รุ่นใหญ่เตือน! บี๋ ธีรพงศ์ เล่าประสบการณ์ ถ่ายนางแบบ ต้องมีจรรยาบรรณ จวกช่างภาพกองประกวดหื่นคนเดียว พาลเสียทั้งวงการ

จากกรณีที่ ทนายนิด้า พานางงามเวที มิสยูนิเวิร์ส พร้อมทีมงาน เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจว่า ถูกช่างภาพกองประกวดทำอนาจาร โดยมีผู้เสียหายเกือบ 10 ราย บางรายหนักสุดถึงขั้นโดนข่มขืน ทำให้วงการช่างภาพโดนมองในแง่ลบ

เมื่อวันที่ 28 พ.ย 2564 นักแสดงรุ่นใหญ่และช่างภาพชื่อดัง บี๋ ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์ ควงภรรยานักแสดงและเป็นอดีตนางงาม ฮันนี่ ภัสสร บุณยะเกียรติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าว ว่าข่าวที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบสั่นสะเทือนภาพลักษณ์วงการช่างภาพเป็นอย่างมาก

ในฐานะช่างภาพคร่ำหวอดในวงการมานาน มีมุมมองต่อกรณีช่างภาพกับนางงามที่เป็นข่าวอย่างไร? บี๋ : “คิดว่ามันก็สะเทือนและเสียหายเราด้วย เพราะสายการทำงานของผมถ่ายสิ่งสวยๆ งามๆ ถ่ายนางแบบอยู่ตลอด แล้วยิ่งทำให้คนที่เราจะถ่ายหวาดระแวงมันก็ไม่เป็นผลดีเท่าไหร่นักพอเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นมา ความจริงเขาน่าจะแยกแยะออกไป สมมติถ้าชอบนางแบบหรือชอบนางงามคนไหนควรจะเจรจากันนอกเวลาไม่ใช่มาลุยกันขณะที่ถ่ายทำ มันก็เป็นส่วนเสีย”

ส่วนตัวได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง? บี๋ : “เวลาที่ติดต่อนางแบบจะไปถ่ายรูปมันก็ยากเย็นพอสมควรอยู่แล้ว เขาก็กลัวๆ เราอยู่ แล้วพอมีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาก็ไม่ได้เป็นผลดีเท่าไหร่นักมันก็เหมือนไปซ้ำเติม แต่ว่ามันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนางแบบนางงามคนนั้นด้วยว่าเขาพอใจที่จะร่วมงานกับใคร ถ้าแบบนี้มันดูไม่โปรเฟสชั่นนอลเลยการที่มาหลีนางแบบตอนกำลังทำงาน มันไม่มีใครเขาทำกัน”

ทำให้ทำงานยากขึ้นไหม? บี๋ : “มันก็มีส่วน เหมือนกับว่าพอเราติดต่อใครไปเขาก็ค่อนข้างระแวง เขาอาจจะนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นว่ามันมีตัวอย่างแล้วแบบนี้ มันจะเป็นอะไรหรือเปล่า”

การทำงานของช่างภาพกับนางแบบ โอกาสในการใกล้ชิดกัน มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ไหม? บี๋ : “มันก็มีส่วน ถ้าจะว่าไปแล้วมันขึ้นอยู่กับตัวช่างภาพเอง จรรยาบรรณของเขา อย่างตัวผมสมัยตอนที่ทำงานเรียกว่าเป็นสายพานเลย อาทิตย์หนึ่งต้องมีการถ่ายอย่างน้อยสองคนแล้วภาพที่ผมถ่ายมันมากกว่าเขาตั้งเยอะ ถึงขนาดโป๊เปลือยเลยก็ว่าได้ นิตยสารหนุ่มสาว ต่อมาทำงานให้กับ PENTHOUSE และต่อมาก็ถ่ายให้กับ PLAYBOY ภาพมันค่อนข้างที่จะเร้าใจ แต่ช่างภาพตามหลักแล้วถ้าเราเป็นช่างภาพจริงๆ เราจะสนใจว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เรากำลังจัดแสง เราต้องการพรีเซนต์นางแบบคนนี้ให้ออกมาสวยและเซ็กซี่ที่สุด เราไม่มีเวลามานึกถึงว่าเรื่องประเด็นอื่นอย่างที่มันเกิดขึ้นอย่างนี้ นอกเสียจากว่าเขาไม่มืออาชีพจริง”

คนมองว่าปลาเน่าตัวเดียวทำให้คนในวงการช่างภาพโดนมองในแง่ลบไปเลย? บี๋ : “ก็มีส่วนครับ แต่คิดว่าเขาคงแยกแยะกันถูก”

การเป็นช่างภาพที่มีจรรยาบรรณที่ดี จะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร? บี๋ : “ก่อนอื่นเลยเราต้องให้เกียรติกับนางแบบที่เราจะถ่าย ไม่ควรจะมาจีบเขาในขณะที่กำลังทำงานอยู่ ขอย้อนกลับไปสมัยโสดๆ หน่อย สมัยก่อนตัวผมเองตอนโสดก็ไม่เคยมาจีบนางแบบในเซ็ตขณะกำลังทำงานอยู่ มันดูไม่มืออาชีพ มันดูไม่โปร อีกอย่างเรากำลังทำงานแข่งกับเวลาทำให้นางแบบสวยและเซ็กซี่ที่สุด ไม่ใช่เอาเรื่องอื่นมาคิด เพราะฉะนั้นในการทำงานสมัยก่อนเรามีการจัดไฟที่ต้องคำนึงถึง โพสท่าก็ต้องดูชุดว่าเป็นชุดอะไร มันมีรายละเอียดให้ทำค่อนข้างเยอะ ไม่มีเวลามาคิดอะไรเรื่องพวกนี้”

ย้อนถามตอนยังโสด มีนางแบบที่ถ่ายให้พยายามเข้าหาหรือมาจีบไหม? ฮันนี่ : “ขออนุญาตตอบแทนได้ไหมคะ ผู้หญิงมาหาเขาเอง”

แล้วเราวางตัวยังไงในการทำงาน? บี๋ : “ผมเป็นคนละเอียดและเป็นคนที่ห่วงงานตัวเองมาก ห่วงว่าถ้าเราทำงานจบแล้วเอาไปพรีเซนต์ให้กับเจ้าของหนังสือหรือเจ้าของงานมันจะไม่สวยพอถ้าเรามัวแต่มาหวั่นไหวเรื่องอื่น เพราะฉะนั้นบอกได้เลยตรงนี้เวลาทำงานแล้วเต็มร้อยเรื่องงานอย่างเดียวไม่เคยคิดจะมาจีบสาวทั้งสิ้น ถ้าเลิกงานแล้วเป็นอีกเรื่องหนึ่ง”

ในมุมมองของ ฮันนี่ ที่เป็นนางงามมาก่อน? ฮันนี่ : “ต้องบอกก่อนว่าไม่รู้รายละเอียดเลยว่าเขาอะไรยังไงประมาณไหน ไม่กล้าที่จะไปคอมเมนต์ เข้าใจในจุดของการทำงานก็อย่างหนึ่ง ในจุดความรู้สึกส่วนตัวก็อย่างหนึ่งเพราะบางคนเขาอาจจะมีโมเมนต์เอามารวมกันในงานเดียวกันหรือเปล่ามันอยู่ที่คนๆ นั้นจะตัดสินใจทำอะไร เพราะฉะนั้นรายละเอียดจริงๆ ฮันนี่ไม่รู้เลย”

บี๋ : “ได้ข่าวว่าถูกเนื้อต้องตัว นี่คืออีกเรื่องหนึ่งในอาชีพนี้เวลาโพสท่าเสร็จแล้วบางทีมันต้องมีเสื้อผ้าที่ต้องจัด แต่ว่าสิ่งเหล่านี้เราไม่เคยทำเอง เราให้ลูกน้องทำหรือไม่เราสั่งนางแบบในการโพสท่า เราไม่เคยเดินเข้าไปจับมือจับขาเขา เมืองนอกเขาฟ้องเราได้เลยถ้าเกิดว่าเราโดนตัวเขาเวลากำลังทำงานอยู่”

ช่างภาพไม่จำเป็นต้องโดนตัวนางแบบ? บี๋ : “ใช่ นอกจากว่าเขาบอกว่าไม่เป็นไรจริงๆ ไหนลองมาโพสท่าให้ดูหน่อย วางแขนไม่ถูกยังไงลองจับ เราถึงโอเคขออนุญาต ส่วนมากจะคุยกันด้วยปากเปล่าก็รู้เรื่องแล้ว หรือไม่ก็เอาเรฟเฟอเรนซ์ให้ดูว่าได้อยากท่าประมาณนี้ ไม่เคยไปจับแข้งจับขาอะไรทั้งสิ้น ไม่เคยจับเลย”

ฮันนี่เคยเจอช่างภาพมาจับเนื้อต้องตัวตอนประกวดไหม? ฮันนี่ : “ไม่มีค่ะ ต้องย้อนไปเป็นนางงามตอนนั้นมันก็นานมากแล้วนะ คือรุ่นนั้นคงไม่มีแบบนี้ จะมีระยะระหว่างช่างภาพกับนางงาม ก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย อาจจะเป็นคนที่ไม่ได้เจอช่างภาพเยอะด้วย”

บี๋ : “ก็เคยถ่ายฮันนี่ครั้งหนึ่ง ครั้งแรกเลยที่รู้จักกันถ่ายโปสเตอร์เรื่อง พรายน้ำ เป็นละครเวที ก็อยู่ในสระเด็กค่อนข้างตื้น ก็กำกับเขาในระยะไม่ได้ไปโดนตัว”

ฝากถึงน้องๆ ช่างภาพรุ่นใหม่ในการทำงาน เพื่อเป็นภาพลักษณ์ที่ดี? บี๋ : “หลักๆ เลยก็น่าจะมีจรรยาบรรณของช่างภาพ ถ้าเป็นในสายแนวบิวตี้แนวแฟชั่น สายแนวอีโรติกหรือนู้ดอะไรก็แล้วแต่ กฎข้อที่หนึ่ง ห้ามถูกเนื้อต้องตัวนางแบบ อาจจะใช้สไตลิสต์ ให้ดูเรฟเฟอเรนซ์ให้ดูรูปว่าจะโพสท่ายังไง แต่จะขาดความมั่นใจของนางแบบถ้าเราไปโดนตัวเขาอาจจะเป็นข่าวแบบตอนนี้ด้วยก็ได้”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน