ)”

เราก็เลยไม่ได้ไปตรวจภูมิ? “เอาอย่างนี้ 14-15 วันเราต้องนอนอยู่แต่ในโรงพยาบาล พอเราได้ออกมากลับมากักตัวที่บ้านอีก 15 วัน หลังจาก 30 วันไปตรวจไม่มีเชื้อแล้ว คิดว่าอยากจะกลับไปที่โรงพยาบาลอีกไหม เพื่อตรวจว่ามีคุ้มครองเท่าไหร่ ผมไม่อยากรู้ ผมไม่กลับไปโรงพยาบาลแล้วเพราะว่าอยู่นานมาก”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน